“ปล้อน” นั้นติดตามเรื่อง Autonomous car มานาน เขาหูผึ่งทันทีเมื่อทราบว่าเราสามารถ “Spoof” แทรกแซงการทำงานของมันให้ไขว้เขววิ่งเตลิดเฟอะฟะ หรือ Hack ระบบตรวจจับสัญญาณก่อกวนให้เบรคของรถมันทำงานเองได้ …เขาคิดวางแผนจะซื้อมาให้ภรรยาใช้
ก่อนอื่นต้องบอกให้ทราบว่า อันรถขับเคลื่อนอัตโนมัติหรือ Autonomous car นั้น มันคลำทางวิ่งไปได้โดยอาศัยการช่วยเหลือของระบบนำทาง ที่ประกอบด้วย Lidar, Radar, Ultrasonic, กล้อง, GPS เป็นหลัก โดยมีระดับการเข้ามาช่วยเหลือจนถึงขับแทนเราเต็มตัวเป็น 5 ระดับ ไล่จากระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ใส่มาในรถ ปล้อนไม่ขอนำรายละเอียดมากล่าวอีกในที่นี้ ขอให้ท่านไปอ่านบทความเก่าหรือดู VDO ที่เราได้ทำไปมากแล้วใน FB Live
ที่นี้ถ้าจะโยงถึง Elon Musk ตามหัวเรื่อง ก็ต้องกล่าวถึง TESLA รถที่แกปั้นมากับมือให้เราได้ขับขี่ แน่นอนว่าไอ้ Elon Musk ผู้นี้จะให้มาทำอะไรที่เหมือน ซ้ำกับชาวบ้านคงจะไม่ใช่ อย่างระบบนำทางใน TESLA ของแกนั้นออกไปทางไม่ชอบหน้าเจ้า Lidar นัก เพราะหนึ่งแพง สองแกเชื่อว่าการใช้กล้องที่ถ้าพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น ใช้จำนวนกล้องมากขึ้น เมื่อนำมาใช้ร่วมกับ Radar, Ultrasonic, และ GPS ก็จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่าการมี Lidar ในระบบได้ จากรูปประกอบจะเห็นว่ามีเพียง TESLA เท่านั้นที่ไม่แยแส Lidar !!
อย่างไรก็ดีได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับ TESLA หลายต่อหลายครั้ง เช่นระบบไม่สามารถจับได้ว่ามีรถบรรทุกจอดตะแคงขวางบนไฮเวย์ที่จีน จึง “ซัด” ไปเต็มๆ มีการวิเคราะห์ว่าน่าจะมาจากกล้องไม่สามารถ “Sense” ได้ว่ามีอะไรมาขวางทางอยู่ เพราะรถบรรทุกที่ตะแคงอยู่ข้างหน้ามันสีขาวกลมกลืนไปกับเส้นขอบฟ้าในตอนนั้น และถ้าท่านใช้คีย์เวิร์ดทำนอง Tesla accident, Tesla crashed….เข้าไปในกูเกิ้ล ก็จะมีทั้งบทความ ข้อมูลวิเคราะห์ VDO แสดงถึงกรณีต่างๆเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดกับ Tesla มากมาย ล่าสุดก็ “ดึงไม่เข้า” บานโค้งไปชนต้นไม้คนในรถตายไปในกองเพลิง 2 คน แม้จากการสอบสวนเบื้องต้นจากทางการและการแถลงของ Elon Musk จะบอกว่าขณะเกิดเหตุไม่มีคนนั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับ และเข็มขัดนิรภัยภูกปลด มีเพียงผู้โดยสารด้านข้างและอีกคนไปอยู่ที่นั่งหลัง แต่ก็ยิ่งสร้างความสับสนเพราะ Tesla นั้นถูกออกแบบให้รถจะหยุดการทำงาน เมื่อเข็มขัดถูกปลดและไม่มีการสัมผัสจากมือมนุษย์ การชนครั้งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร คนขับปลดเข็มขัดและปีนไปที่เบาะหลังเพื่อเอาตัวรอดหลังเกิดอุบัติเหตุเพื่อหนีจากเปลวเพลิงที่ได้ลุกไหม้ขึ้นหรือไม่ ??
จีงมีคำถามตามมามากมายว่า Elon Musk คิดอย่างไร คิดถูกหรือไม่ที่ไม่ใช้ Lidar ในรถของตน งกต้นทุนเกินไปไหม ? เพราะ Lidar ทั้งชุดตกประมาณ 75,000 เหรียญซึ่งแพงกว่ากล้องทั้งระบบหลายสิบเท่า !!
และก็ยังมีการติดตามว่าหลังจากที่เขาปล่อยยาน Space X ขึ้นไปโคจรในอวกาศ จะมีการนำระบบ 3D Lidar scanning และ IMU อันล้ำสมัยขึ้นไปกวาดภูมิประเทศ ถนนหนทาง โครงสร้างพื้นฐานการจราจร อุปสรรคต่อการเดินทาง ฯลฯ ในสมองของเขาย่อมไม่ใช่แค่ปล่อยให้มันลอยขึ้นไป “เอามันส์” เหมือนว่าวปักเป้า แต่ต้องมีการนำผลเหล่านั้นกลับมาประมวลเพื่อปรับปรุงระบบนำทางของ Tesla ตัวถัดๆไปที่ยังคงพึ่งพากล้อง(และ Radar, Ultrasonic, GPS) ต่อไปแน่นอน เพราะไอ้หมอนี่คงไม่มีทางมองไป Lidar ให้เสียสัตย์ที่กล่าวนับไม่ถ้วนเรื่อง Lidar ….. . “ปล้อนกล่าว”