เชื่อว่าเป็นข่าวที่แฟนคลับของ รถ EV ในประเทศไทย ฟังแล้วใจฟูขึ้นมาอย่างแน่นอน เมื่อ 2 แบรนด์ผู้ผลิตและจำหน่ายรถ EV ชั้นนำ อย่าง MG และ BYD ต่างพร้อมใจเตรียมปล่อยหมัดเด็ดภายในปีนี้ โดยค่ายแรก แม้จะยังไม่มีข้อมูลอะไรออกมามากนัก แต่จากภาพที่เราได้เห็นในโซเชียล คือ มันฟ้องมาก กับการที่ MG 4 EV หรือ MG Mulan แปะป้าย TC กำลังวิ่งทดสอบบนถนนเมืองไทยแท้ๆ ส่งสัญญาณความเป็นไปได้ในระดับสูง ที่จะมีการเปิดตัวภายในเร็วๆ นี้
ส่วนฝ่ายหลังอย่าง BYD ล่าสุดออกมาประกาศชัดเจนแล้วว่า ในวันที่ 9 กันยายนนี้ จะมีการเซ็น MOU ร่วมกับภาครัฐเพื่อการสนับสนุนรถ EV ก่อนที่จะมีการประกาศเปิดตัวรถรุ่นแรกของค่ายในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งรถที่จะนำมาเปิดตัวในประเทศไทยเป็นรุ่นแรกก็คือ BYD Atto 3 ความน่าสนใจของค่าย BYD คือ การทุ่มเม็ดลงทุนเงินมหาศาลกว่า 2 หมื่นล้านบาท สำหรับการทำตลาดในประเทศไทย โดยในจำนวนนั้น กว่า 17,800 ล้านบาท จะลงทุนสำหรับการก่อสร้างโรงงานเพื่อการผลิตและประกอบรถ EV ก่อน และผลิตรถในรูปแบบ PHEV ภายในปี 2024 ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีข่าวออกมาว่า BYD ได้ทำเลแถบระยองกว่า 600 ไร่ สำหรับการตั้งโรงงานในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ส่วนงบที่เหลืออีกราว 3,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนสำหรับโชว์รูมและระบบการบริการหลังการขาย ซึ่งภายในปีนี้ แพลนว่าจะมีการเปิดโชว์รูมทั้งสิ้น 31 แห่ง ทั่วประเทศ ก่อนที่จะมีการขยับขยายเป็น 60 แห่ง ภายในสิ้นปี 2566 โดยเป้าหมายอันแรงกล้าของ BYD คือ การเป็นแบรนด์ Top 5 ในประเทศไทย ภายในเวลา 5 ปี ซึ่งตรงนี้ คือ น่าสนใจ และน่าติดตามมากๆ
สำหรับสเป็คในต่างประเทศ ทั้ง MG 4 EV และ BYD Atto 3 มาใน 2 รูปแบบ
เช่นเดียวกัน นั่นก็คือ มีทั้งรุ่น Standard และรุ่น Long Range ให้เลือก ในจุดนี้สำหรับทั้ง 2 แบรนด์ มีความต่างกันอยู่เล็กน้อยที่เรื่องการจัดการระดับของพละกำลัง โดยทางฝั่ง MG 4 EV หากเป็นรุ่นมาตรฐาน จะมาพร้อมมอเตอร์กำลัง 170 แรงม้า (จับคู่แบตเตอรี่ 51 kWh รองรับระยะการเดินทางต่อชาร์จ 350 กม. ตามมาตรฐาน WLTP และให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 7.5 วินาที) ส่วนในรุ่น Long Range พละกำลังจะถูกขยับไปที่ 203 แรงม้า พร้อมแรงบิดในระดับเดียวกันที่ 250 นิวตัน-เมตร (จับคู่แบตเตอรี่ 64 kWh รองรับระยะการเดินทางต่อชาร์จ 452กม. ตามมาตรฐาน WLTP และให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 7.7 วินาที…แม้จะมีกำลังมากกว่า แต่ด้วยการต้องแบกน้ำหนักที่มากกว่า ส่งผลต่อระดับอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลืองโดยตรง) ด้านประสิทธิภาพการชาร์จ MG 4 EV ถือว่าทำได้เด่นกว่าอย่างชุดเจน โดยในรุ่นสแตนดาร์ด รองรับกำลังการชาร์จสูงสุดที่ 100 kW ซึ่งทำให้การชาร์จจาก 10-80% ทำได้ภายในเวลาเพียง 39 นาที ส่วนในรุ่น Long Range ที่รับไฟในการชาร์จสูงสุดได้แรงมากขึ้นที่ 125 kW จะสามารถชาร์จจาก 10-80% ได้ในเวลาเพียง 35 นาที เท่านั้น !!!
BYD Atto 3 แม้จะมีความจุแบตเตอรี่ 2 รูปแบบ ให้เลือก แต่ทั้ง 2 รุ่นนั้น
ให้พละกำลังในการขับเคลื่อนเท่ากันที่ 204 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 310 นิวตัน-เมตร มาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหน้า โดยทำอัตราเร่งได้ดีที่สุดที่ 7.3 วินาที โดยสำหรับรุ่นสแตนดาร์ด มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 49.9 kWh รองรับการเดินทางต่อชาร์จ 345 กม. และสามารถชาร์จไฟแบบ Quick Charge ได้ด้วยกำลังสูงสุด 70 kW ซึ่งทำให้การชาร์จด้วยไฟกระแสตรงจาก 10-80% ทำได้ในเวลาประมาณ 46 นาที ส่วนในรุ่น Long Range ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ 60.5 kWh พร้อมรองรับการเดินทาง 420 กม. ต่อชาร์จ และสามารถชาร์จเร็วจาก 10-80% ได้โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที