Home » Mercedes-Benz G580 EQ Technology ถือกำเนิด Geländewagen ที่แรงที่สุดที่เคยมี !

Mercedes-Benz G580 EQ Technology ถือกำเนิด Geländewagen ที่แรงที่สุดที่เคยมี !

by Admin clubza.tv
Mercedes-Benz G580 EQ

มาตามคำเรียกร้อง สำหรับตัวลุยพันธุ์แกร่ง G-Class เวอร์ชั่นไฟฟ้า ที่คราวมาในชื่อที่ทำให้แฟนๆ รู้สึกคุ้นเคยมากขึ้น Mercedes-Benz G580 with EQ Technology ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกของรถตระกูลไอคอนิคของค่าย ที่มาในรูปแบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ในเวอร์ชั่นที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป มาพร้อมขุมพลังหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ 4, 5, 6, 8 และ 12 สูบ อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Mercedes-Benz G580 with EQ Technology จะไม่มีเครื่องยนต์แล้ว แต่ยังคงให้กลิ่นอายความเป็น Geländewagen แบบที่หลายคนคุ้นเคยอย่างเต็มอารมณ์

Mercedes-Benz G580 with EQ Technology ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกในตระกูล Geländewagen ของค่ายดาวสามแฉก

หากมองไล่มาตั้งแต่ภาพลักษณ์ สิ่งที่ Mercedes-Benz G580 with EQ Technology แตกต่างจากรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป คงหนีไม่พ้นการมาพร้อมกระจังหน้าในรูปแบบปิดทึบ พร้อมเติมความโดดเด่นด้วยขอบเส้นเรืองแรง แบบเดียวกับที่เราคุ้นเคยในรถต้นแบบ EQG ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2021 ส่วนช่องใส่ล้ออะไหล่ทางด้านท้าย งานนนี้ถูกปรับมาเป็นพื้นที่สัมหรับเก็บอุปกรณ์การชาร์จ พร้อมด้วยชุดเครื่องมือต่างๆ โดยของที่ใส่เข้าไปนั้น จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 10 กก. และแม้ว่าดีไซน์โดยรวมของ Mercedes-Benz G580 with EQ Technology จะเป็นรถทรงกล่อง แต่กลับได้รับการอัพเกรดประสิทธิภาพในเรื่องแอโร่ไดนามิคส์ เพื่อการประหยัดพลังงานได้อีกขั้น

Mercedes-Benz G580 with EQ Technology มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 4 ตัว

โดยมอเตอร์แต่ละตัวนั้น จะแยกการทำงานอิสระในล้อทั้ง 4 ซึ่งแน่นอนว่า การทำงานอย่างไร้ขีดจำกัดของระบบขับเคลื่อน จะส่งให้ตัวลุยระดับไอคออนิคคันนี้ สามารถก้าวผ่านอุปสรรคทั้งบนถนนหรือในเส้นทางออฟโร๊ดได้เหนือกว่าเวอร์ชั่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป โดย Mercedes-Benz G580 with EQ Technology มีกำลังรวมทั้งสิ้น 579 แรงม้า พร้อมกับแรงบิดในระดับ 1,165 นิวตัน-เมตร ด้วยตัวเลขนี้เอง ส่งให้ G-Class พลังไฟฟ้าผู้นี้ เป็นเวอร์ชั่นที่แรงที่สุดในตระกูล โดยมีแรงม้ามากกว่า Mercedes-AMG G63 อยู่ 2 ตัว แต่ไฮไลท์ที่เหนือกว่านั้น คือ ด้วยความเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ Mercedes-Benz G580 with EQ Technology มีความโดดเด่นเรื่องการตอบสนอง โดยมีแรงบิดเหนือกว่าอยู่ 315 นิวตัน-เมตร

อัตราเร่ง 0-100 ราว 4.7 วินาที แต่นั่น…จะมีใครสน ?

ด้วยระดับพละกำลังที่ได้ชื่อว่า “แรงที่สุดเท่าที่ G-Class เคยมี” ช่วยส่งให้ Mercedes-Benz G580 with EQ Technology สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.6 วินาที (ช้ากว่า G63 อยู่ 0.1 วินาที…เนื่องจากตัวรถมีน้ำหนัก 3,085 กก. ซึ่งมากกว่า G63 ถึง 445 กก.) และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 180 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เวอร์วัง แต่เชื่อว่า…คงไม่มีใครซื้อรถในตระกูล G-Class เพียงเพราะอยากเอามาโชว์ความแรงในทางเรียบ โดยคุณสมบัติที่เหนือกว่าของ Mercedes-Benz G580 with EQ Technology ที่แท้จริง ก็คือ ความสามารถในการลุยน้ำลึกที่ 850 มม. ซึ่งเหนือกว่า G63 ที่ทำได้เพียง 700 มม. อีกทั้งตัวรถยังมีระยะต่ำสุดจากพื้นสูงถึง 249 มม. อีกด้วย

Mercedes-Benz G580 with EQ Technology

มีความสามารถในการใต่มุมเอียงได้ถึง 35 องศา พร้อมมีมุมเข้าหาอุปสรรค 32 องศา และมุมจาก 30.7 องศา นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการใต้ทางชันได้ถึง 45 องศา ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาใน G-Class เวอร์ชั่นไฟฟ้าคันนี้ เช่นเดียวกับฟังค์ชั่นการลุยออฟโร๊ดที่สามารถปรับเลเวลการทำงานของระบบส่งกำลังได้หลากหลายระดับ สำหรับการขับขี่ความเร็วทั่วไปที่แบ่งจังหวะการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าออกเป็น 2 สเต็ป หรือการขับลุยด้วยความเร็ว Walking Speed พร้อมกนนี้ยังมาพร้อมคุณสมบัติพิเศษอย่าง G-Turn ที่สามารถหมุนรถในพื้นที่แคบๆ พร้อมด้วยฟังค์ชั่น G-Steering ที่ช่วยให้ผ่านพื้นที่คับขันได้อย่างคล่องตัว

โช้กอัพปรับการทำงานด้วยไฟฟ้าตามรูปแบบการขับขี่ พร้อมเซ็ตป้องกันแพคแบตเตอรี่ ให้ประสิทธิภาพในการลุยน้ำลึกได้เหนือกว่ารุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป

ระบบช่วงล่างของ Mercedes-Benz G580 with EQ Technology

มาในรูปแบบอิสระดับเบิลวิชโบนในด้านหน้า และคานแข็งที่ล้อคู่หลัง โดยจับคู่กับชุดโช้กอัพแบบ Adaptive ที่ปรับความหนืดด้วยไฟฟ้า ตัวรถมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 116 kWh วางอยู่บนแชสซีส์แบบขั้นบันได พร้อมห่อหุ้มด้วยวัสดุคาร์บอนคอมโพสิตป้องกันการกระแทกรวมถึงความชื้นเข้าไปทำความเสียหายให้กับตัวแบตเตอรี่ เคลมระยะการเดินทางต่อชาร์จ 473 กม. ตามมาตรฐาน WLTP โดยความสามารถในการรองรับการชาร์จสูงสุดของ Mercedes-Benz G580 with EQ Technology อยู่ที่ 200 kW (10-80% ใน 32 นาที) ด้วยไฟกระแสตรง ส่วนการรองรับการชาร์จแบบปกติจะอยู่ที่ 11 kW

ดีไซน์ในห้องโดยสาร แทบแยกไม่ออกระหว่างรุ่นไฟฟ้าและรุ่นก่อนที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป

Edition One รุ่นแรกสำหรับการทำตลาด

การตกแต่งภายในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz G580 with EQ Technology

ยังคงใช้ดีไซน์ที่ไม่แตกต่างจาก G-Class รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปมากนัก (จนแทบไม่สามารถแยกความแตกต่างหากพิจารณาจากการออกแบบภายใน) โดยยังคงมาพร้อมชุดหน้าจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว สำหรับทั้งบอกข้อมูลการขับขี่ และรองรับการสั่งการต่างๆ เช่นเดียวกับแผงมือจับสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า นอกจากนี้ Mercedes-Benz G580 with EQ Technology ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยทียกมาจากรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป ซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้า เช่น ฟังค์ชั่น Transparent Hood มุมมองด้านหน้าแบบโปร่งใส เพื่อให้ผู้ขับขี่มีมุมในการมองเห็นที่กว้างและหลากหลายมากขึ้น อันเป็นการทำงานร่วมกันของชุดกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา

Mercedes-Benz ส่งสัญญาณปล่อย EQG พร้อมโชว์สมรรถนะโหด “คันไหนไปได้…G ไปได้สุดกว่า”


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy