Elon Musk คิดอย่างไรกับ LiDaR คิดถูกหรือไม่ที่ไม่ใช้ใน TESLA


Cr ภาพ www.sentech.nl.png

“ปล้อน” นั้นติดตามเรื่อง Autonomous car มานาน เขาหูผึ่งทันทีเมื่อทราบว่าเราสามารถ “Spoof” แทรกแซงการทำงานของมันให้ไขว้เขววิ่งเตลิดเฟอะฟะ หรือ Hack ระบบตรวจจับสัญญาณก่อกวนให้เบรคของรถมันทำงานเองได้ …เขาคิดวางแผนจะซื้อมาให้ภรรยาใช้

Cr ภาพ www.dw.com

 ก่อนอื่นต้องบอกให้ทราบว่า อันรถขับเคลื่อนอัตโนมัติหรือ Autonomous car นั้น มันคลำทางวิ่งไปได้โดยอาศัยการช่วยเหลือของระบบนำทาง ที่ประกอบด้วย Lidar, Radar, Ultrasonic, กล้อง, GPS เป็นหลัก โดยมีระดับการเข้ามาช่วยเหลือจนถึงขับแทนเราเต็มตัวเป็น 5 ระดับ ไล่จากระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ใส่มาในรถ ปล้อนไม่ขอนำรายละเอียดมากล่าวอีกในที่นี้ ขอให้ท่านไปอ่านบทความเก่าหรือดู VDO ที่เราได้ทำไปมากแล้วใน FB Live

 ที่นี้ถ้าจะโยงถึง Elon Musk ตามหัวเรื่อง ก็ต้องกล่าวถึง TESLA รถที่แกปั้นมากับมือให้เราได้ขับขี่ แน่นอนว่าไอ้ Elon Musk ผู้นี้จะให้มาทำอะไรที่เหมือน ซ้ำกับชาวบ้านคงจะไม่ใช่ อย่างระบบนำทางใน TESLA ของแกนั้นออกไปทางไม่ชอบหน้าเจ้า Lidar นัก เพราะหนึ่งแพง สองแกเชื่อว่าการใช้กล้องที่ถ้าพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น ใช้จำนวนกล้องมากขึ้น เมื่อนำมาใช้ร่วมกับ Radar, Ultrasonic, และ GPS ก็จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่าการมี Lidar ในระบบได้ จากรูปประกอบจะเห็นว่ามีเพียง TESLA เท่านั้นที่ไม่แยแส Lidar !! 

Cr ภาพ hwww.gomobi.plblog

  อย่างไรก็ดีได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับ TESLA หลายต่อหลายครั้ง เช่นระบบไม่สามารถจับได้ว่ามีรถบรรทุกจอดตะแคงขวางบนไฮเวย์ที่จีน จึง “ซัด” ไปเต็มๆ มีการวิเคราะห์ว่าน่าจะมาจากกล้องไม่สามารถ “Sense” ได้ว่ามีอะไรมาขวางทางอยู่ เพราะรถบรรทุกที่ตะแคงอยู่ข้างหน้ามันสีขาวกลมกลืนไปกับเส้นขอบฟ้าในตอนนั้น และถ้าท่านใช้คีย์เวิร์ดทำนอง Tesla accident, Tesla crashed….เข้าไปในกูเกิ้ล ก็จะมีทั้งบทความ ข้อมูลวิเคราะห์ VDO แสดงถึงกรณีต่างๆเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดกับ Tesla มากมาย ล่าสุดก็ “ดึงไม่เข้า” บานโค้งไปชนต้นไม้คนในรถตายไปในกองเพลิง 2 คน แม้จากการสอบสวนเบื้องต้นจากทางการและการแถลงของ Elon Musk จะบอกว่าขณะเกิดเหตุไม่มีคนนั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับ และเข็มขัดนิรภัยภูกปลด มีเพียงผู้โดยสารด้านข้างและอีกคนไปอยู่ที่นั่งหลัง แต่ก็ยิ่งสร้างความสับสนเพราะ Tesla นั้นถูกออกแบบให้รถจะหยุดการทำงาน เมื่อเข็มขัดถูกปลดและไม่มีการสัมผัสจากมือมนุษย์ การชนครั้งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร คนขับปลดเข็มขัดและปีนไปที่เบาะหลังเพื่อเอาตัวรอดหลังเกิดอุบัติเหตุเพื่อหนีจากเปลวเพลิงที่ได้ลุกไหม้ขึ้นหรือไม่ ?? 

Cr ภาพ www.sentech.nl

 จีงมีคำถามตามมามากมายว่า Elon Musk คิดอย่างไร คิดถูกหรือไม่ที่ไม่ใช้ Lidar ในรถของตน งกต้นทุนเกินไปไหม ? เพราะ Lidar ทั้งชุดตกประมาณ 75,000 เหรียญซึ่งแพงกว่ากล้องทั้งระบบหลายสิบเท่า !! 

 และก็ยังมีการติดตามว่าหลังจากที่เขาปล่อยยาน Space X ขึ้นไปโคจรในอวกาศ จะมีการนำระบบ 3D Lidar scanning และ IMU อันล้ำสมัยขึ้นไปกวาดภูมิประเทศ ถนนหนทาง โครงสร้างพื้นฐานการจราจร อุปสรรคต่อการเดินทาง ฯลฯ ในสมองของเขาย่อมไม่ใช่แค่ปล่อยให้มันลอยขึ้นไป “เอามันส์” เหมือนว่าวปักเป้า แต่ต้องมีการนำผลเหล่านั้นกลับมาประมวลเพื่อปรับปรุงระบบนำทางของ Tesla ตัวถัดๆไปที่ยังคงพึ่งพากล้อง(และ Radar, Ultrasonic, GPS) ต่อไปแน่นอน เพราะไอ้หมอนี่คงไม่มีทางมองไป Lidar ให้เสียสัตย์ที่กล่าวนับไม่ถ้วนเรื่อง Lidar ….. . “ปล้อนกล่าว” 

 


Related posts

#ทีมขับซ่า บุกโรงงาน MG ! ทั้งผลิตตัวถัง งานสี ประกอบ และทำแพคแบตเตอรี่ EV ที่เดียว…จัดให้ครบๆ

โตโยต้า แนะนำรถตู้พรีเมียม “Toyota Majesty” รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2567 ยนตรกรรมที่มอบความหรูหราและสะดวกสบาย พร้อมเครื่องยนต์มาตรฐาน EURO 5

นักแข่งไทยทำได้! “ท็อป-ธนาตย์” แซงดุ คว้าชัย ปิดฉากศึกซูเปอร์คาร์ GT World สนามประเทศไทย

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา เรียนรู้เพิ่มเติม