ด้วยอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้รถ EV จากประเทศจีน เป็นที่นิยมและมีความต้องการอย่างแพร่หลายมากขึ้นในตลาดโลก ซึ่งรวมไปถึงในอเมริกา ที่ผู้ใช้ชาวมะกันเริ่มจะเปิดใจลองของใหม่ๆ กันมากขึ้น (หลังจากรถ EV จากจีนหลากหลายรุ่น ได้การยอมรับอย่างแพร่หลายในยุโรป) แต่ข้อจำกัดอย่างหนึ่ง ของรถ EV จากประเทศจีน สำหรับการทดตลาดในอเมริกาก็คือ เงื่อนไขทางภาษี ซึ่งอาจทำให้ความน่าสนใจของรถ EV จากประเทศจีนเหล่านี้…ลดน้อยถอยลงไป
เดิมที…เงื่อนไขสำหรับผู้ที่ซื้อรถ XEV (นับรวมทั้งรถในรูปแบบ BEV, PHEV และ FCEV) ในสหรัฐฯ คือ จะได้ส่วนลดสนับสนุน 7,500 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.61 แสนบาท หากรถเหล่านั้น เป็นรถที่ผลิตภายในประเทศ (หรือภูมิภาคอเมริกาเหนือ) แต่หลังจากเดือนมกราคม 2023 มีข้อกำหนดออกมาล่าสุดว่า วัสดุและชิ้นส่วนที่นามาใช้กับรถ EV อย่างน้อย 40% จะต้องเป็นชิ้นส่วนที่ผลิตภายในอเมริกาเหนือ หรือนำเข้าจากประเทศที่เป็นประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ โดยที่ผ่านมานั้น การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในสหรัฐฯ มีความต้องการที่จะนำเข้าแบตเตอรี่จากประเทศคู่ค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 10% ในทุกปี จนกระทั่งจะมีการนำเข้า 100% ในปี 2023
จีน ถือเป็นประเทศที่เป็นแหล่งผลิตแบตเตอรี่รถ EV ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การผลิตแบตเตอรี่ CATL ที่ใช้กับ Tesla ณ ปัจจุบัน จีนไม่ใช่ประเทศที่ม้ข้อตกลงทางการค้าเสรีกับสหรัฐฯ ทำให้แบรนด์ผู้ผลิตแบตเตอรี่จากประเทศจีน นำโดย Ningbo Ronbay New Energy Technology Co (NRNETC) วางแผนที่จะลงทุนตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศที่เป็นคู่ค้ากับสหรัฐฯ โดยประเทศที่มีความพร้อมและมีความเป็นไปได้สูงที่สุด คือ เกาหลีใต้ โดยตามรายงานระบุว่า บริษัทจากจีนแห่งนี้ ทางแผนลงทุนผลิต Ternary Precursor ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตแบตเตอรี่มากถึง 80,000 ตัน ต่อปี ภายในโรงงานแห่งใหม่ที่กำลังอยู่ในแผนการก่อสร้าง ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ประเทศจีนถือเป็นแหล่งสำคัญในการส่งออกแบตเตอรี่ให้กับแรบรนด์สินค้าในประเทสเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น LG Energy Solution, Samsung SDI รวมถึง SK On โดยข้อดีอีกอย่างของการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของตัวเองในประเทศเกาหลีใต้ ก็คือ การช่วยลดต้นทุนในการขนส่งแบตเตอรี่เหล่านี้