อาวดี้ ประเทศไทย พร้อมเดินหน้ารุกไม่ยั้ง เติมความร้อนแรงให้ตลาดรถยนต์ช่วงกลางปี ให้เกิดความคึกคัก ด้วยการเปิดตัวซูเปอร์คาร์ในรูปแบบ Hatchback 5 ประตู Audi RS3 Sportback ยนตรกรรม RS ตอกย้ำ DNA แห่ง Racing Sport โดย Audi RS3 Sportback เป็นรถซูเปอร์คาร์ไซส์คอมแพค เร้าใจเหมือนอยู่ในสนามแข่งและตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกวัน นับเป็นการเปิดตัวรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นที่ 9 ของ อาวดี้ ประเทศไทย เจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมมอบประสบการณ์ขับขี่อันน่าตื่นเต้นให้กับแฟนๆ RS
Audi RS3 Sportback
มาพร้อมดีไซน์ภายนอกโฉบเฉี่ยว สปอร์ตสุดๆ ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต สมรรถนะอันโดดเด่น ดุดัน โดย Audi RS3 Sportback ที่ อาวดี้ ประเทศไทย นำมาเปิดตัวในครั้งนี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งทางอาวดี้ได้พัฒนาให้เป็นซูเปอร์คาร์ในร่างรถคอมแพ็คที่เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบนถนนหรือจะซิ่งในสนามแข่งก็มอบประสบการณ์ขับขี่เร้าใจสุดๆ สมรรถนะโดดเด่นที่สุดในกลุ่มรถยนต์คอมแพ็ค
Audi RS3 Sportback
จัดเต็มเครื่องยนต์ 5 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร เจ้าของรางวัล International Engine of the year 9 ปีซ้อน และในเจนเนอเรชั่นล่าสุด ได้พัฒนาให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ซึ่งมากกว่าเครื่องยนต์รุ่นก่อนถึง 20 นิวตัน-เมตร เครื่องยนต์กำลังสูงจับคู่กับเกียร์ 7 สปีด คลัทช์คู่ ที่เปลี่ยนเกียร์ได้ฉับไว ทันใจ อัตราทดเกียร์ที่เซ็ตมาเหมาะกับการขับขี่แบบสปอร์ต สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดย Audi RS3 Sportback รุ่นที่ อาวดี้ ประเทศไทย นำเข้ามาจำหน่ายมาพร้อม RS Sport Exhaust เสียงท่อไอเสียอันเป็นเอกลักษณ์ ดังกระหึ่ม เร้าใจ ท่อไอเสียสามารถเปิด-ปิดได้ เพื่อให้เสียงท่อเงียบลงในเขตชุมชน หรือเปิดให้เสียงดังขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับขี่
Audi เพิ่มความมั่นใจและความสนุกในการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกบรรจุมาให้ Audi RS3 Sportback เป็นครั้งแรก นั่นคือ ระบบกระจายแรงบิดอัตโนมัติด้วยไฟฟ้า RS Torque splitter พร้อมโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย โดย RS Torque splitter ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายแรงบิดที่ล้อหลังได้ดียิ่งขึ้นโดยมีแผ่นคลัทช์ แยกการทำงานของล้อซ้าย-ขวา ได้อย่างอิสระในช่วงที่เข้าโค้ง ถ้าไปด้านซ้ายระบบจะส่งกำลังที่มากขึ้นไปยังล้อหลังฝั่งขวาที่ต้องการกำลังมากกว่า ซึ่งจะช่วยลดอาการ understeer และทำให้รถมีความคล่องตัวมากขึ้นขณะเข้าโค้ง ระบบ Torque splitter ยังสามารถเพิ่มความสนุกในการขับขี่ในสถานที่ปิดหรือสนามแข่งได้ โดยจะทำให้รถยนต์สามารถดริฟท์ให้ท้ายปัดได้ โดยการสั่งการผ่านการเลือกโหมดการขับขี่แบบใหม่ในชื่อ RS Torque Rear ซึ่งระบบนี้ จะสามารถส่งถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์ทั้งหมดลงสู่ล้อหลังเพียงล้อเดียวอีกด้วย
Audi RS3 Sportback มาพร้อมระบบช่วงล่าง
RS Sport suspension มาพร้อมกับระบบกันแรงสั่นสะเทือนและวาล์วที่ออกแบบใหม่ให้กับ Audi RS3 Sportback โดยเฉพาะ ทำให้ช่วงล่างตอบสนองต่อการขับขี่หลากหลายสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยการตั้งองศาแคมเบอร์ให้องศาลบ ทำให้การตอบสนองของพวงมาลัยแม่นยำมากยิ่งขึ้น และเข้าโค้งได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับ A3 ล้อหน้าจะถูกตั้งค่าให้มีแคมเบอร์ลบเพิ่มขึ้น 1 องศา และล้อหลังจะถูกตั้งค่าให้มีแคมเบอร์ลบเพิ่มขึ้น 0.5 องศา ทำช่วงล่างให้เตี้ยลงและเฟิร์มขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยให้เกาะถนนมากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งระบบใหม่ใน Audi RS3 Sportback คือ ระบบ modular vehicle dynamics controller (mVDC) ซึ่งเป็นตัวกลางที่จะนำข้อมูลจาก Torque splitter, Adaptive dampers และ Wheel selective torque control มารวมกันทำให้รถมีความคล่องตัวเข้าโค้งมากยิ่งขึ้น
Audi RS3 Sportback มาพร้อมกับระบบเบรก 6 POT แบบเจาะรูระบายอากาศออกแบบมาใหม่ให้ใหญ่ขึ้นและเบรกได้อย่างมั่นใจ เพื่อให้สามารถควบคุมพละกำลังมหาศาลจากเครื่องยนต์ 5 สูบ และระบบควบคุมอากาศที่ทำให้เบรกเย็นลงเร็วขึ้นกว่าเดิม 20% ซึ่งจะทำให้เบรกไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ยังสามารถลดการเสื่อมสภาพของผ้าเบรกให้ช้าลง เรียกได้ว่าเป็น Hatchback สมรรถนะซุเปอร์คาร์ที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน
Audi RS3 Sportback รถซูเปอร์คาร์ไซส์คอมแพ็ค เร้าใจเหมือนอยู่ในสนามแข่ง และตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกวัน ราคา 5.399 ล้านบาท มีให้เลือก 6 สี คือ Glacier white, Mythos black, Python yellow, Tango red, Kyalami green และ Kemora grey เปิดให้จองพร้อมกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่โชว์รูมอาวดี้ทั่วประเทศ