ด้วยเทรนด์การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ BEV (ฺBattery Electric Vehicle) ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ทำให้หลายๆ แบรนด์ชั้นนำในวงการยานยนต์ต่างต้องงัดเอาแนวทางใหม่ๆ ออกมาใช้เพื่อการต่อสู้ แย่งชิงความเป็นผู้นำในวงการ ซึ่งอาจเป็นตัวชี้วัดอนาคตของตัวเองว่าจะเดินไปในทิศทางไหน หากไม่คิดที่จะเริ่มการเปลี่ยนแปลงเสียแต่วันนี้ (หรือเริ่มช้าเกินไป) ในวันหนึ่งเมื่อเวลานั้นมาถึง มันก็เป็นไปได้ที่หายนะอาจมาเยือน ถ้ายังคิดหรือทำอะไรล้าหลังกว่าเพื่อร่วมวงการ ซึ่งหากลองมองย้อนไป…การเปลี่ยนยุคของกำล้องถ่ายรูป จากกล้องในรูปแบบฟิล์ม สู่ยุคของกล้องในรูปแบบดิจิตัลที่ไปได้สวยในปัจจุบัน น่าจะเป็นตัวอย่างที่เทียบได้แบบเห็นภาพชัดที่สุด
แม้ว่าการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า อาจจะมีมานานแล้ว แต่หากวัดกันด้วยเรื่องความจริงจัง…นี่อาจจะยังเป็นการเริ่มใหม่สำหรับหลายๆ ค่าย ซึ่งด้วยต้นทุนที่มาจากจุดเริ่มต้นจากหนึ่งเหมือนกัน ทำให้ความต่างระหว่างเจ้าประจำในตลาด กับผู้ผลิตรายใหม่ที่หวังจะรุกตลาดในวงการนี้เป็นไปอย่างสูสี ยิ่งกับวงการรถยนต์ไฟฟ้าที่องค์ประกอบต่างๆ ล้วนมีความยืดหยุ่นกว่ารถที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ทำให้กรอบในการพัฒนา ไม่จำกัดอยู่ในวงกว้างอีกต่อไป ซึ่งหนึ่งในแบรนด์น้องใหม่แห่งวงการรถยนต์ไฟฟ้า หรือ BEV ที่น่าจับตาอย่างยิ่งก็คือ แบรนด์ที่มีชื่อว่า Alpha
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ได้รับการเผยโฉมโดยค่าย Alpha ก็คือ Alpha Ace ที่มาในรูปแบบเรโทรคูเป้ โดยออกคอนเซ็ปท์มาเพื่อหยั่งกระแสก่อนจะผลิตออกมาในรูปแบบโปรดักชั่น ซึ่งพื้นฐานของตัวรถตั้งอยู่บนโครงสร้าแบบ Modular Platform ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างหลากหลาย ให้เหมาะสมกับแต่ละรูปแบบการใช้งาน (หากจินตนาการแบบเข้าใจง่ายๆ ลองนึกถึงรถ Tamaya รุ่นใหม่ๆ ที่มีโครงสร้างแยกชิ้นหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนองค์ประกอบได้ตามต้องการ) ซึ่งแน่นอนว่า ด้วยสไตล์ของตัวรถ Alpha Ace จะมาในรูปแบบ 2 ที่นั่ง และจัดวางองคืประกอบภายในห้องโดยสารแบบง่ายๆ สไตล์ยนตรกรรมสำหรับสาย Minimal
Alpha Jax รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ของแบรนด์ Alpha เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดมาจาก Retro Coupe อย่าง Alpha Ace ก็คงไม่ผิด โดยจับมายกสูง เพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสาร (เพิ่มประตูหลังลักษะคล้ายๆ Open Cab นั่งได้ 4 คน) พร้อมเน้นเครื่องเคียงต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นในรูปแบบครอสโอเวอร์ ตัวเลขสมรรถนะยังคงเป็นชุดเดียวกับ Alpha Ace ด้วยการเป็นรถ EV ไซส์ใกล้เคียง Toyota RAV4 ที่มีความจุแบตเตอรี่ในระดับ 75 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยมีการวางค่าตัวเริ่มต้นไว้ที่ 38,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ
Alpha Wolf ปิคอัพพลังงานไฟฟ้าที่สร้างขึ้นในกลิ่นอายความเป็นสายลุยในยุค 80-90 พร้อมบุกตลาด EV Pick Up ในระดับที่เข้าถึงง่ายด้วยค่าตัวเริ่มต้นเพียง 36,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เน้นการใช้งานที่คล่องตัวด้วยความยาวตัวรถเพียง 4,775 มม. ภาพลักษณ์ภายนอกจัดเต็มในสไตล์สายลุยด้วยโป่งซุ้มล้อขนาดใหญ่ ปกคลุมล้อ 16 หรือ 18 นิ้ว มาพร้อมสปอร์ตไลท์ กันชนเหล็ก รวมถึงโรลบาร์ ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า และมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ระยะทางการวิ่งต่อการชาร์ตเต็ม 1 ครั้ง อยู่ที่ 400 – 440 กม. และมีกำลังในการลากจูงถึง 3,000 ปอนด์ มีขนาดกระบะที่ใหญ่พอๆ กับเตียงขนาด 5 1/2 ฟุต และทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.2 วินาที
แบตเตอรี่ที่จำนำมาใช้กับ Alpha Wolf คาดว่าจะมีความจุระหว่าง 75 – 85 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซี่งพร้อมรองรับระบบ Quick Charge และใช้งานได้อย่างมีเสถียรภาพด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ภายในห้องโดยสารของ Alpha Wolf มาในสไตล์โมเดิร์น ชวนให้นึกถึง Ford Mustang Mach-E พร้อมฟังค์ชั่นการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบภายในห้องโดยสารได้ตามต้องการ
แม้ว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่น จาก Alpha จะยังเป็นเพียงตัวโปรโตไทป์และอยู่ในระหว่างการระดมทุน แต่ ณ ปัจจุบัน ทางค่ายก็ได้เปิดให้จับจองเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหากใครที่ต้องการสัมผัสกับอะไรใหม่ๆ ที่ได้ทั้งความเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสมรรถนะเยี่ยม รวมถึงดีไวน์ที่มีเอกลักษณ์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจับจองกันได้ที่เว็บไซท์ของ Alpha Motor Corporation
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก EV Inside