MG เปิดตัวน้องเล็กในพิกัด Sub Compact Hatchback อย่าง MG 3 Hybrid+ รุ่นปี 2024 ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของซิตี้คาร์สไตล์สปอร์ต ที่คัมแบคกลับมาได้อย่างดุดัน ภายใต้ดีไซน์ที่ดูโแบเฉี่ยว ผสานเทคโนโลยีการขับเคลื่อนเลเวลสูง จากเครื่องยนต์ในรูปแบบไฮบริด ซึ่งจะช่วยยกระดับสมรรถนะ ความสนุก รวมถึงความคล่องตัวในการขับขี่ของรถในตระกูล MG 3 ขึ้นไปอีก (หลาย) ขั้น !
MG 3 Hybrid+ รุ่นปี 2024 มาในมิติตัวถัง
ความกว้าง x ความยาว x ความสูง อยู่ที่ 1,797 x 4,113 x 1,502 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,570 มม. ซึ่งหากเทียบกับรุ่นเดิม มิติตัวถังของ MG 3 Hybrid+ รุ่นปี 2024 จะมีความกว้างและความยาวมากกว่าเจนเนอเรชั่นก่อนเล็กน้อย (+ 68 และ 58 มม. ตามลำดับ) ในทางตรงข้ามกัน ตัวรถมีความสูงที่ต่ำลง เพื่อช่วยในเรื่องของแอโร่ไดนามิคส์และยกระดับความเป็นสปอร์ตให้มากขึ้น อีกทั้งการยืดระยะฐานล้อเพิ่มจากเดิมอีก 50 มม. ยังเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร โดย MG 3 Hybrid+ รุ่นปี 2024 มีพื้นที่ในการวางสัมภาระด้านท้ายมากถึง 293 ลิตร
ในส่วนห้องโดยสารของ MG 3 Hybrid+ รุ่นปี 2024
ได้รับการตกแต่งในรูปแบบที่เรียกว่าดิจิตัลสไตล์ โดยประกอบไปด้วยหน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว จับคู่กับหน้าจออินโฟเทนเม้นท์แบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบนำทางในตัว รวมถึงฟังค์ชั่นการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay นอกจากนี้…MG 3 Hybrid+ รุ่นปี 2024 ยังมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB ถึง 4 ตำแหน่ง และยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง Advanced Driving Assist System หรือ MG Pilot ADAS ที่สามารถควบคุมการทำงานผ่านพวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่น พร้อมกับการประจูนช่วงล่างในสไตล์ Euro Tuning รวมถึงการบุซับเสียง เพื่อยกระดับการขับขี่ที่ให้อรรถรสและสุนทรียภาพได้อีกระดับ
การกลับมาโดยได้รับการยกระดับประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องดีไซน์ สมรรถนะ ความพิถีพิถัน รวมถึงเทคโนโลยีการขับขี่ของ MG 3 Hybrid+ รุ่นปี 2024 น่าจะเป็นมิมิตรหมายที่ดี สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถซิตี้คาร์ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าในการใช้งาน ซึ่งก็น่าจะแข่งขันกับรถแบรนด์ญี่ปุ่นในรูปแบบเดียวกัน รวมถึงรถ EV จากจีนในระดับราคาเดียวกันได้อย่างสนุกแน่นอน