BMW Group ประเทศไทย เผยโฉมยนตรกรรมใหม่ 8 รุ่น ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถในกลุ่มพรีเมี่ยม 3 ปีซ้อน


 BMW Group Thailand (บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย) ฉลองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดรถยนต์พรีเมียมไทยต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่ 3 จากผลลัพธ์แห่งความทุ่มเทของบริษัทด้านความพึงพอใจของลูกค้า นวัตกรรม และยนตรกรรมศาสตร์แห่งศิลป์จาก BMW (บีเอ็มดับเบิลยู), Mini (มินิ) และ BMW Motorrad (บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด) ทำผลงานยอดจดทะเบียนรถยนต์อย่างแข็งแกร่ง ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดบีเอ็มดับเบิลยูและมินิในตลาดรถยนต์พรีเมียมที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่า 46.6% เพิ่มขึ้น 36.1% จากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย วางแผนต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมใหม่มากมาย นำทัพโดยรถยนต์ BMW XM ใหม่, BMW X7 xDrive40d M Sport ใหม่, BMW 750e xDrive M Sport ใหม่, BMW X1 sDrive18i โฉมใหม่, BMW Series 3 Gran Sedan ใหม่, และรถยนต์ Mini Resolute Edition ที่มีให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อย รวมไปถึงมอเตอร์ไซค์ BMW M 1000 R และ R 1250 GS ในตัวเลือกสีใหม่

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

ยุคสมัยแห่งความหรูหราและความเป็นเลิศ

ด้วยผลงานที่แข็งแกร่งของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่ม Luxury Class หรือรถยนต์รุ่นที่สูงที่สุดของแบรนด์ เช่น บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7, ซีรีส์ 8, X7, และ M8 ที่ทำผลงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์ โตขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 25.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งมอบสุดยอดความเป็นเลิศและนิยามใหม่แห่งความหรูหรานี้ รถยนต์ในกลุ่ม Luxury Class คือที่สุดแห่งการเสาะหาเอกลักษณ์และความเอ็กซ์คลูซีฟที่ไม่มีใครเทียบ ความมุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์พิเศษเห็นได้จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นไฮไลท์อย่าง BMW XM ใหม่ รถยนต์ตระกูล M สมรรถนะสูงรุ่นแรก ซึ่งมาพร้อมระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดทรงพลัง ในคอนเซปต์ใหม่ของรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ (Sports Activity Vehicle – SAV), BMW X7 xDrive40d M Sport ใหม่ อีกหนึ่งรุ่น SAV ที่ผสานความปราดเปรียว รูปลักษณ์ที่หรูหรา และความโอ่อ่า เข้ากับระบบขับเคลื่อนอันทรงพลัง และ BMW 750e xDrive M Sport ใหม่ ขั้นกว่าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ที่มอบสุดยอดแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่ ความสะดวกสบายในการเดินทางระยะไกล และประสบการณ์ดิจิทัลล้ำสมัย ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

เจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่ม Luxury Class ยังสามารถสัมผัสนิยามใหม่แห่งความหรูหราได้ผ่าน BMW Excellence Club โปรแกรมเอกสิทธิ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์เหนือระดับโดยเฉพาะ สมาชิก BMW Excellence Club สามารถเลือกแพ็คเกจเอ็กซ์คลูซีฟที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้สูงสุดถึง 6 แพ็คเกจ ไม่ว่าจะเป็น Business Travel Package, Dining Experience Package, Wellness Experience Package, Sports Experience Package, Family Experience Package หรือ Long Trip Package โดยในแต่ละแพ็คเกจมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรับรองจาก BMW Excellence Club Concierge ที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจัดแผนการท่องเที่ยวหรือการนัดหมาย การจัดรถรับ-ส่ง จากสนามบิน และประสบการณ์ private club จากโรงแรมและรีสอร์ท Marriott ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  BMW Excellence Club ยังมอบประสบการณ์การเฉลิมฉลองสุดพิเศษในบรรยากาศอันน่าจดจำสำหรับเทศกาลและโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ ลอยกระทง และวันคริสต์มาส พร้อมสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อย่างมื้อค่ำและการชิมไวน์สุดพิเศษ ชั้นเรียนและเวิร์คช็อปต่างๆ กิจกรรมและการแสดงสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีประจำทุกเดือน สมาชิก Excellence Club ยังสามารถเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ มอเตอร์เอ็กซ์โป และงานเปิดตัวรถยนต์ต่างๆ ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ในวัน VIP อีกด้วย

วิสัยทัศน์แบบก้าวไปข้างหน้าและการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า

ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นของยนตรกรรมศาสตร์แห่งศิลป์ รวมถึงความสำเร็จของการทำตลาดและกลยุทธ์ลูกค้าในปี พ.ศ. 2565 ส่งผลให้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในตลาดยานยนต์พรีเมียมไว้ได้ โดยบีเอ็มดับเบิลยู และ มินิ ก้าวสู่ความสำเร็จอีกขั้นด้วยตำแหน่งผู้นำในตลาดพรีเมียมของไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ทั้ง 3 แบรนด์ มีอัตราการเติบโตในตลาดสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเติบโตขึ้นถึง 46.6% ในตลาดยานยนต์พรีเมียม และมียอดจดทะเบียนรถยนต์กว่า 15,010 คัน ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้าถึง 36.1% (แบ่งเป็น บีเอ็มดับเบิลยู 13,572 คัน และมินิ 1,438 คัน) ในระดับโลก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังคงเติบโตและครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมระดับโลกใน ปี พ.ศ. 2565 โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์รอยซ์ รวม 2,399,636 คัน ให้กับลูกค้าทั่วโลก ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยูยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเภทรถยนต์ไฟฟ้า โดยยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี พ.ศ. 2564 ด้วยยอดส่งมอบรวม 215,755 คันจากบีเอ็มดับเบิลยู และ มินิ พุ่งสูงขึ้นถึง 107.7% และเมื่อรวมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 372,956 คันตลอดทั้งปี เพิ่มขึ้น 35.6% จากปีก่อนหน้า สะท้อนความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ในขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทำสถิติยอดขายสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์ของบริษัท ด้วยยอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์และสกู๊ตเตอร์รวม 202,895 คันทั่วโลก

สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ความต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นนี้ สะท้อนให้เห็นจากส่วนแบ่งทางการตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ระดับพรีเมียมที่สูงถึง 40.8% ด้วยยอดจดทะเบียน 535 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากปีก่อนหน้า ความสำเร็จดังกล่าวคือ ผลลัพธ์จากการนำเสนอยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอย่างต่อเนื่องของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมียนตรกรรมไฟฟ้าให้เลือกซื้อครบทั้ง 3 แบรนด์ โดยรุ่นที่โดดเด่น ได้แก่ BMW i7 ที่เปิดตัวในไทยครั้งแรกกับการเป็น โมบิลิตี้ พาร์ตเนอร์ อย่างเป็นทางการสำหรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 (APEC 2022) และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รถยนต์ มินิ คูเปอร์
เอสอี ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยรูปลักษณ์และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ และ BMW CE 04 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเมืองอย่างลงตัว นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะได้มากถึง 900 หัวจ่ายทั่วประเทศ ควบคู่กับการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านสำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิมากถึง 2,500 เครื่อง

ความพึงพอใจของลูกค้ามาเป็นอันดับแรก พร้อมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการและศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับการประเมินคะแนนความพึงพอใจของผู้บริโภค (Net Promoter Score – NPS) สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ทั้งด้านยอดขายและการให้บริการ เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ที่ชี้ให้เห็นว่ากลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของบริษัท ด้วยเป้าหมายในการมอบความพึงพอใจสูงสุด บริการที่เยี่ยมยอด และที่สุดแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่แก่ลูกค้าในทุก ๆ ขั้นตอน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ขยายจำนวนโชว์รูมให้บริการเต็มรูปแบบและศูนย์บริการอย่างเต็มรูปแบบ (Fully-Fledged) ศูนย์บริการหลังการขาย (Service Only Outlet) และโชว์รูมในห้างสรรพสินค้า (Urban Store) หลายพื้นที่ โดยในปี พ.ศ. 2565 ได้เปิดตัวคอนเซปต์การออกแบบโชว์รูมและศูนย์บริการแบบใหม่ หรือ Retail Next ที่รังสรรค์บรรยากาศในการสัมผัสแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูที่ผ่อนคลายและใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้นตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไปยังโชว์รูม แนวคิดการออกแบบใหม่นี้ได้นำมาใช้ครั้งแรกในการออกแบบโชว์รูมและศูนย์บริการ มิลเลนเนียม ออโต้ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ ซึ่งเปิดให้บริการในปีที่ผ่านมา รวมถึงเพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส ราชพฤกษ์ที่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อเร็ว ๆ นี้ และคอนเซปต์การออกแบบ Retail Next จะนำมาใช้กับโชว์รูมที่เตรียมเปิดบริการในปี พ.ศ. 2566 นี้ ได้แก่ มิลเลนเนียม ออโต้ สุราษฎร์ธานี และ เนลสัน ออโต้เฮ้าส์ ระยอง ในขณะเดียวกัน ลูกค้ามินิก็สามารถเข้ารับบริการหลังการขายที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและมาตรฐาน ณ ศูนย์บริการหลังการขาย (Service Only Outlet) แห่งใหม่ถึง 3 แห่งซึ่งเปิดให้บริการในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น มิลเลนเนียม ออโต้ ลาดพร้าว, เยอรมัน ออโต้ สุวรรณภุูมิ และพลาติโน มอเตอร์ สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ก็เดินหน้ายกระดับการออกแบบโชว์รูมให้ตอกย้ำถึงแนวคิด Make Life a Ride ที่สื่อถึงจิตวิญญาณอิสระของเหล่านักบิดและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างรอบด้านยิ่งขึ้น โดยภายในปีนี้ เตรียมปรับโฉมมิลเลนเนียม ออโต้ อุบลราชธานี และบาเซโลนา มอเตอร์ เชียงใหม่ และภายในปี 2566 จะมีโชว์รูมและศูนย์บริการในทุกประเภท สำหรับแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู 34 แห่ง มินิ 18 แห่ง และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 14 แห่ง

อุ่นใจในทุกเส้นทางกับการขยายการรับประกันและแพ็คเกจบำรุงรักษาใหม่จากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราf ประเทศไทย

สิงห์นักบิดอุ่นใจกว่าที่เคย บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ขยายการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางและบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินหรือ โมบิลิตี้ เซอร์วิส เป็นระยะเวลา 5 ปี สำหรับลูกค้าที่รับมอบมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 (เข้าถึงการรับประกันได้ทั่วโลกกับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น) ในขณะเดียวกัน แพ็คเกจบำรุงรักษา BMW Motorrad Service Inclusive (BMSI) ยังพร้อมให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเป็น
ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถเลือกได้ระหว่างแพ็คเกจบำรุงรักษาครอบคลุม 3 ปี / 30,000 กิโลเมตร หรือแพ็คเกจ 5 ปี / 50,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)* โดยมีรายละเอียด ดังนี้

รุ่นมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด การรับประกันและ
โมบิลิตี้ เซอร์วิส
ราคาแพ็คเกจ BMSI
3 ปี/30,000 กม. (บาท)
ราคาแพ็คเกจ BMSI
5 ปี/50,000 กม. (บาท)
CE04 5 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง 13,000  19,000
C 400 19,000  31,000
G 310 28,000  36,000
F 750, F 850, F 900 27,000  40,000
S 1000 31,000  46,000
K 1600 34,000  48,000
R nineT, R 1250 33,000  48,000
R 18 32,000  50,000 

แพ็คเกจบำรุงรักษา BMW Motorrad Service Inclusive ยังครอบคลุมอะไหล่ของแท้ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ค่าแรง และน้ำมันหล่อลื่นต่าง ๆ สำหรับรายการตามตารางการซ่อมบำรุงมาตรฐาน ดังนี้

  • การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมกรองน้ำมันเครื่อง รวมถึงน้ำมันเครื่องสำหรับเติมกลับในระบบ
  • บริการเปลี่ยนกรองอากาศ กรองน้ำมันเชื้อเพลิง หัวเทียน
  • บริการเปลี่ยนน้ำมันเบรก
  • บริการตรวจสภาพรถตามข้อกำหนดของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.bmw-motorrad.co.th 

ความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นหนึ่งในแกนหลักของกลยุทธ์องค์กร

ทุกหน่วยงานทางธุรกิจภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ทุ่มเทความพยายามในการปฏิบัติงานตามกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งสนับสนุนโอกาสการเรียนรู้ของนักเรียนอาชีวะผ่านการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติกับโครงการ BMW Service Apprentice และโครงการการศึกษาระบบทวิภาคีเยอรมัน-ไทย โดยมุ่งส่งเสริมทักษะยานยนต์แห่งอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมาของการดำเนินงาน โครงการ BMW Service Apprentice มีนักเรียนเข้าร่วม จำนวน 247 คน ในขณะที่มีนักเรียนจำนวน 107 คน เข้าร่วมโครงการการศึกษาระบบทวิภาคีเยอรมัน-ไทย รวมจากทั้งสองโครงการ 354 คน โดยกว่า 50% ของนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากโครงการ
ยังคงทำงานอยู่ในเครือข่ายผู้จำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นอกจากนี้ ด้วยพันธกิจที่มุ่งสรรค์สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คนในพื้นที่ชนบท โครงการ Care4Water เริ่มต้นขึ้นเพื่อจัดหาน้ำสะอาดที่เข้าถึงได้ให้กับชุมชนที่ขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ตลอดระยะเวลา 8 ปีของโครงการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ส่งมอบเครื่องกรองน้ำรวมทั้งสิ้น 7,103 ชุด ให้กับ 96 ชุมชนใน 32 จังหวัดทั่วประเทศไทย และเพื่อเป็นการกระตุ้นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านความยั่งยืน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จึงริเริ่มดำเนินโครงการ ‘Choice is Yours’ ในปี พ.ศ. 2565 เพื่อส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษากล้าแสดงความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรชั้นนำต่าง ๆ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้สนับสนุนนิสิตนักศึกษารุ่นเยาว์ในการต่อยอดไอเดีย เพื่อค้นหาแนวทางในการ REduce REuse REthink และ REcycle พร้อมส่งเสริมความเชี่ยวชาญยิ่งขึ้นกับโปรแกรมการฝึกงานซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของทั้งนิสิตนักศึกษาและสังคมในภาพกว้าง โครงการดังกล่าวยังได้ขยายไปสู่ผู้จำหน่ายด้วยเช่นกันกับรางวัล ‘Sustainability Awards ’ ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มอบให้เพื่อแสดงความยกย่องผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และจะสานต่อความสำเร็จของโครงการ ‘Choice is Yours’ ในปี พ.ศ. 2566 ต่อไป

การปรับราคาใหม่ของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูบางรุ่น ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

เนื่องจากผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่สูงขึ้นและต้นทุนการผลิต บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จึงประกาศปรับราคารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูบางรุ่น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

รุ่นรถยนต์ ราคาใหม่พร้อมแพ็คเกจ
BSI Standard (บาท)
สิทธิประโยชน์จากแพ็คเกจ BSI Standard
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2
  • บริการดูแลบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • การบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่เป็นระยะเวลาสูงสุด 5 ปี
  • บีเอ็มดับเบิลยู 220i Gran Coupé M Sport
2,299,000
  • บีเอ็มดับเบิลยู M240i xDrive
4,369,000
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3
  • บีเอ็มดับเบิลยู 320d M Sport
2,759,000
  • บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport
2,999,000
  • บีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive
4,199,000
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4
  • บีเอ็มดับเบิลยู 430i Coupé M Sport
4,219,000
  • บีเอ็มดับเบิลยู 430i Convertible M Sport
4,629,000
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5
  • บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport 
3,689,000
  • บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport 
3,829,000
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 6
  • บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport
4,239,000
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7
  • บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport
6,999,000
บีเอ็มดับเบิลยู X3
  • บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport
3,759,000
  • บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport
3,859,000
บีเอ็มดับเบิลยู X4
  • บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport
4,159,000
  • บีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition
8,799,000
บีเอ็มดับเบิลยู Z
  • บีเอ็มดับเบิลยู Z4 sDrive30i M Sport
4,219,000
  • บีเอ็มดับเบิลยู Z4 M40i
5,219,000
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%
  • บีเอ็มดับเบิลยู i4 M50
5,259,000 • บริการดูแลบำรุงรักษา 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • การรับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • การรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูงนานสูงสุด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
  • การบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่เป็นระยะเวลาสูงสุด 5 ปี
  • บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport
6,299,000
  • บีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport 
3,699,000
  • บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport
8,099,000

Related posts

BYD Shark ครั้งแรกของค่ายกับปิคอัพ Plug In Hybrid เร้าใจสุดขั้วด้วยกำลังรวม 430 แรงม้า !

Porsche 911 ขุมพลัง Hybrid รุ่นแรกเตรียมจุติ ! แรงขึ้นชัด วัดด้วยเวลา…ต้องยอม !

โตโยต้า แนะนำรถตู้พรีเมียม “Toyota Majesty” รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2567 ยนตรกรรมที่มอบความหรูหราและสะดวกสบาย พร้อมเครื่องยนต์มาตรฐาน EURO 5

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา เรียนรู้เพิ่มเติม