Brand Loyalty Is Fading เมื่อโลกเปลี่ยนไป…ความนิยมในแบรนด์ก็น้อยลง !


หากมองกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในอดีต เรามักจะเห็นว่า ผู้ใช้แต่ละคน ล้วนแล้วแต่มีแบรนด์ที่ตัวเองชื่นชอบ จนนำมาสู่แรงจูงใจในการเลือกซื้อรถแบรนด์เดิมสำหรับคันต่อๆ ไป แต่ ณ ปัจจุบัน โลกแห่งยานยนต์กำลังเปลี่ยนไป เทรนด์การยึดติดกับแบรนด์ หรือที่เราคุ้นหูว่า Brand Loyalty มีบทบาทน้อยลงอย่างชัดเจน ซึ่งจากการเก็บสถติติล่าสุด มีเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้น…ที่ยังคงรักษาลูกค้ากลุ่ม Brand Loyalty ของตัวเองไว้ได้ !

Genesis แบรนด์หรูสัญชาติเกาหลี ที่ขยายฐานลูกค้าของตัวเองได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการผสานคุณภาพและความคุ้มค่า

แม้ว่าบรรดาค่ายผู้ผลิตรถยนต์จะพยายามทุ่มงบมหาศาลเพื่อดึงรั้ง “กลุ่มลูกค้าคาดหวัง” ของแบรนด์ตัวเองให้ยังคงอยู่ แต่การทุ่มทุนเหล่านั้น ณ ปัจจุบัน อาจไม่ต่างกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เนื่องจากการถือกำเนิดของแบรนด์รถยนต์ใหม่ๆ ที่พยายามจะนำเสนอนวัตกรรมพร้อมกับสร้างกิมมิคเพื้ดึงดูดใจผู้ใช้ ซึ่งดูจะเป็นวิธีการที่ได้ผลกว่า ซึ่งจากผลการศึกษา สามารถบ่งบอกได้ชัดเจนว่า ผู้ใช้รถแบรนด์หรู มีความภัคดีต่อแบรนด์ที่ตัวเองชื่นชอบ หรือ Brand Loyalty น้อยลง ตรงกันข้ามกับแบรนด์น้อยใหม่ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งพุงแรง ทำยอดขายแซงหน้า “รุ่นเก๋า” ด้วยระดับความคุ้มค่าที่ใครๆ เห็นแล้วต่างก็ต้องอ้าปากค้าง

Maserati รักษาลูกค้า Brand Loyalty ได้อย่างน่าทึ่ง

S&P Global Mobility ได้เก็บข้อมูลการเลือกซื้อรถของกลุ่มลูกค้า Brand Loyalty พร้อมนำเสนอในรูปแบบกราฟเพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายมากขึ้น โดยการเก็บข้อมูลดังกล่าว เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2020 จนถึงเดือนเมษายน 2022 ซึ่งพบว่า ณ ปัจจุบัน ระดับความนิยมต่อแบรนด์เดิมที่ลูกค้าเคยเป็นเจ้าของ ในภาพรวมลดลง 4.5% โดยมีเพียง 3 แบรนด์ เท่านั้น ที่ได้ผลเป็นบวก จากการที่ลูกค้าเป็นผู้ครอบครองรถแบรนด์นั้นอยู่ก่อนแล้ว และกลับมาซื้อรถคันใหม่ ในแบรนด์เดียวกันอีก

อันดับและความเปลี่ยนแปลง Brand Loyalty ของกลุ่มรถยนต์หรู

สำหรับค่ายที่นำมาเป็นอันดับ 1 เป็นแบรนด์น้องใหม่อย่าง Genesis แบรนด์หรูสัญชาติเกาหลี ที่ยอดความยิยม + อยู่ 8.5% (มากกว่าเดิมเกือบ 2 เท่า) ด้วยการวางระดับราคาที่คุ้มค่า สวนทางกับสมรรถนะและออพชั่นที่ได้มา ทิ้งห่างแบรนด์อันดับ 2 อย่าง Maserati ซึ่งทำได้ดีเกินความคาดหมาย โดยค่ายตรีศูลตามมาห่างๆ ที่ + 4.3% ส่วนแบรนด์สุดท้ายที่ยังคงไม่อยู่ต่ำกว่าเส้นแดง คือ แบรนด์รถ EV ขวัญใจมหาชนอย่าง Tesla จากตัวเลขการกลับมาซื้อ 4.0% ด้วยระดับความนิยมต่อแบรนด์ที่กลุ่มลุกค้ายังคงมีให้อย่างต่อเนื่อง

3 กลุ่มลูกค้า Brand Loyalty ติด +

ภาพรวมของกลุ่มลูกค้า Brand Loyalty ลดลงถึง 4.5%

ในทางตรงข้ามกัน แบรนด์ที่ความนิยมในกลุ่มลูกค้า Brand Loyalty ลดลงมากที่สุด คือ Land Rover ซึ่งงานนี้มียอดขายลดลง 9.2% เช่นเดียวกับทางฝั่ง Porsche ที่อยู่ในตำแหน่งไม่ไกลกันที่ – 8.5% ส่วนอันดับ Bottom 3 งานนี้ตกเป็นของ Lincoln ที่ – 7.9% โดยปัจจัยที่ทำให้รถยนตืหรูเหล่านี้ มียอดขายที่ลดลง ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน ทำให้ไม่สามารถผลิตรถได้ในจำนวนที่ต้องการ ส่งผลให้ลูกค้าที่ต้องรอรถหลายๆ เดือน (หรือเป็นปี) ตัดสินใจที่จะไปซื้อรถแบรนด์อื่นๆ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก S&P Global Mobility


Related posts

Honda โชว์หัวลากพลัง Hydrogen Fuel Cell กำลัง 320 แรงม้า และลากได้ระยะกว่า 640 กม. ต่อการเติม 1 ครั้ง

สยบข่าวมั่ว ! Suzuki ยกเลิกทำตลาดรถยนต์ในไทย ย้ำ…แนะนำรถรุ่นใหม่ต่อเนื่อง ลุ้นทำตลาด EV SUV ในปี 2568

แปลกได้โล่ห์ ! ชม BMW XM เจ้าของฉายา Mystique Allure ตัวเด่นในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา เรียนรู้เพิ่มเติม