ถือว่าเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับตัวแรงพลังไฟฟ้ารุ่นบุกเบิกจากค่าย Porsche แม้ว่าในภาพรวมของ Porsche Taycan รุ่นปี 2024 จะดูไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย แต่หากมองลึกในรายละเอียดแล้ว นี่เป็นอีกก้าวของการพัฒนา ที่ช่วยยกระดับสมรรถนะ รวมถึงคุณสมบัติของ Porsche Taycan ให้มีความเร้าใจ รวมถึงให้สัมผัสที่พรีเมี่ยมมากขึ้น
Porsche Taycan และ Taycan Cross Turismo เวอร์ชั่นปี 2024
อย่างที่เกริ่นไปในเบื่องต้น แม้ว่ารายละเอียดโดยรวมในส่วนของภาพลักษณ์ Porsche Taycan รุ่นปี 2024 จะยังดูคล้ายคลึงกับรุ่นที่ทำตลาดในปัจจุบัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่คือ รถที่ได้รับการยกระดับรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่การอัพเกรดพละกำลังของ Porsche Taycan Turbo S ที่จากเดิมมีกำลังในเพียง 750 แรงม้า แต่สำหรับรุ่นที่ได้รับการปรับโฉมนั้น ถูกอัพพละกำลังให้สูงขึ้นเป็น 938 แรงม้า (เมื่อใช้ระบบช่วยออกตัว) อันเป็นผลให้ Porsche Taycan Turbo S สามารถทำอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง ถึงที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 2.4 วินาที อีกทั้งยังส่งให้สปอร์ตพลังไฟฟ้าคันนี้ เป็นรถเวอร์ชั่น Street Use ที่มีกำลังมากที่สุดของค่าย Porsche ซึ่งเหนือกว่า กำลัง 887 แรงม้า ของ Porsche 918 ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
938 แรงม้า แรงสุดของรถถนน เท่าที่ Porsche เคยทำมา กับอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.4 วินาที
แม้เซ็ตมอเตอร์ของ Porsche Taycan รุ่นปี 2024 จะมีขนาดเท่ากับรุ่นเดิม แต่ด้วยการพัฒนาชิ้นส่วนภายในใหม่ จึงช่วยยกระดับความเร้าใจได้อีกขั้น โดยในมอเตอร์ที่ล้อคู่หลัง ได้รับการพัฒนาให้มีแรงม้าเพิ่มขึ้นอีก 107 ตัว และมีน้ำหนักเบาลงอีก 9 กก. ซึ่งมอเตอร์ชุดใหม่นี้เอง จะถูกนำมาใช้กับ Porsche Taycan รุ่นปี 2024 ในทุกรุ่นย่อย แม้ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีการระบุสเป็คทั้งหมดในทุกรุ่นย่อย แต่ที่แน่ๆ ก็คือ รุ่นเริ่มต้นที่ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง จะมีระดับพละกำลังเริ่มต้นที่ 483 แรงม้า หรือมากกว่ารุ่นที่ทำตลาดอยุ่ ณ ปัจจุบันถึง 75 แรงม้า เลยทีเดียว
Porsche Taycan Cross Turismo กับบอดี้สไตล์ที่พร้อมรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
ไม่ใช่แค่การยกระดับพละกำลังเท่านั้น แต่ Porsche Taycan รุ่นปี 2024 ยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ด้วยระยะทางต่อชาร์จที่เพิ่มมากขึ้น อันเป็นผลมาจากการปรับสูตรทางเคมีภายในชุดแบตเตอรี่ Performance Battery Plus พร้อมทั้งเพิ่มความจุของแพคเบตเตอรี่เป็น 105 kWh (ความจุที่ใช้งานได้จริง คือ 98.6 kWh) สำหรับสเป็คสูงสุด (เทียบสเป็คสูงสุดเดิม อยู่ที่ 93.4 kWh) ส่วนแบตเตอรี่ที่มีสเป็ครองลงมา จะมาพร้อมความจุ 89 kWh (ความจุที่ใช้ได้จริง คือ 83.6 kWh) โดยความน่าสนใจของแบตเตอรี่ Porsche Taycan รุ่นปี 2024 ทั้ง 2 ขนาด คือ การเป็นแพคแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิม
เพิ่มกำลังในการรีเจนเนอเรทีฟเบรก โดยชาร์จไฟหลับเข้มข้นสูงสุด 400 kW และสร้างแรงหน่วงได้สูงสุดแตะๆ -0.5G
นอกจากนี้แล้ว Porsche Taycan รุ่นปี 2024 ยังมาพร้อมประสิทธิภาพในการคืนพลังงานจากการเบรก หรือรีเจนเนอเรทีฟเบรก ได้อย่างเหนือชั้นมากขึ้น โดยจากเดิมที่สามาถชาร์จไฟกลับสุงสุดที่ 290 kW แต่สำหรับรุ่นใหม่นี้ สามารถชาร์จได้สูงสุด 400 kW อีกทั้งชุดมอเตอร์ยังสามารถสร้างแรงหน่วงในการรีเจนเนอเรทีฟเพื่อลดความเร็ว ด้วยความเข้มข้นที่มากขึ้น โดยจากเดิมสามารถสร้างแรงฉุดได้เพียง -0.3G แต่สำหรับ Porsche Taycan รุ่นปี 2024 สามารถสร้างแรงฉุดได้ถึง -0.497G นอกจากนี้…ด้วยการออกแบบชุดล้อ พร้อมแพคเกจแอโร่ไดนามิคส์ ระบบระบายความร้อน รวมถึงชุดอินเวอร์เตอร์ใหม่ ช่วยให้ Porsche Taycan รุ่นปี 2024 เพิ่มระยะการเดินทางต่อชาร์จได้อย่างน่าประทับใจ
ด้วยเครื่องชาร์จที่มีประสิทธิภาพสูงพอ จะช่วยให้ Porsche taycan 2024 สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายใน 18 นาที
Porsche Taycan รุ่นปี 2024 อัพประสิทธิภาพการชาร์จไฟด้วย DC ชาร์จ ให้สูงยิ่งขึ้น โดยจากเดิมที่รองรับกำลังไฟ 270 kW แต่สำหรับรุ่นปี 2024 เพิ่มความสามารถในการรองรับกำลังไฟสูงสุดถึง 320 kW นั่นจึงช่วยส่งให้ Porsche Taycan รุ่นปี 2024 สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายใน 18 นาที ซึ่งจากข้อมูลที่อ้างอิงโดยเว็บไซท์ InsideEVs ยืนยันว่า Porsche Taycan รุ่นใหม่นี้ สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 8-80% ได้ในเวลาเพียง 16 นาที เท่านั้น
Porsche Active Ride ปรับความสูง พร้อมความหนืดของชุดโช้กอัพ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในสภาพถนนที่แตกต่างกัน
ในด้านประสิทธิภาพการขับขี่ Porsche Taycan รุ่นปี 2024 ได้รับการอัพเกรดด้วยชุดช่วงล่างที่มาในรูปแบบ Porsche Active Ride ซึ่งเป็นการจับคู่ระหว่างชุดถุงลม Air Spring กับโช้กอัพไฟฟ้า ที่สามารถปรับค่าความหนืดได้อย่างเหมาะสมในแต่ละรูปแบบการขับขี่ และด้วยการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบของช่วงล่างเซ้ตนี้ กับระดับพละกำลังที่เซ็ตมา ช่วยส่งให้ Porsche Taycan Turbo S รุ่นปี 2024 เป็นรถ EV ที่สามารถทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดในสนาม Nurburgring โดยสามารถทำสถิติเอาไว้ที่ 7 นาที 7.55 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Porsche Taycan รุ่นที่ทำตลาด ณ ปัจจุบันถึง 26 วินาที
