Nissan Skyline GT-R (R32) นับเป็นหนึ่งในขุมทรัพย์ยุค 90 ที่นักเล่นทุกหัวระแหงต่างถวิลหา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะเห็นเจ้าก็อตซิลล่าแห่งแดนปลาดิบในภาพลักษณ์ตัวแข่งทางเรียบ หรือแม้แต่การตกแต่งที่เน้นความเรียบร้อยในสไตล์ดั้งเดิม เสมือนข้ามกาลเวลามากว่า 3 ทศวรรษ แต่แน่นอนว่า นั่นไม่ใช่กับ Nissan Skyline GT-R (R32) คันที่เราจะได้เห็นในครั้งนี้ !!!
สำหรับแรงบันดาลใจในการปั้น Nissan Skyline GT-R Safari อาจเป็นผลพวงมาจากการที่ในช่วงปีก่อน แบรนด์รถยนต์ระดับโลกอย่าง Porsche และ Lamborghini ได้ทำสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้ ให้กลายมาเป็นความจริงในโลกของโปรดักชั่นคาร์ นั่นก็คือการเปิดตัวเวอร์ชั่นลุยของสปอร์ตพลังแรง ไม่ว่าจะเป็น Porsche 911 Dakar รวมถึง Lamborghini Huracan Sterrato นั่นจึงเป็นแรงผลักดันให้ Adam LZ ผุดโปรเจ็คท์ Nissan Skyline GT-R Safari ซึ่งไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อนขึ้นมาในหัวก่อนที่จะเริ่มโปรเจ็คท์ด้วยการไปซื้อซากตัวถัง GT-R (R32) มาในราคา 10,000 ดอลล่าร์ฯ ก่อนที่จะนำมาวางเครื่องยนต์ตรงบล็อคลงไป พร้อมด้วยการอัพเกรดชุดเทอร์โบ, อินเตอร์คูลเลอร์ รวมถึงกล่อง ECU ใหม่ ให้สามารถปรับจูนค่าการทำงานของเครื่องยนต์ RB26DETT ได้ตามต้องการ ซึ่งช่วยส่งให้ Nissan Skyline GT-R Safari มีแรงม้าออกมาถึง 500 ตัว
หลังจากเซ็ตเครื่องยนต์ของ Nissan Skyline GT-R Safari เป็นที่เรียบร้อย ก็ได้รับการปรับจูนช่วงล่าง โดยเป็นการคัสตอมชุดโช้กอัพที่มีระยะยืด – ยุบ ที่มากกว่าเดิม ส่งผลให้ความสูงของตัวรถ (จากพื้น) ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 266 มม. ซึ่งมากกว่าความสูงสแตนดาร์ดเกือบ 2 เท่า และเป็นระยะที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในสภาพเส้นทางที่แตกต่างจากการขับขี่บนถนนทั่วไป ล้อที่ใช้เป็นรุ่น GT2 เครื่องเคียงจากแบรนด์ Nismo ซึ่งผลิตโดยโรงงาน Rays Engineering ในประเทศญี่ปุ่น รัดด้วยยาง Nitto Nomad Grappler ไซส์ 215/65 R17 นอกจากนี้ เพื่อให้ตอบโจทย์รูปแบบการขับขี่ที่หลากหลาย Nissan Skyline GT-R Safari คันนี้ ได้ติดตั้งชุดควบคุมการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งสามารถเลือกปลดเป็นขับเคลื่อนสองล้อได้ ในเวลาที่ต้องการความสนุกหรืออยากปล่อยลีลาสะบัดท้าย
สิ่งหนึ่งที่น่าเหลือเชื่อ คือ การที่ Adam LZ ใช้เวลาในการอัพเกรด Nissan Skyline GT-R Safari คันนี้ น้อยกว่า 3 สัปดาห์ ซึ่งในส่วนของขั้นตอนในการทำทั้งหมด เข้าได้ทำเป็นคลิปเพื่อให้ข้อมูลไว้ในด้านล่าง นอกจากนี้…ในอนาคต Adam LZ ยังมีแพลนที่จะอัพเกรดรถคันนี้ ด้วยการเพิ่มระยะยุบของช่วงล่างให้มากขึ้น รวมถึงการติดตั้งชุดเบรกที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม และที่ขาดไม่ได้ คือ การเพิ่มชุดท่อทางเดินไอดี ให้รถคันนี้สามารถลุยน้ำได้ลึกขึ้นอีกด้วย