หลังจากที่เป็นข่าวในโลกออนไลน์ด้วยภาพลายพรางมาหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุด Aston Martin DBX707 เจ้าของตำแหน่ง SUV ที่แรงที่สุดเท่าที่เคยมีก็ได้ฤกษ์ปรากฎตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมเขย่าวงการสายลุยพันธุ์หรูให้สั่นสะเทือนอีกครั้งด้วยขุมพลัง V8 ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 697 แรงม้า มาพร้อมระบบส่งกำลังในรูปแบบ Dual Clutch พร้อมการอัพเกรดแชสซีส์ใหม่ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ภาพลักษณ์อันหรูหราที่แฝงด้วยความดุดันไว้อย่างลงตัว
หัวใจสำคัญในความเป็น Aston Martin DBX707
อยู่ที่ขุมพลังจาก AMG ซึ่งมาในรูปแบบ V8 ทวินเทอร์โบ พิกัด 4.0 ลิตร ที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติมจากทีมวิศวกรของ Aston Martin จนทำให้เครื่องยนต์บล็อคนี้ สามารถรีดแรงม้าออกมาได้สูงสุดถึง 697 ตัว พร้อมกับแรงบิด 900 นิวตัน-เมตร ซึ่งหากเทียบกับ Aston Martin DBX เดิมนั้น Aston Martin DBX707 จะมีกำลังที่มากกว่าถึง 155 แรงม้า และมีแรงบิดเพิ่มจากเดิมอีก 200 นิวตัน-เมตร แต่นั่นอาจไม่ใช่ประเด็นหลัก…เพราะไฮไลท์ที่แท้จริงของ Aston Martin DBX707 อยู่ที่การเป็น SUV ที่มีกำลังมากกว่าคู่แข่งอย่าง Lamborghini Urus ที่เคยเป็น SUV ที่แรงที่สุดเดิมอยู่ถึง 56 แรงม้า และเหนือกว่าเพื่อนร่วมชาติ Bentley Bentayga Speed ที่มีเพียง 626 แรงม้า เท่านั้น โดยระดับแรงม้าที่ Aston Martin DBX707 วางไว้ ยังมองข้ามช็อตไปถึง Super SUV คู่แข่งในอนาคต ที่จะมาในรูปแบบ PHEV อีกด้วย
ด้านระบบส่งกำลังของ Aston Martin DBX707 คิดใหม่ ทำใหม่
เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงเพียงพอที่จะส่งถ่ายกำลังในระดับแตะ 700 แรงม้า ให้สามารถลงพื้นได้อย่างหมดจรด โดยมาพร้อมชุดเกียร์ Dual Clutch แบบ 9 สปีด แทนที่ระบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ที่เคยใช้ใน DBX เดิม ข้อดีคือ สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ด้านระบบขับเคลื่อนนั้นเป็นแบบ All Wheel Drive พร้อมลิมิเต็คสลิปที่ได้รับการอัพเกรดมาโดยเฉพาะ จนสามารถทำอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึงที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 310 กม./ชม. แซงหน้ารถในกลุ่ม Super SUV ที่ Bentley Bentayga Speed เคยทำสถิติเดิมเอาไว้ที่ 306 กม./ชม.
ห้องโดยสารของ Aston Martin DBX707
เป็นอีกส่วนที่ได้รับการออกแบบใหม่ ตั้งแต่ระบบการปิด – เปิดประตู รวมถึงชุดคอนโซลกลาง ที่มาพร้อมปุ่มปรับโหมดการขับขี่ รวมถึงปรับการทำงานของชุดช่วงล่างแบบ Adaptive, ปุ่มปรับน้ำหนักพวงมาลัย, เปลี่ยนเกียร์แบบ Manual รวมถึงฟังค์ชั่นปรับเสียงท่อไอเสีย ซึ่งไม่ต้องเซ็ตผ่านหน้าจอสัมผัสเหมือนใน DBX รุ่นก่อน นอกจากนั้น Aston Martin DBX707 ยังมาพร้อมเบาะในรูปแบบกึ่ง Bucket Seat พร้อมฟังค์ชั่นปรับไฟฟ้า 16 ทิศทาง (มีเบาะแบบ Comfort ให้เลือกแบบไม่ต้องเพิ่มเงิน) การตกแต่งภายในห้องโดยสารของ Aston Martin DBX707 สามารถเลือกธีมได้ถึง 3 รูปแบบ โดยตัวเลือกมาตรฐานจะมาหนังแท้ สลับ Alcantara จับคู่การตกแต่งด้วยสี Piano Black แต่หากต้องการความแตกต่างมากกว่านั้น ยังสามารถใช้บริการคอนฟิกผ่านแผนก Q by Aston Martin ได้อีกด้วย
Aston Martin DBX707 มีกำหนดส่งมอบในช่วงกลางปีนี้ โดยวางราคาไว้ที่ $232,000 หรือราว 7.7 ล้านบาท (ไม่รวมภาษี) ซึ่งหากเทียบราคาในต่างประเทศ ถือว่า Aston Martin DBX707 มีค่าตัวที่สูงกว่า Lamborghini Urus เล็กน้อย แต่ก็ยังถูกกว่า Bentley Bentayga Speed