Mercedes-Benz GLA 200 Progressive เทียบรุ่น AMG Dynamic ถูกลง 2 แสน คุ้มไหม ? ได้อะไรบ้าง และอะไรหายไป ?


หลังจากที่ Mercedes-Benz GLA 200 เผยโฉมเจนเจอเรชั่นใหม่ ของคอมเแพคเอสยูวีสำหรับนักเดินทางสายมินิมอลไปเมื่อช่วงปลายปีก่อน ซึ่้งในครั้งนั้นทางค่าย Mercedes-Benz ได้เปิดตัวรุ่นทริมที่เป็น AMG Dynamic ที่มาพร้อมการตกแต่งพิเศษให้มีภาพลักษณ์ที่ดูสปอร์ต โฉเฉี่ยว โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 2.399 ล้านบาท ในครั้งนี้ทางค่ายยังคงเดินหน้าขยายกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มรุ่นย่อยที่เป็น Mercedes-Benz GLA 200 Progressive เน้นความหรูหรา เข้าถึงง่ายมากขึ้น ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2.199 ล้านบาท ในครั้งนี้ ทาง “ทีมขับว่า” จะพาไปดูรายละเอียดว่า ในงบที่ประหยัดไปอีก 2 แสนบาท ของ Mercedes-Benz GLA 200 Progressive นั้น ได้อะไรบ้าง และมีรายละเอียดส่วนไหนที่แตกต่างจาก Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic บ้าง ในส่วนต่างตรงนี้

Mercedes-Benz GLA 200 Progressive

Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic

แพลตฟอร์มเดียวกับ ความเร้าใจไม่ต่างกัน

ต้องบอกว่า ในพิ้นฐานของความเป็น Mercedes-Benz GLA 200 ทั้งทริมที่เป็น Progressive และ AMG Dynamic ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ระบบขับเคลื่อน ระบบความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวก แทบจะเหมือนกันในทุกประการสำหรับ Mercedes-Benz GLA 200 ทั้ง 2 รุ่นนี้ โดยทั้งคู่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม MFA 2 และมาในเครื่องยนต์รหัส M282 แบบ 4 สูบ เทอร์โบ พิกัด 1.3 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อน 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 250 นิวตัน – เมตร ที่ 1,620 – 4,000 รอบ/นาที ขับเคลืื่อนด้วย 2 ล้อหน้า ผ่านชุดเกียร์ 7G DCT รองรับเชื้อเพลิงสูงสุดถึง E85

ขุมพลังบล็อค M282 ใน Mercedes-Benz GLA 200 ทั้ง 2 รุ่นย่อย

Mercedes-Benz GLA 200 Progressive

Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic

Progressive และ AMG Dynamic ทริมไหนก็ปลอดภัยเหมือนกัน

ด้านระบบความปลอดภัยของ Mercedes-Benz GLA 200 ทั้ง Progressive และ AMG Dynamic มาพร้อมถุงลม + ม่านนิรภัย ทั้งหมดรวม 7 ใบ, ABS, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบ Adaptive Brake พร้อม Hill Start Assist และ Auto Brake, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน และไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ, Cruise Control และระบบจำกัดความเร็ว, เซ็นเซอร์ช่วยจอด 12 จุด พร้อมระบบนำเข้าจอดอัตโนมัติ, กล้องแสดงภาพด้านหลัง, ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ รวมถึงระบบ Mercedes Me Connect มีมาให้เหมือนกันทั้งหมดใน Mercedes-Benz GLA 200 ทั้งในรุ่น Progressive และ AMG Dynamic นอกจากนี้ ในส่วนของอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดไฟหน้าแบบ LED Hi Performance, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า, ชุดกุญแจแบบ Keyless Go, ระบบไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแบบ LED เหมือนกันทั้งหมด ดังนั้นประเด็นในเรื่องพละกำลัง ระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน จึงไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องนำมาพิจารณาหากจะเลือกซื้อ ส่วนต่าง 2 แสนบาท สำหรับคนที่ชอบความคุ้มค่า ณ เวลานี้ Mercedes-Benz GLA 200 Progressive ดูจะยังได้เปรียบเล็กๆ

Mercedes-Benz GLA 200 Progressive ล้อ 18 นิ้ว ยางหนา ช่วงล่างปกติ

ล้อ 19 นิ้ว ยางบางลง และช่วงล่างแบบ Lowered Comfort ลดความสูงลง 15 มม.

ภาพลักษณ์ต่าง แต่อาจไม่ใช่ที่สุด…เพราะความชอบ ล้วนเป็นรสนิยมส่วนบุคคล

สิ่งที่เริ่มมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ระหว่าง Mercedes-Benz GLA 200 Progressive และ AMG Dynamic ก็คือ เรื่องของดีไซน์และทริมการตกแต่งภายนอก ซึ่งก็เป็นไปตามชื่อรุ่น โดยในรุ่น Progressive จะเน้นเรื่องของภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรา เรียบง่าย แต่รู้สึกว่าชวนให้สัมผัส แต่สำหรับรุ่น AMG Dynamic แน่นอนว่าการเพิ่มชุดแต่งจากสำนักคู่บารมีเข้ามา ก็ยิ่งช่วยเพิ่มดีกรีความเป็นสปอร์ตได้มากขึ้น โดยในรุ่น Progressive จะได้ทริมการตกแต่งแบบ Progressive Style ที่เน้นโครเมี่ยมแบะการตกแต่งด้วยสีดำ ล้ออัลลอยมาในขนาด 18 นิ้ว โอบรัดด้วยยาง 235/55 R18 ส่วนใน Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic จะมาพร้อมชุดแต่ง AMG Style ที่มาพร้อมชุดกระจังหน้าแบบ Diamond Grille ขยับขนาดของชุดล้อเป็น 19 นิ้ว 5 ก้านคู่ จาก AMG โดยมาพร้อมยาง 235/50 R19 ทำงานร่วมกับชุดช่วงล่างแบบ Lowered Comfort Suspension ที่ปรับความสูงให้ลดลงอีก 15 มม.

Mercedes-Benz GLA 200 Progressive กับการตกแต่งในสไตล์เรียบง่าย ดูเคร่งขรึม

Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic เน้นความแพรวพราวด้วย Ambiant Light 64 เฉดสี

ช่องแอร์สีดำในรุ่น Progressive

ช่องแอร์พร้อม Ambiant Light ในรุ่น AMG Dynamic

คอสเมติก…ความต่างที่ส่วนต่าง 2 แสนบาท คงมิอาจ “ซื้อเพิ่ม” ได้ !

นอกจากชุดแต่งภายนอก ที่สามารถขยับขยาย หรือหาเพิ่มได้ในภายหลังแล้ว สิ่งที่ทำให้ความต่างระหว่าง Mercedes-Benz GLA 200 Progressive และ AMG Dynamic ชัดเจนมากขึ้น คงหนีไม่พ้นการตกแต่งภายในห้องโดยสาร โดยทั้งคู่จะมาพร้อมระบบปรับเบาะคู่หน้าด้วยไฟฟ้า พร้อมเมมโมรี่ 3 ตำแหน่ง, โหมดการขับขี่แบบ Dynamic Select, ชุดหน้าจอ MBUX ขนาด 10.25 นิ้ว ที่รองรับการสั่งการด้วยเสียง ที่พวงมาลัย หรือบน Touchpad พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Blutooth Apple Carplay และ Android Auto, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 1 โซน แม้จะใช้งานได้สะดวก ลงตัว ให้สัมผัสที่มีความเป็นพรีเมี่ยมเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ เรื่องอารมณ์ภายในห้องโดยสาร โดยใน Mercedes-Benz GLA 200 Progressive จะเน้นความรู้สึกในสไตล์เคร่งขรึม ด้วยการตกแต่งในสไตล์สีดำ ไม่ว่าจะเป็นชุดเเบาะหนัง Artico เย็บด้วยด้ายสีเงิน, แผงข้างประตู, ชุดช่องแอร์ ในภาพรวมคือ เพียงพอสำหรับทุกการใช้งาน

หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว ใน Mercedes-Benz GLA 200 Progressive

สำหรับรุ่น AMG Dynamic มาพร้อมหน้าจอ 10.25 นิ้ว เรียงต่อกัน 2 จอ

เบาะหนัง Artico เย็บด้ายสีเงิน สำหรับรุ่น Mercedes-Benz GLA 200 Progressive

ส่วนรุ่น AMG Dynamic มีการแซมตรงด้วยหนัง Dinamica Microfiber และด้ายสีแดง

แต่หากเติมงบเพิ่มอีก 2 แสนบาท เพื่อขยับรุ่นเป็น Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic สิ่งที่จะได้เพิ่มขึ้นมา คือ ชุด Ambiant Light รอบห้องโดยสาร ที่สามารถปรับได้ถึง 64 สี หน้าจอแสดงผลการขับขี่จากขนาด 7 นิ้ว และจออินโฟเทนเม้นท์ 10.25 นิ้ว ในรุ่น Progressive จะขยับเป็นจอขนาด 10.25 นิ้ว ทั้ง 2 จอ ในรุ่น AMG Dynamic นอกจากนี้พวงมาลัยจะมาในแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Nappa ส่วนชุดเบาะจากเดิมที่เป็นหนัง Artico ล้วน ในรุ่นนี้จะเปลี่ยนเป็นแบบ Sport Seat หุ้มด้วยหนัง Artico สลับ Dinamica Microfiber เย็บด้วยด้ายสีแดง และยังมีการเพิ่มแผนที่นำทางแบบ 3 มิติ, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบมีปุ่มกันลื่น รวมถึงชุดพรมจาก AMG เพิ่มเข้ามาให้ใน Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic เป็นส่วนต่างในงบ 2 แสนบาท

Mercedes-Benz GLA 200 Progressive

Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic กับกระจังหน้าแบบ Diamond Grill

สรุปอีกครั้ง กับส่วนต่าง 2 แสนบาท ใน Mercedes-Benz GLA 200 Progressive และ AMG Dynamic

รายละเอียด  GLA 200 Progressive GLA 200  AMG Dynamic
ชุดแต่ง Progressive AMG
ล้อ – ยาง 235/55 R18 235/50 R19
ช่วงล่าง Comfort Suspension Lowered Comfort Suspension (-15 มม.)
หน้าจอแสดงผลการขับขี่ 7 นิ้ว 10.25 นิ้ว
พวงมาลัย หนัง Artico ทรงสปอร์ต หนัง Nappa
เบาะนั่ง หนัง Artico เย็นด้านสีเงิน หนัง Artico + Dinamica Microfiber ด้ายสีแดง
Ambiant Light 64 สี
เนวิเกเตอร์ แบบ 3 มิติ
ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบกันลื่น O
ชุดพรม Std. AMG
ราคา 2,199,000 บาท 2,399,000 บาท
ส่วนต่าง 200,000 บาท

………………

Mercedes-Benz GLA 200 Progressive จุดเริ่มต้นของสุนทรีย์ภาพแห่งการเดินทาง สัมผัสความหรูได้ง่ายๆ ทำไมต้องจ่ายแพง ?


Related posts

Lexus ประเทศไทย เปิดตัว NX รุ่นปรับปรุงใหม่ 2024 พร้อมเพิ่มรุ่นย่อย 450h+ Overtrail

Tein ประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หลังทำตลาดมากว่า 10 ปี พร้อมทุ่มงบตั้งโรงงานผลิตในไทย

Mini Aceman ครอสโอเวอร์ EV น้องใหม่ รุ่นล่าสุด อยากสนุกก็ได้ อยากใช้งานก็พอดีมือ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา เรียนรู้เพิ่มเติม