ในช่วงเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปประกาศข้อบังคับให้ เลิกทำตลาด สำหรับรถใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในปี 2035 เป็นต้นไป สำหรับประเทศในสหภาพยุโรป ซึ่งนี่อาจหมายความถึงการสูญสิ้นของวงการเครื่องยนต์สันดาปในอนาคต แต่นั่นอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับทั้งหมด เนื่องจากปัญหามลพิษหลักๆ อาจไม่ได้เกิดจากเครื่องยนต์เท่านั้น การที่จะยุติการผลิตไป อาจทำให้อุตสาหกรรมอื่นๆ ถึงกับต้องชะงักตามไปด้วย ดังนั้นการหาทางออกที่มีความเป็นไปได้แบบไม่ก่อให้เกิดผลกระทบ จึงเป็นแนวทางที่น่าสนใจ เพื่อที่จะให้อุตสาหกรรมยานยนต์เดินหน้าต่อแบบไม่ก่อให้เกิดผลกระทบมากนัก
ด้วยข้อเสนอดังกล่าวของทางฝั่งเยอรมนี ซึ่งนำมาสู่การยอมรับของหลายๆ ประเทศในสหภาพยุโรป จึงประกาศมีการกำหนดให้จัดหมวดหมู่เพิ่มเติมสำหรับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปที่ใช้ e-Fuels หรือ เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (ซึ่งทางผู้ผลิต จะต้องมั่นใจว่า รถยนต์ดังกล่าว จะไม่สามารถใช้กับเชื้อเพลิงเบ็นซิน หรือดีเซล ในรูปแบบปกติได้) โดยหากเป็นไปตามแผน คงต้องมาดูกันว่า ในช่วงเวลาอีก 1 ทศวรรศที่เหลือ การจะนำเชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน มาใช้ในลักษณะแมสโปรดักส์ มีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน
ในปัจจุบัน e-Fuels หรือ เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ยังไม่สามารถผลิตเชื้อเพลิงในรูปแบบ e-Fuels ได้ในปริมาณมาก โดยระหว่างอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา หรือทดลองใช้เฉพาะในบางวงการ เช่น มอเตอร์สปอร์ต เท่านั้น ณ ปัจจุบัน Porsche กำลังลงทุนเพื่อการพัฒนาเชื้อเพลิงชนิดนี้ โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 34,342 แกลอน ต่อปี (ประมาณ 1.56 แสนลิตร) ซึ่งในอนาคต บริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตได้ถึง 145 ล้านแกลอน ต่อปี (ประมาณ 659 ล้านลิตร) แต่นั้นยังถือเป็นบริมาณที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับความต้องการในการใช้ทั่วโลก