ในวงการรถยนต์หลายสิบปีที่ผ่านมา…มีรถยนต์เพียงไม่กี่รุ่น ที่ใช้ดีไซน์ในรูปแบบเดิมๆ แต่ยังคงทำตลาดมาได้ต่อเนื่องหลายทศวรรษ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นย่อมต้องมีชื่อของ Offroad Iconic อย่าง Mercedes-Benz G-Class ที่ทำตลาดมาตั้งแต่ในช่วงปลายยุค 70 ซึ่งด้วยเอกลักษณ์ที่ไร้กาลเวลา รวมถึงคุณสมบัติเรื่องความทนทาน ทำให้ 80% ของบรรดา G-Class ที่เคยผลิตมาทั้งหมด ยังคงโลดแล่นอยู่บนท้องถนน ณ ปัจจุบัน
ปฐมบทแห่ง Mercedes-Benz G-Class (W460) ในปี 1979
ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ค่าย Mercedes-Benz จำเป็นต้องเดินหน้าต่อเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับรูปแบบความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน นั่นเองจึงเป็นที่มาของ ตัวลุยทรงกล่องเวอร์ชั่นขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน Mercedes-Benz G580 with EQ Technology ซึ่งถูกยกระดับสมรรถนะ รวมถึงเทคโนโลยีการขับเคลื่อนไปอีกขั้น โดยนอกจากจะเป็น G-Class ที่มีกำลังและแรงบิดสุงที่สุดเท่าที่เคยมีแล้ว ตัวรถยังมีคุณสมบัติบางประการ เช่น ฟังค์ชั่นการกลับรถในที่แคบ หรือ G Turn ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากการหมุนในทิศทางที่ทำได้อย่างอิสระของชุดมอเตอร์แต่ละตัวที่ล้อทั้ง 4 อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Mercedes-Benz G580 with EQ Technology จะเป็นรถในตระกูล G-Class ที่มีสมรรถนะและเทคโนโลยีในระดับสูงสุด รถรุ่นนี้…ยังอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ก่อนที่จะกลายมาเป็นรูปแบบในการทำตลาดแบบเดียวของ G-Class
Mercedes-AMG G63 กับขุมพลังในรูปแบบ V8 ที่ยังคงมีอยู่ในเวอร์ชั่นปี 2025
“80% ของ G-Class ที่เคยผลิต ยังคงวนเวียนอยู่ในตลาด” นี่คือ คำพูดของ Michael Schiebe ผู้บริหารระดับสูงของ AMG, G-Class รวมถึง Maybach ในงานเปิดตัว G-Class ไฟฟ้าที่ประเทศจีน
” รถเหล่านี้ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก บางคันเริ่มใช้มาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1979 และยังคงถูกใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมไปถึงลากยาวไปในอีกหลายๆ ปีต่อไป ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ในรูปแแบบนี้ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คงหนีไม่พ้น การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ รวมถึงสไตล์การออกแบบที่ต่อให้เป็นยุคไหนๆ ก็ไม่รู้สึกว่าดีไซน์เหล่านี้ล้าสมัยนั่นเอง โดยหากเป็นรถในรูปแบบอื่นๆ คุณอาจจะต้องเปลี่ยนมันมาแล้วสัก 3-4 คัน จนกว่าจะถึึงเวลานี้ก็เป็นได้”
Mercedes-Benz G580 with EQ Technology แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่มาแรง แต่คงไม่ใช่ “ตัวจบ” ของใครหลายคนในเร็วๆ นี้
ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง ทำให้ฝั่ง Mercedes-Benz เลือกที่จะทำตามความต้องการของลุกค้า โดยจะยังคงรักษาเอกลักษณ์ของรถในตระกูล G-Class ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป โดยเฉพาะขุมพลังในรูปแบบ V8 เอาไว้ เพื่อให้ G-Class ในทุกยุค ทุกสมัย เป็น Offroad Iconic ในแบบที่พวกเขาต้องการ ส่วนสำหรับคนที่ไม่ได้ซีเรียสว่าต้องเป็นเครื่องยนต์บล็อคแรงในตระกูล V8 ทางค่าย Mercedes-Benz ก็จะยังคงทางเลืออกในรูปแบบ 6 สูบ รวมถึง Mercedes-Benz G580 with EQ Technology ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าไว้ให้เป็นทางเลือกที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อลดความเสี่ยงของค่าย Mercedes-Benz อีกด้วย
