ใช่แล้ว…อย่างที่ทราบกันดีว่า Nissan GT-R มีอายุโมเดลยาวนานถึง 14 ปี หลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2007 ผ่านร้อน ผ่านหนาว มามากมาย แต่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน Nissan GT-R ยังเป็นรถที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชียลมากที่สุด แน่นอนว่าส่วนสำคัญคือ การเป็นรถที่มีสมรรถนะสูง การออกแบบที่ล้ำสมัย ไม่ตกยุค รวมถึงการมี GT-R เวอร์ชั่นพิเศษ ออกมาให้สาย Super Car Killer ได้เชยชมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่ครั้งก่อนเราได้นำเสนอรุ่นพิเศษของ Nissan GT-R ในบางส่วน มาในครั้งนี้…เรามาต่อกับรุ่นที่เหลือก่อนที่จะมาเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง Nissan GT-R Premium Edition T-spec และ GT-R Track Edition Engineered by NISMO T-spec กันครับ
50 ปี…แห่งตำนาน Japanese Godzilla
ก่อนอื่น…อนาคตของเจนเนอเรชั่นปัจจุบัน ดูจะเหลือน้อยลงมากๆ แล้ว ด้วยเหตุผลหลักในเรื่องอายุโมเดลที่ยาวนานกว่า 14 ปี รวมถึงเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่อออกแบบมาตั้งแต่เมื่อกว่า 10 ปีก่อน ซึ่งมาตรฐานด้านมลพิษยังไม่ได้เข้มงวดเท่าปัจจุบัน ส่งให้ในบางภูมิประเทศ อาจจะไม่สามารถจำหน่าย Nissan GT-R เจนเนอเรชั่นปัจจุบันได้แล้ว ซึ่งล่าสุดในออสเตรเลียเพิ่งจะมีประกาศว่า Nissan GT-R T-spec และเวอร์ชั่น Nismo SV จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่อนุโลมให้จำหน่าย แม้จะมีค่ามลพิษที่เกินมาตรฐาน จากข้อมูลนี้ทำให้มีการคาดการณ์แตกออกเป็น 2 เสียง ว่า 1.อาจเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะยุติบทบาทการทำตลาดของ Nissan GT-R R35 และแทนที่ด้วยเจนเนอเรชั่นใหม่อย่าง R36 ส่วนอีกเสียงหนึ่งคือ 2.ยังคงใช้โมเดล Nissan GT-R R35 นี่แหละ แต่มีการปรับรายละเอียดเครื่องยนต์ให้มาในรูปแบบ Mild Hybrid โดยยังคงใช้พื้นฐานจากเครื่องยนต์บล็อค VR38DETT เช่นเดิม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหน…คงต้องตามดูอย่างอีกน้อย 2-3 ปี กว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
Nissan GT-R50 By Italdesign ที่สุดของสายคัสตอม…คงต้องยกให้คันนี้
อย่าเพิ่งสับสน หากจะพูดถึง Nissan GT-R รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี กับ Nissan GT-R50 ที่เรากำลังดูอยู่ ณ เวลานี้ แม้ว่าช่วงเวลาที่เปิดตัวมา อาจจะใกกล้เคียงกัน จนทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิด แต่ในความเป็นจริงแล้ว 2 รุ่นนี้ กลับมีองค์ประกอบที่ต่างกันอย่างสิ้นเขิง โดย Nissan GT-R50 นั้น ถือว่าเป็นเวอร์ชั่นคัสตอมพิเศษ ที่สำนักแต่งจากประเทศอิตาลีในชื่อ Italdesign ทำออกมาจำหน่ายในรูปแบบ Custom Made to Order หรือผลิตตามสั่ง ในจำนวนเพียง 50 คันทั่วโลก ตามอายุของรถในตระกูล GT-R และอายุของสำนัก Italdesign ที่ครบรอบ 50 ปี ในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกันพอดี โดยมีการเปิดตัวคอนเซ็ปท์ออกมาตั้งแต่ในปี 2019 จนกระทั่งผลิตเวอร์ชั่นขายจริงพร้อมส่งมอบในช่วงกลางปีก่อน ในส่วนของดีไซน์ Nissan GT-R50 By Italdesign นั้น ต้องยอมรับว่าสุดมาก ด้วยการใส่เส้นสาย ทรวดทรงที่เป็นการออกแบบในสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ๆ จนแทบไม่มีเค้าโครงความเป็น GT-R แบบดั้งเดิมเหลืออยู่ เพื่อจัดการแรื่องแอโร่ไดนามิคส์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมอัพพละกำลังให้สูงขึ้นเป็น 720 แรงม้า ไฮไลท์สุดๆ ของ Nissan GT-R50 By Italdesign คงหนีไม่พ้นเรื่องค่าตัว ที่ถูกตั้งไว้ที่ 990,000 ยูโร (คิดเป็นเงินไทย ณ ปัจจุบัน คือ 38.9 ล้านบาท) ซึ่งราคาเท่านี้ สามารถซื้อ Nissan GT-R เวอร์ชั่นสแตนดาร์ดได้ถึง 5 คัน !!! เลยทีเดียว
Nissan GT-R 50th Anniversary Edition รุ่นครบรอบ 50 ปี ที่แท้ True
นอกจาก Nissan GT-R50 By Italdesign แล้ว อย่างที่บอกว่า ในช่วงนั้นเป็นเวลาที่รถในตระกูล GT-R มีอายุครบ 50 ปี พอดี ทาง Nissan จึงได้เฉลิมฉลองด้วยการส่งเวอร์ชั่นพิเศษ Nissan GT-R 50th Anniversary Edition ออกมา โดยเป็นหนึ่งในรุ่นที่ Nissan ประเทสไทย นำเข้ามาทำตลาดด้วยราคา 11.3 ล้านบาท ความพิเศษของ อยู่ที่เรื่องสีสัน ที่มาในรูปแบบทูโทน โดยมีสี Hero คือ สีน้ำเงิน-ขาว พร้อมบ่งบอกความเป็นรุ่นครบรอบ 50 ปี ด้วยเพลทในบริเวณต่างๆ เช่น ท้ายรถ, ชุดล้อดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่นครบรอบ 50ปี, สคัพเพลท, คอนโซลเกียร์, หน้าปัด รวมถึงเบาะนั่งสีเทา-น้ำเงิน พร้อมปั๊มโลโก้ 50th Anniversary การตกแต่งภายในที่เน้นความหรูหรา เคร่งขรึมด้วยวัสดุอัลแคนทาร่า Nissan GT-R 50th Anniversary Edition ถือเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่น่าสะสม เพื่อเก็บเป็นคอลเล็คชั่น หรือเพื่อสร้างมูลค่าในอนาคต โดยเฉพาะสำหรับสาวก GT-R นี่คือ อีกหนี่งรุ่นที่ควรจะมีติดบ้านไว้
Nissan GT-R Nismo Special Edition
เปิดตัวในช่วงเดือนเมษายนปีนี้ สำหรับ Nissan GT-R Nismo Special Edition โดยมาในสีใหม่ของทาง Nismo ที่เรียกว่าสี Stealth Gray ซึ่งเป็นสีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพื้นแอสฟัลต์ซึ่งเป็นผิวแทร็กสนามแข่งที่ GT-R กวาดแชมป์ รวมถึงสร้างสถิติใหม่ๆ มาแล้วแบบนับไม่ถ้วน ใน Nissan GT-R Nismo Special Edition เน้นสมรรถนะที่สูงมากขึ้น รวมถึงสร้างภาพลักษณืความเป็น Nissan ยุคใหม่ ด้วยโลโก้ท้ายแบบเดียวกับที่ใช้ใน Nissan Ariya พร้อมการลดน้ำหนักให้เบาลง เช่น การลดการใช้สีบริเวณฝากระโปรง (โชว์ลายคาร์บอน ลดน้ำหนักสีลงได้ 100 กรัม) มีการเจาะครีบระบายลมที่ซุ้มล้อ ที่โอบรับกับชุดล้อฟอร์จสีดำขอบแดงไซส์ 20 นิ้ว จาก Rays Engineering ด้านเครื่องยนต์มีการปรับองค์ประกอบชุดใหญ่เพื่อความทนทาน สปริงวาล์ว, แหวนลูกสูบ, ก้านสูบ, ข้อเหวี่ยง, พูลเลย์ข้อเหวี่ยง และฟลายวีล มาครบเพื่อเรียกความจัดจ้านพร้อมกำลังในระดับกว่า 600 แรงม้า พร้อมเติมความพิเศษด้วยเพลทแผนก Takumi สีแดง…ในเดือนตุลาคมนีิ เราคงได้เห็นตัวเป็นๆ ของ Nissan GT-R Nismo Special Edition พร้อมๆ กับ Nissan GT-R Premium Edition T-spec และ GT-R Track Edition Engineered by NISMO T-spec ที่มีกำหนดเปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกัน
