บริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบรนด์ Neta ร่วมสนับสนุนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีน-อาเซียน (Comprehensive Strategic Partnership) มั่นใจศักยภาพไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน ในงาน China-Asean Expo จัดขึ้น ณ นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกวางสี สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน ที่ผ่านมา
Neta พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนอย่างเต็มที่
ภายในงาน Mr. Fang Yunzhou (ฝาง หยุนโจว) ผู้ก่อตั้งและประธาน บริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด ได้ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่องความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างอุตสาหกรรมยานยนต์จีน-อาเซียน โดยระบุว่าภูมิภาคอาเซียนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความต้องการรถยนต์พลังงานใหม่ (New Energy) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจีนได้ร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียนพัฒนายานยนต์พลังงานใหม่มาอย่างต่อเนื่องและปัจจุบันจีน คือ ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานใหม่ที่มีส่วนแบ่งเป็นทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งของโลกเป็นระยะเวลา 7 ปี ติดต่อกัน ในเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ส่วนแบ่งทางการตลาดของรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศจีนมีมากกว่า 28% และคาดว่าอัตราการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของตลาดโลกจะสูงถึง 25% ภายในปี 2568
ทั้งนี้จีนพร้อมร่วมมือกับพันธมิตรในในภูมิภาคอาเซียนอย่างเต็มที่เพื่อสร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในทุกมิติ
ปัจจุบันรถยนต์ในสายพานการผลิตของ Neta ทั้ง Neta V, Neta U และ Neta S ได้ถูกพัฒนาให้เป็นรุ่นพวงมาลัยขวาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคต่างๆ
Neta ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศจีน โดยในปี 2021 ได้รับรางวัลแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศจีน และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 26 เดือนที่ผ่านมา โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสามารถรั้งตำแหน่งผู้นำในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหม่ของจีนหลังยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสูงถึง 16,017 คัน เติบโตขึ้นขึ้น 142% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่ยอดขายสะสมตั้งแต่มกราคมถึงสิงหาคม 2022 อยู่ที่ 93,185 คัน เพิ่มขึ้น 176% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา และคาดการณ์ยอดขายในเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 กว่า 20,000 คัน ทั้งนี้ Neta ตั้งเป้าส่งออกรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกกว่า 50,000 คัน ภายในปี 2566
จะร่วมปฏิรูปการใช้พลังงานใหม่รวมไปถึงมีส่วนร่วมในการจัดทำห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของอุตสาหกรรมยานยนต์ของอาเซียนเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น