Home » #ทีมขับซ่า บุกโรงงาน MG ! ทั้งผลิตตัวถัง งานสี ประกอบ และทำแพคแบตเตอรี่ EV ที่เดียว…จัดให้ครบๆ

#ทีมขับซ่า บุกโรงงาน MG ! ทั้งผลิตตัวถัง งานสี ประกอบ และทำแพคแบตเตอรี่ EV ที่เดียว…จัดให้ครบๆ

by Admin clubza.tv

MG นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์ที่อยู่คู่กับผู้ใช้รถใช้ถนนชาวไทยมาแล้วกว่า 10 ปี โดยในตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นพัฒนาการของทางค่าย ที่พยายามจะนำเสนอรถยนต์ในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก ที่แบรนด์ MG เป็นผู้บุกเบิกรถทั้งในรูปแบบ PHEV รวมถึง BEV ในระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้จริง จนนำมาสู่ความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นในยุคปัจจุบัน โดยนอกจากการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องแล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นความน่าสนใจของแบรนด์ MG คงหนีไม่พ้น โรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ที่มีความหลากหลาย สามารถรองรับการผลิตรถยนต์ในทุกรูปแบบ และที่ยิ่งไปกว่านั้น โรงงานแห่งนี้ ยังเป็น โรงงานแห่งแรกในประเทศไทย รวมถึงในภูมิภาคอาเซียนที่สามารถผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ BEV อีกด้วย

โรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ MG โดย บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด

โรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ของ MG นั้น ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม WHA Eastern Seaboard จ.ชลบุรี  บนพื้นที่กว่า 437 ไร่ ภายใต้เงินลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท และเริ่มสายการผลิตมาตั้งแต่ปี 2016 (รถยนต์รุ่นแรกที่ประกอบในโรงงานแห่งนี้ คือ MG ZS) โดยมีการแบ่งพื้นที่ของตัวโรงงานออกเป็น ส่วน ประกอบไปด้วย โรงงานประกอบตัวถัง, โรงพ่นสีรถยนต์, โรงงานประกอบตัวรถ (3 โรงงานแรกนี้ ครอบคุลมพื้นที่ราว 300 ไร่) รวมถึงโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถ EV ซึ่งเป็นการลงทุนระลอกใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศ อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นการผลิตรถ EV เพื่อชดเชยการนำเข้ารถ EV จากต่างประเทศ ตามนโยบายการสนับสนุน EV 3.0

MG 4 Electric รุ่นประกอบภายในประเทศ

เงื่อนไขของ “การผลิตและประกอบรถยนต์ในประเทศ หรือ CKD” นั้น สำหรับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น รถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป, รถไฮบริด หรือแม้แต่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า นอกจากการนำเข้าชิ้นส่วนต่างๆ (จากประเทศแบรนด์ต้นทาง หรือประเทศของซัพพลายเออร์) มาประกอบภายในประเทศแล้ว จะต้องมีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตภายในประเทศ หรือ Local Content ในอัตราส่วนที่ไม่น้อยกว่า 40% ขึ้นไป โดยที่ผ่านมานั้น สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้มอบหมายให้ สถาบันยานยนต์ เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ว่าชิ้นส่วนต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้กับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้หรือไม่ ?

เป็นไลน์ที่มีความหลากหลายในการประกอบ สามารถรองรับการผลิตรถยนต์ได้ทุกรูปแบบ

ความน่าสนใจของโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ของ MG คือ การเป็นโรงงานที่มีความยืดหยุ่นและหลากหลายในไลน์การผลิต โดยสามารถผลิตรถยนต์ในทุกแพลตฟอร์ม ทุกรูปแบบ ทุกขนาด และทุกประเภทของระบบพาวเวอร์เทรน ได้ในไลน์เดียวกันแบบ 1 ต่อ 1 (ไม่จำเป็นต้องผลิตรถ่นเดียวกันต่อเนื่อง สามารถสลับแพลนการผลิตได้ตามความต้องการของตลาด) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากวันที่ #ทีมขับซ่า มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชมภายในไลน์การประกอบรถยนต์ของ MG เราจะได้เห็นรถยนต์ภายในไลน์การประกอบเดียวกันทั้ง MG ZS, MG 5 (เป็นรถในรูปแบบพวงมาลัยซ้าย ที่เตรียมจะส่งออกไปยังประเทศเวียดนาม) รวมถึง MG 4 Electric ทั้งในรุ่น Standard Range และรุ่น Long Range ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน ที่เริ่มนำมาประกอบทั้งตัวรถ รวมถึงแบตเตอรี่ EV ภายในโรงงานแห่งนี้เช่นเดียวกัน

รถแต่ละคันที่ประกอบ จะถูกจัดสรรชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อให้ตรงกับรูปแบบและทริมในการผลิตมากที่สุด

นอกจากโรงงานประกอบตัวถังและโรงพ่นสีที่ใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะ (Intelligence Robotics) แบบ 100% เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก ลดเวลาและความผิดพลาดในการทำงานแล้ว บุคลากรภายในโรงงานประกอบรถยนต์ของ MG จะต้องมีความยืดหยุ่นและมีความสามารถที่จะประกอบรถยนต์ทุกรุ่นในไลน์การผลิต ซึ่งในส่วนของการจัดสรรชิ้นส่วนสำหรับรถแต่ละคันนั้น ชิ้นส่วนต่างๆ จะถูกจัดใส่ 1 คันรถในไลน์ มาเฉพาะรถยนต์ในแต่ละคัน โดยมีการแยกรายละเอียดของตัวรถ เช่น รุ่นทริม อย่างชัดเจน เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการประกอบ

จำนวนที่เคยผลิตสูงสุด คือ 20 คัน ต่อชั่วโมง โดยสามารถรองรับการผลิตได้สูงสุดถึง 100,000 คัน ต่อปี

โรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ MG แห่งนี้ สามารถรองรับการผลิตได้สูงสุดถึง 100,000 คันต่อปี (ปัจจุบันผลิตอยู่ที่ประมาณ 50,000 คัน ต่อปี สำหรับ 1 กะ) โดยตั้งแต่เปิดสายการผลิต นับจนถึงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา โรงงานแห่งนี้ ผลิตรถยนต์ไปแล้วถึง 197,504 คัน (เป็นรถยนต์ที่ถูกส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเวียดนามและอินโดนิเซีย จำนวน 20,788 คัน) แม้ว่าต้นทุนการประกอบรถยนต์ภายในประเทสไทย จะมีอัตราส่วนที่สูงกว่าต้นทุนการนำเข้ารถยนตืจากต่างประเทศ (ซึ่งสามารถผลิตได้ในจำนวนที่มากกว่า) แต่การที่ทาง MG เลือกที่จะลงทุนตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ รวมถึงแบตเตอรี่ EV ในประเทศไทย แน่นอนว่าเป็นเพราะ ความต้องการที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ รวมถึงการสร้างงานให้กับคนไทย โดย 98% ของบุคคากรทั้งหมดของ MG นั้น เป็นคนภายในทั้งสิ้น และมีเพียง 2% หรือเพียง 26 คน จากบุคลากรทั้งสิ้นกว่า 1,000 ชีวิต


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy