Test Drive Ora Good Cat ประกอบไทย ราคาถูกลง ออฟชั่น วัสดุ…จัดว่าดี แต่จะ “โดนใจสายขับไหม ?”


Ora Good Cat หนึ่งในรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกๆ ที่ถูกนำเข้าจากประเทศจีน เพื่อเปิดตลาดรถยนต์ในรูปแบบ BEV ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2021 โดย ณ เวลานั้น ค่าย Great Wall Motor เป็นหนึ่งใน 2 ค่ายรถยนต์แบรนด์หลักๆ ที่เซ็น MOU ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อชดเชยการนำเข้าในประเทศไทย เพื่อรับสิทธิ์สนับสนุนทางภาษี รวมถึงเงินอุดหนุน 1.5 แสนบาท โดยล่าสุดเป็นค่าย Great Wall Motor นี้เอง ที่เป็นรถยนต์จากประเทศจีนแบรนด์แรก ที่ประกาศเปิดไลน์การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย เพื่อผลิตและประกอบ Ora Good Cat รุ่นปี 2024

Ora Good Cat รุ่นประกอบในประเทศ ราคาเริ่มต้น 799,000 บาท

ภาพรวมของความเปลี่ยนแปลงใน Ora Good Cat รุ่นปี 2024 คือ

การยกเลิกรุ่นย่อยที่แบ่งตามระยะการเดินทางต่อชาร์จ โดยจากเดิมที่มีรุ่น 400 (47.7 kWh) และ 500 (รวมถึง GT ที่ 63.1 kWh) ที่ใช้ขนาดแบตเตอรี่แตกต่างกันไป ถูกปรับรุ่นย่อยมาเป็น Ora Good Cat รุ่น Pro, Ultra และรุ่น GT ซึ่งในทั้ง 3 รุ่นย่อยนั้น เปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่แบบ Short Blade แบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่นพี่ Ora 07 (คุณสมบัติเด่น คือ เจาะทะลุ Nail Test เกิดความร้อนต่ำ และไม่เกิดการระเบิด) ที่ผลิตจากโรงงาน SVOLT ในประเทศไทย (แทนที่ CATL เดิม จากประเทศจีน) ความจุจากเดิม ถูกขยับมาเป็นไซส์เดียวที่ 57.7 kWh กันในทั้ง 3 รุ่นย่อย สามารถรองรับการเดินทางได้ 480 กม. สำหรับ Ora Good Cat รุ่น Pro, Ultra (มอเตอร์กำลัง 143 แรงม้า กับแรงบิด 210 นิวตัน-เมตร) และ 460 กม. ต่อชาร์จ ตามาตรฐาน NEDC สำหรับ Ora Good Cat รุ่น GT (มอเตอร์กำลัง 171 แรงม้า กับแรงบิด 250 นิวตัน-เมตร) ซึ่งผลพวงจากการปรับขนาดและรูปแบบของแพคแบตเตอรี่ รวมถึงการประกอบในประเทศไทย ส่งให้ตัวรถ Ora Good Cat รุ่นปี 2024 สามารถสร้างแรงดึงดูดให้กับผู้ใช้ ที่อยากสัมผัสความเป็นรถ BEV ที่เข้าถึงง่าย ได้อีกเลเวล

ค่าตัวถูกลง ออพชั่นคงเดิม งานประกอบในประเทศ…เนียนกริ๊บ

Ora Good Cat ในรุ่น Pro ทางค่ายปรับหมากเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น (เพื่อให้รับกับมาตรการสนับสนุน EV 3.5 ซึ่งจะได้ส่วนลดจากเงินสนับสนุนสูงสุด 1 แสนบาท สำหรับปี 2567 แทนที่จะเป็น 5 หมื่นบาท เมื่อเทียบกับการใช้แบตเตอรี่ขนาดเท่าเดิม) นั่นจึงทำให้ Ora Good Cat รุ่นปี 2024 สามารถกดราคาเริ่มต้นให้อยู่ในระดับ 7.99 แสนบาท หากคุณไม่ได้ต้องการออพชั่น รวมถึงระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่ครบครัน (ที่ต้องเพิ่มงบอีก 1 แสนบาท เพื่อไปรุ่น Ultra) รุ่นนี้ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าไม่น้อย โดยออพชั่นหลักๆ ที่ยังคงได้อยู่ คือ หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ, ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว, เบาะผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, ระบบสั่งการด้วยเสียง, รวมถึงระบบความปลอดภัยขั้นสูงในด้านหน้า เช่น Adaptive Cruise Control, ระบบเตือนการชนพร้อมช่วยเบรก, ระบบเตือนพร้อมช่วยดึงกลับให้รถอยู่ในเลน

ห้องโดยสารของรุ่น GT ปรับทริมเป็นดำ – เหลือง ส่วนในรุ่น Pro และ Ultra มีภายใน 4 สี ตามสีตัวถัง

เพิ่ม Wireless Charger 50W สำหรับรุ่น Ultra และ GT ย้ายตำแหน่งมาอยู่บริเวณแป้นเกียร์เดิม

เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต พร้อมระบบนวดและระบายอากาศในคู่หน้า สำหรับรุ่น GT โดยเฉพาะ

ส่วน Ora Good Cat ในรุ่น Ultra และรุ่น GT นอกจากสไตล์การตกแต่ง รวมถึงระดับความแรงของมอเตอร์ที่แตกต่างกันแล้ว ทั้งคู่นี้…ถือว่าให้ออพชั่น ระบบความปลอดภัยในระดับที่ใกล้เคียงกันมาก ไม่ว่าจะเป็น Wireless Charger ขนาด 50W, ระบบจ่ายกระแสไฟหรือ V2L กำลัง 3,300W, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ 3 รูปแบบ, ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ, ระบบความปลอดภัยทางด้านท้าย (เช่น BSM, RCTA) รวมถึงเซ็นเซอร์กะระยะ หน้า 6 จุด และหลัง 6 จุด โดยทั้งหมดเป็นออพชั่นที่ถือว่าจัดเต็มใน Ora Good Cat ในรุ่น Ultra ซึ่งวางราคาไว้ในระดับ 8.99 แสนบาท แต่หากไม่ซีเรียสเรื่องงบประมาณ พร้อมจ่ายเพิ่มอีก 2 แสนบาท เพื่อไปรุ่น GT (1.099 ล้านบาท) สิ่งที่จะได้เพิ่มขึ้นมาก็คือ ฟังค์ชั่น Launch Mode ที่ช่วยในการออกตัวได้อย่างรวดเร็ว ทรงพลังมากขึ้น, โหมดการขับขี่แบบ Individual ที่สามารถเลือกปรับค่าการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์ของตัวผู้ขับขี่ได้มากขึ้น, ระบบนวดและระบายอากาศที่เบาะคู่หน้า, ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบ Hand Free เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับ Ora Good Cat รุ่นปี 2024 ทั้ง 3 รุ่นย่อย แม้จะย้ายฐานการผลิตมาอยู่ในประเทศไทยแล้ว แต่ยังคงไม่มีที่ปัดน้ำฝนสำหรับกระจกบานหลังมาให้เช่นเดิม

ในรุ่น Ultra และ GT มาพร้อม V2L พิกัด 3.3 kW

สำหรับการทดลองขับ Ora Good Cat รุ่นปี 2024 ในครั้งนี้ ทางค่าย Great Wall Motor จัดเป็นทริปสั้นๆ รวมระยะทางไป – กลับ ประมาณ 200 กม. เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสฟีลลิ่งการขับขี่แบบเบาๆ พร้อมฟังค์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมาในตัวรถ โดยเฉพาะ V2L ที่สามารถจ่ายกำลังไฟได้สูงสุดถึง 3,300W ซึ่งถือว่าเป็นกำลังการจ่ายไฟที่มากกว่ารถ EV ในระดับเดียวกัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการใช้งานในกิจกรรม Outdoor รูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะกับสายแคมปิ้ง ที่ฟังค์ชั่นนี้…ถือว่าเป็นลูกเล่นที่มีประโยชน์และเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน อันเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของรถ EV ซึ่งควรจะมีมาให้ในทุกรุ่นย่อย

คันเกียร์ย้ายตำแหน่งมาอยู่หลังพวงมาลัย ใช้งานง่าย และลดโอกาสความผิดพลาดได้อย่างน่าประทับใจ

สิ่งหนึ่งที่อดชื่นชมไม่ได้ สำหรับ Ora Good Cat รุ่นปี 2024 ก็คือ การที่ตำแหน่งของคันเกียร์ จากเดิมที่เป็นแบบหมุนบริเวณคอนโซลกลาง (ที่บ่อยครั้ง…หมุนไปหนุมมา แล้วตำแหน่งเกียร์ไม่เป็นไปตามต้องการ) มาเป็นแบบก้านด้านขวาบนคอพวงมาลัย โอกาสของความผิดพลาดในการเปลี่ยนเกียร์ คือ น้อยลงมากจนแทบจะไม่มี อีกทั้งยังสามารถปรับพื้นที่ของตำแหน่งเกียร์เดิม มาเป็นที่อยู่ของชุด Wireless Charger ที่สามารถปล่อยกำลังไฟในการชาร์จสูงสุดถึง 50W (จากเดิมที่รองรับเพียง 15W) แต่สิ่งที่เป็นจุดด้อยในการปรับเปลี่ยนก็ยังคงมีให้พูดถึง เช่น การที่ฟังค์ชั่นบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เบรกมือ, Auto Brake Hold รวมถึงการปรับโหมดการขับขี่ ถูกจับมัดรวมเข้าไปอยู่ในหน้าจอกลาง ทำให้การเลือกใช้งานนั้น อาจจะต้องทำความคุ้นเคยสักระยะ ซึ่งสำหรับคนที่เพิ่งจะเคยมาจับรถ Ora Good Cat รุ่นปี 2024 เป็นครั้งแรก การจะเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆ ถือว่าทำได้ค่อนข้างยากทีเดียว

เทียบการทำงานของระบบ ADAS ในรุ่นใหม่นี้ ถือว่ามีความละเอียดมากขึ้น เช่นเดียวกับการตอบสนองของช่วงล่างที่ทำได้ดีขึ้เช่นกัน

การทดลองขับขี่ในครั้งนี้ #ทีมขับซ่า จับกล่องสุ่มได้ลองขับ Ora Good Cat ในรุ่น GT ซึ่งครั้งหนึ่งเราเคยได้ทดลองขับมาแล้ว หลังจากที่เปิดตัวรุ่นที่นำเข้าจากประเทศจีน สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นคำถามในใจสำหรับรุ่นที่ทำตลาดในเวลานั้น คือ การตอบสนองของพวงมาลัย รวมถึงเซ็ตช่วงล่าง ที่ดูจะยังไม่สัมพันธ์กันเท่าใดนัก ด้วยน้ำหนักพวงมาลัยที่ค่อนข้างเบาและไวจนเกินไป บวกกับช่วงล่างที่ค่อนข้างแข็ง (แต่ไม่ได้รู้สึกเฟิร์มสำหรับการขับขี่ที่ความเร็วสูง) บวกกับการทำงานของระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ออกแนว “โฉ่งฉ่าง” จนต้องแอบปิดการทำงานในหลายๆ ฟังค์ชั่น พอกลับมาในครั้งนี้ เรารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น โดยการทำงานของระบบได้รับการปรับจูนให้มีความละเอียด และตอบสนองได้อย่างนุ่มนวล ไม่ว่าจะเป็น การทำงานของระบบเตือนออกนอกเลน พร้อมดึงกลับอัตโนมัติ รวมถึงระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ซึ่งทำงานได้เนียนและดูน่าไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุด เมื่อเทียบกับรถ EV ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ในส่วนของช่วงล่าง การที่ยังคงใช้ช่วงล่างหลังแบบ Torsion Beam ดูจะเป็นจุดอ่อนที่เสียเปรียบคู่แข่งโดยตรงอย่างชัดเจน (รวมถึงคู่แข่งที่ยังคงใช้ช่วงล่างแบบเดียวกัน แต่เซ็ตค่ามาได้ลงตัวกว่าด้วย) แต่อย่างน้อยการที่ Ora Good Cat GT รุ่นปี 2024 มีการปรับไซส์ของแบตเตอรี่ให้เล็กลง (ส่งผลต่อน้ำหนักของตัวรถที่เบาลงตามไปด้วย) ก็ทำให้ฟีลลิ่งของช่วงล่างนั้น ดูจะตอบสนองได้อย่างเหมาะสม ให้ความรู้สึกที่ลงตัวมากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นที่นำเข้ามาทำตลาดในครั้งแรก

นอกจากในรุ่น Ora Good Cat 2024 ในรุ่น GT แล้ว #ทีมขับซ่า ยังคงมีโอกาสได้ทดลองขับรุ่นย่อย Pro และ Ultra ด้วยเช่นกัน สิ่งหนึ่งที่ให้ความรู้สึกในทำนองเดียวกัน คงหนีไม่พ้นช่วงล่าง ซึ่งพอปรับมาใช้แบตเตอนี่ขนาดเดียวกัน เซ็ตติ้งในรูปแบบเดียวกัน ความแตกต่างในแง่การขับขี่ทั่่วไป แทบไม่มีให้เห็น จะมีที่แตกต่างชัดๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องของพละกำลังและการตอบสนอง ซึ่งในรุ่น GT ถือว่ามีความกระฉับกระเฉงมากกว่าอีก 2 รุ่น อยู่พอสมควร และอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้อย่างน่าสนใจ โดยสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้ขับขี่จาก #ทีมขับซ่า รู้สึกชื่นชอบใน Ora Good Cat 2024 ในรุ่น GT ก็คือ การปรับดีไซน์ของชุดเบาะให้มาในแบบสปอร์ต ซึ่งช่วยเพิ่มความโอบกระชับ และความมั่นใจในการขับขี่ได้มากกว่าการใช้เบาะในรูปแบบเดิม ที่ยังคงติดตั้งอยู่ในรุ่น Pro และ Ultra

สำหรับรุ่น GT อัตราเร่งในภาพรวม ถือว่าอยู่ในกลุ่มที่ฟัดกับคู่แข่งได้สนุก ส่วนในรุ่น Pro และ Ultra คือ เด่นกว่าคู่แข่งค่อนข้างชัด

อัตราเร่ง Ora Good Cat 2024 เทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน

อัตราเร่ง (วินาที) Ora Good Cat GT BYD Dolphin Extended MG 4 Electric   Ora Good Cat Pro / Ultra BYD Dolphin Standard
0-40 กม./ชม. 2.48 2.46 2.48 3.14 3.25
0-60 กม./ชม. 3.73  3.69 3.79 4.87 5.16
0-80 กม./ชม. 5.26  5.11 5.60 7.31 7.95
0-100 กม./ชม.  7.31  7.01  7.55 10.66 11.97
0-120 กม./ชม.   10.23 9.49    10.33 15.32 17.57
0-140 กม./ชม. 13.86 12.69 14.21 21.93  26.97
0-160 กม./ชม. 27.87 17.00
60-80 กม./ชม. 1.56  1.44 1.63 2.41 2.81
80-120 กม./ชม. 4.78 4.32 5.01 7.99  9.57
100-120 กม./ชม. 2.76 2.45 2.82 4.63   5.58
ควอเตอร์ไมล์ 15.55 @ 147.1 15.24 @ 152.4 15.64 @ 146.8 17.77 @ 128.6 18.44 @ 122.9
ความเร็วสูงสุด 165.3 กม./ชม. 175.1 กม./ชม. 159.0 กม./ชม. 156.7 กม./ชม. 157.8 กม./ชม.

อัตราสิ้นเปลืองสำหรับการขับขี่ทั่วไป ป้วนเปี้ยนอยู่แถว 15.5 kW/100 กม. คิดเป็นค่าใช้จ่ายต่ำกว่า 50 สตางค์ ต่อ 1 กม.

ด้านอัตราสิ้นเปลืองของ Ora Good Cat GT รุ่นปี 2024

หากขับขี่ด้วยความเร็วทั่วไปตามที่กฏหมายกำหนด พบว่ากินไฟอยู่ที่ราว 15.5 kWh ต่อ 100 กม. หากเทียบกับระยะการเดินทาง 200 กม. ในทริปนี้แล้ว ใช้ไฟไปทั้งสิ้นราว 31 kWh ซึ่งคิดเป็นค่าไฟ 93 บาท หรือ กม. ละ 46 สตางค์ สำหรับการชาร์จไฟบ้านแบบ TOU (หน่วยละ 3 บาท) แต่หากนำค่าดังกล่าวไปคำนวณด้วยการชาร์จไฟตามจุดชาร์จสาธารณะที่หน่วยละ 7.5 บาท จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราว 232 บาท หรือคิดเป็นค่าไฟ กม. ละ 1.16 บาท


Related posts

สยบข่าวมั่ว ! Suzuki ยกเลิกทำตลาดรถยนต์ในไทย ย้ำ…แนะนำรถรุ่นใหม่ต่อเนื่อง ลุ้นทำตลาด EV SUV ในปี 2568

แปลกได้โล่ห์ ! ชม BMW XM เจ้าของฉายา Mystique Allure ตัวเด่นในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์

Honda ประกาศ…มุ่งผลิตรถ EV ด้วยเทคโนโลยีจาก Formula 1 เน้นให้ตัวรถมีน้ำหนักที่เบาลง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา เรียนรู้เพิ่มเติม