หลังปี 2019  เป็นต้นมา นอกจากระบบขับเคลื่อนที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยการนำมอเตอรืไฟฟ้ารวมถึงชุดแบตเตอรี่เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนแล้ว ยังถือเป็นยุคทองของเครื่องยนต์ในรูปแบบ Down Sizing เทอร์โบ ก็ว่าได้ หลายๆ ค่ายพยายามพัฒนาเครื่องยนต์ยุคใหม่ให้มีความจุที่ต่ำลง แต่ยังคงประสิทธิภาพและอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่าเอาไว้ ด้วยการเติมตัวช่วยอย่างระบบอัดอากาศ ซึ่งโดยส่วนใหญ่นิยมนำเทอร์โบชาร์จเข้ามาช่วยอัดอากาศเพื่อเรียกกำลังให้กับเครื่องยนต์ โดยสิ่งที่ได้มาในระดับที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เครื่องยนต์บล็อคใหญ่กว่ามีให้ คือ พละกำลัง แต่สิ่งที่ไม่สามารถเทียบได้ คงหนีไม่พ้นอัตราเร่งจากแรงบิด ซึ่งรถที่มีระบบอัพอากาศนั้น ทำได้เหนือกว่าเครื่องยนต์ในรูปแบบ NA ที่มีความจุมากกว่าได้อย่างชัดเจน

Honda Civic เจนฯ 11 มาพร้อมขุมพลัง 1.5 ลิตร เทอรโบ ในทุกรุ่นย่อย

หากเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ เช่น ในรถ Honda Accord เจนเนอเรชั่นที่ 9 ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ในพิกัด 2.4 ลิตร ให้กำลัง 174แรงม้า กับแรงบิด 225 นิวตัน-เมตร แต่พอมาเป็น Honda Accord เจนเนอเรชั่นที่ 10 เครื่องยนต์ถูกปรับมาเป็นรูปแบบ Down Sizing พ่วงด้วยระบบอัดอากาศ ที่มีความจุเพียง 1.5 ลิตร เทอร์โบ แต่กลับให้กำลังที่มากถึง 190 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 243 นิวตัน-เมตร ซึ่งหากเทียบไปแล้ว ถือว่ามีแรงบิดที่ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ NA ในพิกัด 2.4 – 2.5 ลิตร เลยทีเดียว ซึ่งนอกจากความโดดเด่นในเรื่องแรงบิดแล้ว สิ่งหนึ่งที่เครื่องยนต์บล็อคเล็กกว่ามีให้ คือ ความประหยัดในช่วงการทำงานในช่วงโหลดต่ำ ใช้รอบคงที่ หรือจอดนิ่ง ตามลักษณะพื้นฐานของเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็ก

Honda Accord EL คือ การเริ่มต้นสู่คลาสที่สูงกว่าที่ดี แต่ถ้าอยากหรู สนุก และประหยัดกว่านี้ Accord e:HEV คือ ทางออก

แต่อย่างไรแล้ว…หากต้องการพละกำลังในระดับสูงสุด ต่อใหเครื่องเล็ก หรือเครื่องที่มีขนาดใหญ่กว่า (ซึ่งมี Output ของพละกำลังในระดับที่ใกล้เคียงกัน) ก็ย่อมส่งผลให้การใช้เชื้อเพลิงยิ่งสูงขึ้น ตามพละกำลังที่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งไม่ได้หมายความว่า…เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กกว่า จะประหยัดได้มากกว่า ในอัตราการปล่อยกำลังที่สูงเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ไซส์ใหญ่ ในทางทรงข้ามกัน เครื่องยนต์บล็อคเล็กกว่า ที่ถูกรีดเค้นเพื่อเรียกกำลังในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง มีความเป็นไปได้สูงว่า อาจเกิดการสึกหรอที่มากกว่าเครื่องยนต์บล็อคใหญ่ ในระดับกำลังเดียวกัน หากการเลือกใช้วัสดุ หรือองประกอบข้างเคียงยังไม่อยู่ในระดับที่เหมาะสมมากพอ

เครื่องยนต์ L15 B7 ใน Honda Civic เจนฯ 10

เครื่อง L15 BG ใน Honda Civic 2021

เครื่อง L15 BG เริ่มใช้ใน Honda Accord ตั้งแต่ปี 2019 ด้วยกำลังสูงสุดในระดับ 190 แรงม้า

เมื่อทำความเข้าใจกับหลักการพื้นฐานของเครื่องยนต์ในยุคปัจจุบันไปพอสังเขปแล้ว กลับมาเข้าเรื่องที่หยิบยกมาเป็นประเด็นของเราในครั้งนี้ นั่นก็คือ สมรรถนะในภาพรวมของ Honda Civic เปรียบเทียบกับ Honda Accord ยุคปัจจุบัน โดยในโมเดลตั้งต้นนั้น เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 11 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ ไฮไลท์ของ Honda Civic เจนฯ 11 คือ มาพร้อมเครื่องยนต์ในบล็อค 1.5 เทอร์โบ ในทุกรุ่นย่อย ซึ่งเครื่องยนต์บล็อคที่ว่านั้น ไม่ได้เป็นเครื่องยนต์รหัส L15 B7 แบบเดียวกับที่ใช้ใน Honda Civic 2016 หรือ Honda Civic เจนฯ 10 แล้วนำมาอัพแรงม้าเป็น 178 ตัว กับแรงบิด 240 นิวตัน-เมตร อย่างที่หลายคนเข้าใจในตอนแรก แต่หากใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ค่าย Honda คงยังพอจำได้ว่า ใน Honda Accord เจนเนอเรชั่นที่ 10 ที่ออกมาในปี 2019 ก็มีเครื่องยนต์ที่เป็นบล็อค 1.5 ลิตร เทอร์โบ ออกมาเช่นกัน ต่างกันตรงที่เครื่องยนต์ของ Honda Accord เจนฯ 10 นั้น มีกำลังที่สูงกว่าเป็น 190 แรงม้า และแรงบิด 243 นิวตัน-เมตร ด้วยบล้อคเครื่องยนต์ที่มาในรหัส L15 BG ซึ่งในปี 2021 เป็นทางฝั่ง Honda Accord เจนฯ 10 ที่มีการไมเนอร์เชนจ์ ปรับรายละเอียด เติมออพชั่นโดยเฉพาะระบบ Honda Sensing เข้าไปทั้ง 5 ระบบ เพื่อให้มีความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ได้ง่ายขึ้นในงบที่จ่ายเพิ่มจากเดิมเพียง 24,000 บาท

เทียบความต่าง Honda Civic vs Accord 1.5 Turbo

มาถึงตรงนี้แล้ว หากมองเห็นภาพว่า Honda Civic เจนฯ 11 ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ที่มาจาก เจนฯ 10 แล้วนำมาอัพกำลังให้สูงขึ้น ก็คงจะพอเข้าใจแล้วว่า เป็นเครื่องยนต์ของ Honda Accord เจนฯ 10 ที่นำมาปรับระดับกำลังให้ต่ำลง เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานกับ Civic นั่นเอง โดยความต่างของระดับแรงบิดระหว่าง 240 และ 243 นิวตัน-เมตร อาจดูไม่เยอะ แต่ถ้าเทียบระดับแรงม้าที่ 178 กับ 190 ตัว ช่องว่า 12 ตัว ถือว่า Honda Accord เจนฯ 10 นั้น ดูดีกว่าพอตัว แล้วตัวเลขสมรรถนะล่ะ…จะดีขึ้นเหมือนตัวเลขพละกำลังหรือเปล่า ?

ภาพรวมด้านอัตราเร่งถือว่าใกล้เคียงกันมาก เป็นการชดเชยพละกำลังเพื่อรักษา Weight : Power Ratio ของรถทั้ง 2 รุ่น ได้อย่างเหมาะสม

เทียบอัตราเร่ง Honda Civic vs. Accord 1.5 Turbo

หลังจากที่ลองทดสอบด้วยเครื่องมือ V Box Sport อยู่หลายรัน เป็นทาง Honda Accord EL ทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อโดยการเร่งออกตัวนำไปก่อนตั้งแต่ความเร็ว 40 กม./ชม. ก่อนที่ทางฝั่ง Honda Civic RS จะมาไล่แซงในช่วงความเร็วแตะ 100 กม./ชม. ขึ้นไป โดยแม้ว่าทางฝั่ง Accord  จะมีน้ำหนักที่มากกว่าอยู่เกือบ 160 กก. แต่ด้วยแรงบิดที่มากกว่า ซึ่งมาในรอบที่ต่ำกว่า รวมถึงอัตราทดเฟืองท้ายที่มีความจัดจ้านมากกว่า ทำให้สามารถออกตัวไปได้ก่อนแบบยาวๆ ส่วน Civic ชัดเจนว่าเด่นกว่าในย่านความเร็วปานกลาง รวมถึงอัตราเร่งแซงที่สามารถเอาชนะได้ทั้งหมด ในช่วงตั้งแต่ 60-80 กม./ชม., 80-120 กม./ชม. และ 100-120 กม./ชม. ก่อนที่ Honda Accord EL จะโชว์ความเป็น “ม้าตีนปลาย” อีกครั้ง ด้วยการเริ่มฉีกหนีที่ความเร็วเกิน 140 กม./ชม. ขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่เลยระยะควอเตอร์ไมล์ของทั้งคู่ซึ่งทำได้ใกล้เคียงกันมากๆ

น้ำหนักเบากว่า กำลังน้อยกว่า ไม่น่าแปลกใจว่า Honda Civic ประหยัดกว่าเล็กน้อย

เทียบอัตราสิ้นเปลือง Honda Civic vs. Accord 1.5 Turbo

ไม่มีอะไรต้องสงสัยด้วยประการทั้งปวง แม้ว่าเครื่องยนต์จะเป็นบล็อคเดียวกันจากโรงงาน แต่สำหรับรถที่น้ำหนักมากกว่า ปล่อยพละกำลังได้มากกว่า ย่อมมีอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่สูงกว่าเป็นเงาตามตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยตัวเลขที่มีความใกล้เคียงกันขนาดนี้ ปัจจัยอื่นที่มีผลมากกว่า คือ เรื่องของพฤติกรรมการขับขี่ ซึ่งถือเป็นตัวกำหนดความสามารถในการบริฌโภคเชื้อเพลิงของ Honda Civic และ Honda Accord เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่แท้จริง

สิ่งที่ Honda Accord เหนือกว่า Civic ชัดเจนที่สุด คือ ประสิทธิภาพของระบบเบรก ที่หยุดได้เร็วกว่าเกือบ 2 เมตร จากความเร็ว 100 กม./ชม.

เทียบประสิทธิภาพการเบรก Honda Civic vs. Accord 1.5 Turbo

ความต่างที่ชัดเจนที่สุดในด้านสมรรถนะของ Honda Civic และ Honda Accord เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ คงหนีไม่พ้นเรื่องของประสิทธิภาพในการเบรก แม้ว่า Accord จะเป็นรถที่มีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมากกว่า Civic แต่ชัดเจนแล้วว่า Honda ตระหนักถึงมาตรฐานความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ โดย Honda Accord สามารถทำระยะและใช้เวลาในการเบรกที่น้อยกว่า Honda Civic ในทุกช่วงความเร็ว โดยในการเบรกจากความเร็ว 100 กม. จนหยุดนิ่ง Honda Accord ใช้ระยะทางที่สั้นกว่าถึง 1.94 ม. หรือประมาณ “ครึ่งคันรถ”

ส่วนต่าง 3 แสน แม้ออพชั่นจะดูขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง แต่หากเทียบกับคุณภาพการขับขี่ ถือว่า…จบได้ทั้งคู่

เทียบส่วนต่างราคา Honda Civic vs. Accord 1.5 Turbo