หลังจากที่ห่างหายไปจากวงการอย่างยาวนาน จนคิดว่านี่อาจถึงกาลอวสานของรถ SUV C-Segment ของค่าย Honda ที่ความนิยมลดน้อยถอยลงเมื่อเทียบกับรุ่นน้อง แต่ในที่สุดก็มีภาพของ Honda CR-V ออกสุ่สายตาสาธานณชนในประเทสจีน แม้จะยังไม่ใช่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยภาพลักษณืความเป็น “รถจริง” เช่นนี้ โอกาสที่จะเกิดความคลาดเคลื่อนนั้น…คงเป็นไปได้ยาก
ว่าที่ Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6
Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 สเป็คที่เตรียมทำตลาดในประเทศจีน มาพร้อมขนาดตัวถังทที่ความกว้าง x ยาว x สูง อยู่ที่ 1,866 (+11 มม.) x 4,703 (+80 มม.) x 1,680 มม. ส่วนระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,701 มม. ยาวกว่า 41 มม. หากเทียบกับ Honda CR-V เจนเนอเรชั่นก่อนหน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่า จะมีมาให้เลือกทั้งในรูปแบบ 5 และ 7 ที่นั่ง แบบเดียวกับในรุ่นปัจจุบัน ที่ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2016 นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 คงหนีไม่พ้นการออกแบบภายในและฟังค์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย และที่ขาดไม่ได้ก็คือ การใส่ระบบความปลอดภัย Honda Sensing เวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา ที่ช่วยเติมประสิทธิภาพในการขับขี่ให้เหนือชั้นมากยิ่งขึ้น
จุดเด่นด้านความปลอดภัยด้วย Honda Sensing และกล้องรอบทิศทาง
การกลับมาของ Honda CR-V ในครั้งนี้ ยังคงมาในฐานะของ “พี่ใหญ่” ของค่าย Honda แม้ว่าก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน ทางค่ายจะเปิดตัว SUV รุ่นล่าสุดในพิกัด C-Seegment อย่าง Honda ZR-V แต่นั่นคงจะเป็นเพียงการเพิ่มไลนืเพื่อขยายกลุ่มเป้าหมาย สำหรับผู้ที่ต้องการรถในสไตล์ SUV ที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบครอบครัวด้วยขนาดที่ใหญ่ และยังพร้อมตอบโจทย์ความสนุกสนานในการขับขี่ด้วยขุมพลัง และดารเซ็ตช่วงล่างที่สามารถบังคับควบคุมได้ง่าย (ลักษณะเดียวกับ Toyota Corolla Cross GR Sport) ดีไซน์ในภาพรวมของเจนเนอเรชั่นที่ 6 เป็นเสมือนการรวมจุดเด่นของรถรุ่นต่างๆ ของแบรนด์ Honda เข้าไว้ด้วยกัน โดยสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และชวนให้นึกถึงความเป็น Honda CR-V มากที่สุด คงหนีไม่พ้นไฟท้ายดีไซน์ L Shape
ที่จีนเริ่มทำตลาดด้วยรุ่น 1.5 เทอร์โบ แต่ในบ้านเรา…คาดว่า e:HEV สถานเดียว
สำหรับ Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 ในภาพ หากสังเกตดีๆ จะพบป้าย Badge ขุมพลัง 1.5 เทอร์โบ ซึ่งการทำตลาดในประเทศจีน จะใช้เครื่องยนต์บล็อคนี้ โดยเป็นการยกระดับความเร้าใจจากขุมพลัง L15 B7 ใน Honda Accord ที่มีกำลังในระดับ 190 แรงม้า มาใช้ จับคู่กับชุดเกียร์รูปแบบ CVT โดยมีระบบขับเคลื่อนมาเป็นทางเลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อนสี่ล้อ นอกจากนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าในอนาคตอันใกล้ อาจมีรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด e:HEV ตามออกมา โดยเป็นระบบที่ใช้กำลังจากเครื่องยนต์ในพิกัด 2.0 ลิตร จับคู่กับมอเตอรืไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ซึ่งให้พละกำลัง อัตราเร่ง รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่าเครื่องยนต์ในบล็อค 1.5 ลิตร เทอร์โบ และหากเซอร์ไพรซ์กว่านั้น ตามข้อมูลที่ออกมาก่อนหน้านี้ Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 อาจมีระบบขับเคลื่อนที่มาในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริด ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัมนาเพื่อทำตลาดในยุโรปด้วย
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายปี และจะเริ่มทำตลาดในฐานะรถที่เริ่มจำหน่ายในปี 2023 ซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละภูมิภาคที่ทำตลาด จะมีสเป็คที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย แต่เชื่อได้ว่า…หากมีโอกาสทำตลาดใน้บ้านเรา รูปแบบการขับเคลื่อนที่เป็นไปได้มากที่สุด คงหนีไม่พ่นระบบไฮบริด e:HEV ตามนโยบายของ Honda ในยุคปัจจุบันอย่างแน่นอน
