Nissan GT-R (R35) หนึ่งในรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์ ที่มีอายุโมเดลทำตลาดมาอย่างยาวนานถึง 15 ปี ยังคงเป็นรถที่ได้รับความนิยม และได้รับการยกย่อง กล่าวขานถึงระดับสมรรถนะที่สามารถต่อกรกับคู่แข่งได้ในหลากหลายรูปแบบ แต่อย่างไรก็ตาม…ด้วยอายุอานามที่มากกว่า 1.5 ทศวรรษ ทำให้หลายๆ เสียงเรียกร้องให้ทางค่ายปรับรูปแบบสู่เจนเนอเรชั่นถัดไป ซึ่ง ณ เวลานี้ แม้ในประเทศญี่ปุ่นจะประกาศปิดรับออเดอร์ Nissan GT-R (R35) ไปแล้วอย่างเป็นทางการ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวออกมาอย่างเป็นทางการจากทาง Nissan แต่บรรดานักออกแบบอิสระหลายๆ สำนัก ต่างก็สร้างสรรค์ผลงาน “ว่าที่” เจนเนอเรชั่นต่อไปของ Nissan GT-R ออกมาให้ชมกันอย่างต่อเนื่อง โดยภาพเซ็ตนี้…ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดูน่าสนใจเลยทีเดียว
ภาพแรนเดอร์ Nissan GT-R (R36) โดย Hycade
สำหรับภาพของว่าที่ Nissan GT-R (R36) เป็นภาพที่ได้รับการแรนเดอร์โดยสำนัก Hycade (ซึ่งข้อมูลทั้งหมด ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงจากทาง Nissan) ในส่วนของปรัชญาการออกแบบ เรียกได้ว่าดึงเอาแนวคิดในทิศทางที่คล้ายกับแนวคิดการออกแบบในรุ่นปัจจุบันมาใช้ (โดยเฉพาะเส้นแนวหลังคา ซึ่งสะท้อนคาแร็กเตอร์ความเป็น GT-R ออกมาให้เราได้เห็นตั้งแต่สัมผัสแรก) เพียงแต่มีการปรับในส่วนของเส้นสาย รายละเอียด รวมถึงอุปปกรณ์ที่ใช้ให้ดูมีภาพลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว สะดุดตา ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น
ในด้านหน้าของภาพแรนเดอร์ Nissan GT-R (R36) โดย Hycade มาพร้อมเซ็ตไฟหน้าคู่กับไฟ Day Light ในลักษณะแถบเส้น LED พร้อมการดีไซน์ชุดกันชน กระจังหน้า พร้อมชุดช่องรับลมด้านข้าง ให้ดูมีความโฉบเฉี่ยวกว่าเจนเนอเรชั่นก่อน ส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของว่าที่ Nissan GT-R (R36) ดูมีความปราดเปรียว ดุดัน กว่าที่คนรักความเร็วเคยได้สัมผัสมา โดยสิ่งที่เป็นตัวเรียกความสนใจในด้านข้างคงหนีไม่พ้นกระจกมองข้างดีไซน์เพรียวลม พร้อมกับการดีไซน์ชุดมือเปิดประตูแบบ Seamless ใหม่ ซึ่งช่วยเพิ่มความกลมกลืนกับตัวถัง ตามหลักแอโร่ไดนามิคส์ได้อีกขั้น
ความโดดเด่นในด้านท้ายของแนวคิด Nissan GT-R (R36) โดย Hycade คงหนีไม่พ้นหางหลังที่เรียกความสนใจจากผู้พบเห็นได้เป็นอย่างแรก โดยมีการออกแบบให้รับกับเส้นสายของตัวรถ ที่ถูกวางไว้อย่างเฉียบคม โดยในส่วนของไฟท้าย แน่นอนว่ายังคงเอกลักษณ์ความเป็น “ไฟท้วยโดนัท” ของรถในตระกูล GT-R เอาไว้ เพียงแต่เส้นสายที่ใช้ เน้นเส้นที่เล็กแต่มีความเฉียบคมด้วยแถบไฟ LED และเมื่อมองยาวลงมาถึงด้านล่าง การออกแบบชุดดิฟฟิวเวอร์ รวมถึงการจัดวางท่อไอเสีย สามารถวางตำแหน่งได้อย่างดุดันและลงตัว ซึ่งช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของว่าที่ Nissan GT-R (R36) แบบที่สาวก GT-R ต่างก็ต้องหลงรักอย่างแน่นอน
ด้านขุมพลังของ Nissan GT-R (R36) ตามประกาศของ Nissan ที่ออกมาประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่า จะยกเลิกการพัฒนาเครื่องยนต์ล้วนๆ และผันตัวไปพัฒนาระบบขับเคลื่อนในรูปแบบอื่นๆ เพื่อให้สามารถรองรับมาตรฐานไอเสียที่มีความเข้มงวดมากขึ้นทั่วโลก (Euro 7) จึงเป็นไปได้ยากในการออกแบบเครื่องยนต์สันดาปสมรรถนะสูงให้ผ่านมาตรฐานในระดับนั้น ทางเลือกที่น่าสนใจและมีความเป็นไปได้ของ Nissan GT-R (R36) จึงคาดว่าอาจจะมาในรูปแบบ เครื่องยนต์ควบคู่ไปกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งคงต้อง…
รอดูกันต่อไป
ขอขอบคุณภาพและคลิปจาก Hycade