UBER Air  

อเมริกันลงมาเล่นเต็มตัวกับ UBER Air  ผลิตแบบฟลีท เปิดเป็น Air Taxi ที่ แอลเอและดัลลัส เมื่อปีที่แล้ว ใส่ปัญญาประดิษฐ์ระดับ 4-5  เต็มพิกัด ขึ้นลงในแนวดิ่ง ไม่ต้องใช้ระยะทางเทคอ๊อฟและแลนดิ้ง วางเครื่องซีรีย์ไฮบริดใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแล้วนำพลังไฟฟ้านั้นไปมอเตอร์ปั่นปีกหมุนแบบเฮลิคอปเตอร์ บรรจุผู้โดยสารได้ 5 คน(รวมนักบิน) ระยะบินทำการ 150 ไมล์ในความเร็วปกติ 150 ไมล์ต่อชั่วโมง  ชุดแบตเตอรี่140 kWh บินๆไปไฟใกล้หมดก็ถลาลงมายังสถานีชาร์จ “ChargePoint” ที่ประจุได้สูงถึง 2 MW สถานีชาร์จที่ว่านี้สร้างกระจายไว้ตามจุดต่างๆจำนวนมาก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน  โครงการของ UBER นี้เป็นรูปเป็นร่างสุดขณะนี้ 

AIRBUS 

  ฝั่งยุโรปก็ต้อง AIRBUS ที่เยอรมันและฝรั่งเศสเป็นผู้นำทัพในโครงการ A^3 มุ่งออกมาใช้เป็นแท๊กซี่บินขนคน และโดรนบริการขนสัมภาระ แทนการเดินทางทางบก สำเร็จออกมาใกล้เคียงกับ UBER ใช้ชื่อว่า “Vahana”  มันคือ ‘CityAIRBUS’ ที่ใส่ AI เพื่อเข้าสู่ยุคไร้คนขับ ไร้นักบิน ซึ่งไม่ต้องการความผิดพลาดใดๆ  ทาง AIRBUS แถลงว่าไม่ต้องการแข่งกับ UBER, AMAZON และ DHL สิ่งที่ AIRBUS จะนำมาใช้เป็นจุดขายคือเข้ามาบริการแทนแท๊กซี่ดั้งเดิม โดยตั้งค่าโดยสารต่อหัวจะถูกกว่า นั่งแล้วตื่นเต้นกว่า !!   

UBER Japan 

  มี TOYOTA, NEC, SUBARU,  JAPAN AIRLINES, BOEING JAPAN เป็นผู้เล่นหลัก มันคือ UBER JAPAN ที่สำเร็จขั้นต้นออกมาเป็นยานยนต์บินต้นแบบ ยาว 4 เมตร น้ำหนัก 150 กิโลกรัม กำเนิดพลังจากมอเตอร์ที่ใช้แบตเตอรี่ ทำการทดลองบินที่ระดับความสูง 3 เมตรประมาณหนึ่งนาที ย่านชานเมืองโตเกียว ก่อนนำลงจอดสำเร็จ แง่ความพร้อมนั้นญี่ปุ่นไม่เป็นรองใคร ภาครัฐเข้ามาให้การสนับสนุนจริงจัง ตั้งเป้าให้ญี่ปุ่นก้ววติดเพื่อเป็นผู้นำระดับโลก ระดมวามคิดเพื่อเดินหน้าถึงเป้าหมายระดับชาติให้สำเร็จ ทั้งนี้เพราะปัจจุบันเมืองหลักของญี่ปุ่นแออัดมาก ทั้งสิ่งก่อสร้าง อาคาร ผู้คน ยานยนต์ การจราจร การนำยานยนต์บินอัตโนมัติพลังไฟฟ้ามาใช้ จะช่วยบรรเทาปัญหานี้ 

จับตาสิงค์โปร์ !!

    สิงค์โปร์นั้นรวดเร็วเสมอ ก้าวรวดเร็วกว่าประเทศอาเซี่ยนมาก ตอนนี้นอกจากวิสัยทัศน์เป็น Hub of EV ย่านนี้แล้ว ยังไปคว้า “Licence” การเป็นเอเจนท์ยานบินทั้งแท๊กซี่บิน Flying Taxi และโดรนบินเชิงพาณิชย์ Commercial Drone เหนือภูมิภาคนี้ โดยเสนอตัวเข้าไปร่วมศึกษาเทคโนโลยีช่วงที่ Airbus ทดสอบการบินด้วย นั่นก็เท่ากับว่าเมื่อถึงยุคที่ว่านี้ในอนาคต พวกเราจะต้อง “ติดต่อผ่านเฮีย” เขาเท่านั้น แดร๊กหัวคิวสบายๆ เพราะเคลื่อนตัวเร็วกว่า ฉลาดด้านการค้าขายกว่านั่นเอง 

อ่านบทความ

“ยานบิน” มาแล้ว… บินว่อนขึ้นไปจุดคบเพลิงงานมหกรรมกีฬาโลก!!!