Mini Cooper SE หนึ่งในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car ที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่แห่งวงการ เพราะในครั้งแรกที่เปิดตัว Mini Cooper SE สามารถสร้างยอดจองแบบเต็มโควต้า 25 คัน ภายในเวลาเพียง 31 วินาที หลังจากนั้นทาง Mini มีการปรับโฉม LCI สำหรับรถในทุกๆ ตระกูล ซึ่งก็รวมถึง Mini Cooper SE และมีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ซึ่ง #ทีมขับซ่า ได้ทำ รีวิว Mini Cooper SE มาให้ชมเป็นที่เรียบร้อย นับว่าเป็นรถอีกหนึ่งรุ่น ที่ถือว่าขับสนุก และให้อัตราเร่งได้อย่างน่าประทับใจ
แม้ว่า Mini Cooper SE จะเป็นรถที่ขับได้สนุกมากคันหนึ่ง แต่สิ่งที่เป็นข้อจำกัดในการใช้งานก็ยังมีให้เห็น นั่นก็คือ เรื่องของรถยะทางในการวิ่งที่เคลมเอาไว้ราว 200 กม. +- แต่ในการใช้งานจริง ระยะทางที่วิ่งได้ ป้วนเปี้ยนอยู่ราว “ร้อยปลาย” อาจไม่ได้โหดร้าย เมื่อเทียบกับตัวเลขที่ขึ้นโชว์บนหน้าจอคลัสเตอร์ขนาด 5.5 นิ้ว แต่ก็ยังถือว่าน้อยเกินไป สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ Mini Cooper SE เพื่อการเดินทางไกลๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น ค่าตัวของ Mini Cooper SE ถูกวางไว้ที่ 2,290,000 บาท (และ 2,320,000 บาท สำหรับสี MINI Yours Enigmatic Black metallic) เป็นราคาที่หลายคนมองว่า “ค่อนข้างแพง” แต่อันที่จริงแล้ว หากลองมาเทียบองค์ประกอบโดยรวม ในด้านสมรรถนะ รวมถึงระดับราคา เมื่อเทียบกับรถฝั่ง Mini เอง หรือนำมาเทียบกับ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car ในงบประมาณ +- 2 ล้านบาท แล้วมาลองตัดสินใจกันอีกครั้งว่า อันที่จริงแล้ว ราคาของ Mini Cooper SE นั้น…แพงจริงหรือ ?
เปรียบเทียบอัตราเร่ง Mini Cooper SE, John Cooper Works และ Cooper S
Mini |
Cooper SE |
John Cooper Works |
Cooper S (6 MT) |
0-40 กม./ชม. | 2.36 | 2.54 | 2.36 |
0-60 กม./ชม. | 3.57 | 3.75 | 3.92 |
0-80 กม./ชม. | 5.00 | 5.22 | 5.29 |
0-100 กม./ชม. | 6.87 | 6.98 | 7.40 |
0-120 กม./ชม. | 9.29 | 9.18 | 9.64 |
0-140 กม./ชม. | 12.55 | 11.78 | 12.74 |
0-160 กม./ชม. | – | 15.03 | 16.17 |
60-80 กม./ชม. | 1.41 | 1.46 | 1.36 |
80-120 กม./ชม. | 4.27 | 3.97 | 4.35 |
100-120 กม./ชม. | 2.43 | 2.19 | 2.23 |
ควอเตอร์ไมล์ | 15.19 วิ. @ 147.7 กม./ชม. | 15.08 วิ. @ 160.4 กม./ชม. | 15.32 วิ. @ 155.6 กม./ชม. |
หากเทียบสมรรถนะ Mini Cooper SE กับรถในตระกูล Mini ด้วยกัน ทั้ง John Cooper Works และ Cooper S ที่มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด จะพบว่า Mini Cooper SE ที่มาพร้อมกำลัง 184 แรงม้า และแรงบิด 270 นิวตัน-เมตร เป็นรถที่สามารถทำอัตราเร่งในช่วงออกตัวได้ดีที่สุด ลากยาวไปถึงช่วงความเร็ว 100 กม./ชม. ความเร็วต้น – กลาง เป็น Mini Cooper SE ที่ทำได้ดีกว่าอย่างเด็ดขาด ก่อนที่ John Cooper Works จะค่อยๆ ไล่ตีตื้นขึ้นมาในช่วงความเร็วเกิน 100 กม./ชม. ขึ้นไป ก่อนที่ความเร็วของ Mini Cooper SE จะไปตันอยู่ที่ 149.8 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดที่ใกล้เคียงกับที่เคลมไว้ตามสเป็ค โดยหากเทียบต่อไปถึงความเร็วในระยะทาง Quarter Mile หรือระยะทาง 402 เมตร ต้องบอกว่า Mini Cooper SE และ John Cooper Works ทำเวลาได้ใกล้เคียงกันมาก โดยฝ่ายหลังเฉือนไปแค่ 0.11 วินาที เท่านั้น
เทียบราคา Mini Cooper SE, John Cooper Works และ Cooper S
Mini | Cooper SE | John Cooper Works | Cooper S |
ราคา (บาท) | 2,290,000
2,320,000 (สีพิเศษ) |
3,418,000 (Hatch 3)
3,468,000 (Convertible) |
2,555,000 (6 MT)
2,880,000 (7 DCT) |
ส่วนต่างราคา | – | + 1,128,000 (Hatch 3)
+ 1,178,000 (Convertible) |
+ 265,000 (6 MT)
+ 590,000 (7 DCT) |
หากคาดหวังเรื่องสมรรถนะและความสนุกในการขับขี่ โดยนำปัจจัยนั้นมาเทียบกับระดับราคาของ Mini Cooper SE มาเทียบกับ Mini รุ่นอื่นๆ จะพบว่า Mini Cooper SE ถูกวางราคาให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า Mini Cooper S รุ่นที่มีราคาต่ำกว่า อย่าง Mini Cooper S Paddy Hopkirk ที่มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อยู่ถึง 265,000 บาท และหากเทียบกับรุ่นที่มีราคาสูงสุด อย่าง Mini John Cooper Works Convertible ฝั่ง Mini Cooper SE จะมีราคาต่ำกว่า 1,178,000 บาท เลยทีเดียว ในสมรรถนะที่ใกล้เคียงกัน
เปรียบเทียบรายละเอียดรถไฟฟ้า หรือ EV Car ระดับราคา +-2 ล้าน
รุ่นรถ | Mini Cooper SE | Volvo XC40 Pure Electric | MG EP | Nissan Leaf | Hyundai Kona SE | Lexus UX300e | Honda e |
กำลัง | 184 | 408 | 163 | 150 | 136 | 204 | 136 |
แรงบิด | 270 | 660 | 260 | 320 | 395 | 300 | 315 |
ระบบขับเคลื่อน | FWD | AWD | FWD | FWD | FWD | FWD | RWD |
0-100 กม./ชม. | 7.3 | 4.9 | 8.8 | 7.9 | 9.7 | 7.5 | 9.0 |
ความเร็วสูงสุด | 150 | 180 | 185 | 160 | 155 | 160 | 145 |
แบตเตอรี่ (KWh) | 32.6 | 78 | 50.3 | 40 | 39.2 | 54.35 | 28.5 |
ระยะทาง (กม.) | 217 NEDC | 420 NEDC | 380 NEDC | 378 NEDC | 312 WLTP | 360 NEDC | 170 NEDC |
ราคา (บาท) | 2,290,000 | 2,590,000 | 988,000 | 1,990,000 | 1,849,000 | 3,490,000 | 2.3xx ล้าน |
หากเทียบด้านราคา รวมถึงสมรรถนะของ Mini Cooper SE กับรถในรูปแบบไฟฟ้า หรือ EV Car จากแบรนด์อื่นๆ ที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน Mini Cooper SE อาจไม่ใช่ทางออกที่เรียกว่า “คุ้มค่า คุ้มราคา” หรือ “สมรรถนะดีที่สุด” เพราะหากเน้นองค์ประกอบโดยรวมที่ว่ามา โดยไม่สนปัจจัยด้านอื่นๆ Volvo XC40 Pure Electric ดูจะมีภาษีดีที่สุด เพราะเติมงบเพียง 3 แสนบาท แลกกับสิ่งที่ได้มา คือ สมรรถนะในระดับ Hi Performance ด้วยพละกำลัง อัตราเร่ง ระยะทางในการใช้งาน ที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงยังได้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาเป็นของแถม ส่วนรุ่นที่มีสไตล์ใกล้เคียงกัน ในอารมณ์ที่เรียกว่าเป็น “รถขับเล่น” หรือ “รถคันที่ 2” อย่าง Honda e ซึ่งเป็นรถโดยผู้นำเข้าอิสระ ในภาพรวมแล้ว Mini Cooper SE ยังมีความน่าสนใจกว่าในหลายๆ ประการ ทั้งเรื่องชื่อชั้น สมรรถนะ รวมถึงความมั่นใจในระยะยาว ส่วนตัวเลือกอื่นๆ ในงบใกล้ๆ กัน สำหรับรถจากฝั่งญี่ปุ่นและเกาหลี ดูแล้วยังไม่เห็นคันไหนที่รู้สึกถึงอนาคต หากไม่สามารถวางระดับราคาได้พอที่จะดึงดูดใจผู้ใช้ได้มากกว่านี้ แม้จะมีการลดราคาลงมาต่ำกว่า “ครึ่งล้าน” ก็ตาม ทำให้รู้สึกว่า ระดับของ Mini Cooper SE ถูกวางไว้อย่างน่าสนใจ คือ เป็นรถพรีเมี่ยมในระดับราคามาตรฐาน (ซึ่งต่ำกว่า หรือเทียบเท่ารุ่นอื่นๆ ในระดับราคามาตรฐานของ Mini เอง) และมีกลุ่มผู้ใช้งานเฉพาะที่เน้นการขับขี่ในเมือง หรือเป็นรถคันที่ 2 ในบ้าน เท่านั้น
ส่วนสำหรับท่านใดที่ต้องการรถ EV เพื่อการใช้งานแบบเน้นๆ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่า ณ ปัจจุบัน คงจะมีเพียง MG EP และ MG ZS EV ที่ไม่ได้พูดถึงในครั้งนี้ ที่น่าสนใจพอที่จะทำให้คนหันมาใช้รถในรูปแบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car ได้จนเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น