น่าจะเป็นอีกหนึ่งในหลายๆ รุ่นที่แฟนๆ ของรถ EV กำลังรอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากมีข่าวลือออกมาเป็นระยะว่า MG EP รุ่นปี 2022 เตรียมจะมีการทำตลาดในประเทศไทยในไม่ช้า ซึ่งก่อนหน้านี้ ตัวรถได้มีการเปิดตัวและทำตลาดในประเทศอังกฤษไปเป็นที่เรียบร้อย ในชื่อ MG 5 EV (คล้ายกับชื่อรุ่นที่ทำตลาดในประเทศจีน) โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 30,995 ปอนด์ หรือราว 1.30 ล้านบาท สำหรับรุ่น SE และ 33,495 ปอนด์ (ประมาณ 1.41 ล้านบาท) สำหรับรุ่นย่อย Trophy ซึ่งทั้ง 2 รุ่นที่ทำตลาดในประเทศอังกฤษนั้น มีแพลนจะส่งมอบในช่วงสิ้นปี 2565
MG EP รุ่นปี 2022 หรือ MG 5 EV
โฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่เปิดตัวไปในประเทศอังกฤษ นับว่ามีจุดต่างกับ MG EP ที่ทำตลาดอยู่ในบ้านเราพอสมควร ทั้งในส่วนของภาพลักษณ์ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เซ็ตมาให้ เริ่มตั้งแต่การออกแบบดีไซน์ในด้านหน้า และด้านท้ายให้ดูทันสมัย สมกับความเป็นรถ EV ในยุค 2022 มากยิ่งขึ้น ในส่วนของสีตัวถัง มาในรูปแบบ Two Tone ซึ่งเป็นดีไซน์ที่แบรนด์ MG รุ่นใหม่ๆ เช่น MG VS HEV นำมาใช้ พร้อมอัพเกรดอุปกรณ์ เช่น ชุดไฟหน้า ที่มาในรูปแบบ LED แทนที่ของหลอดฮาโลเจนในโคมโปรเจ็คเตอร์ ส่วนล้ออัลลอย จากเดิมที่มีเพียงล้อขนาด 16 นิ้ว ในครั้งนี้มีการปรับเพิ่มขนาดล้อเป็น 17 นิ้ว สำหรับรุ่น Trophy ซึ่งให้ความสยงาม และภาพลักษณ์ที่ดูภูมิฐานมากยิ่งขึ้น
อีกสิ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเลยก็คือ การออกแบบฟังค์ชั่นการใช้งานภายในห้องโดยสาร โดยใน MG EP รุ่นปี 2022 หรือ MG 5 EV โฉมไมเนอร์เชนจ์ มีภายในมาให้เลือก 2 โทนสี ไม่ว่าจะเป็นสีดำ หรือ สีขาว ที่ให้ความรู้สึกโปร่ง สบายสำหรับการโดยสาร พร้อมทั้งปรับชุดหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 10.25 นิ้ว ที่พร้อมรองรับระบบการเชื่อมต่อ iSmart สำหรับสั่งการและดูสถานะต่างๆ ของตัวรถ MG EP รุ่นปี 2022 โดยสำหรับในรุ่น SE ซึ่งเป็นรุ่นมาตรฐาน จะยังมาพร้อมออพชั่นอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการขับขี่อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบ MG Pilot ADAS, ระบบเปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ, กล้องมองหลังขณะถอยจอด, ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน หรือ Adaptive Cruise Control รวมถึงระบบการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทั้ง 2 รุ่นย่อย ส่วนสิ่งที่จะได้เพิ่มขึ้นมาในรุ่น Trophy คือ กระจก 3 บานหลังแบบ Privacy Glass, การตกแต่งภายในด้วยหนัง, เบาะปรับไฟฟ้าพร้อมระบบอุ่นในคู่หน้า, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ รวมถึงกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา