เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากการปล่อยทีเซอร์ของ Honda Step WGN เจนเนอเรชั่นที่ 6 ทางค่าย Honda ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะพร้อมให้โชว์ตัวในงาน Tokyo Auto Salon 2022 และทำตลาดในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งสาเหตุที่เลือกช่วงเวลาการเปิดตัวนี้ก็คือ เป็นวันครบรอบ 25 ปี ของการถือกำเนิดของรถในตระกูล ที่เริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ในปี 1996 โดย Honda Step WGN ดังกล่าว มาในรูปแบบขุมพลัง e:HEV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ Honda นิยมนำมาใช้ในระยะหลังเป็นหนึ่งในทางเลือก โดยจะทำตลาดร่วมกับเครื่องยนต์เบ็นซิน
Honda Step WGN เจนเนอเรชั่นที่ 6
Honda Step WGN เตรียมทำตลาดใน 2 รุ่นย่อย นั่นคือ รุ่น Air และรุ่น Spada
(มีทริมย่อยเป็น Spada Premium ที่ถือเป็นรุ่นเรือธงของตระกูล) ซึ่งความโดดเด่นอยู่ที่การตกแต่งด้วยชุดทริมที่เรียกว่า Premium line ที่ให้ความหรูหรา เน้นการใช้งานที่เหนือระดับ หากนำ Honda Step WGN ไปเทียบกับเจนเนอเรชั่นก่อนที่ออกมาในปี 2015 รวมถึงรุ่นไมเนอร์เชนจ์ในปี 2017 ภาพลักษณ์ของ Honda Step WGN จะสะท้อนถึงความเรียบง่าย ดูสะอาดตา อันเป็นการแสดงถึงคาแร็กเตอร์ของรถ Honda ยุคใหม่ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว โดยแนวคิดการออกแบบ เน้นการใช้เส้นสายเสมือนการนำกล่อง 2 ใบ มาประกอบเข้าด้วยกัน พร้อมปรับภาพลัษณ์ในด้านหน้าให้ยื่นยาวออกมามากกว่าเดิม ไฟหน้ามาในรูปแบบ LED ถูกวางแนวให้รับกับเส้นสายด้านข้างของตัวรถ โดยกระจังหน้าระหว่าง Honda Step WGN รุ่น Air และรุ่น Spada จะมีดีไซน์ที่ต่างกันเล็กน้อย
ในส่วนของบานประตูมาในขนาดใหญ่ทั้งบานหน้า และประตูบานเลื่อน เพื่อความสะดวกต่อการเข้าออกสำหรับ Honda Step WGN เช่นเดียวกับในด้านท้ายที่วางตำแหน่งของกันชนค่อนข้างต่ำ ทำให้พื้นที่ของประตูท้าย มีมากขึ้นตามไปด้วย ด้านล้ออัลลอยที่ใหม่มาเป็นขนาด 16 นิ้ว เน้นเรื่องความนุ่มนวลในการขับขี่เป็นสำคัญ โดยภายในห้องโดยสารของ Honda Step WGN มาพร้อมที่นั่ง 3 แถว รองรับผู้โดยสารสูงสุดถึง 6 ที่นั่ง โดยออกแบบให้มีพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะที่กว้าง เพื่อความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง ไฮไลท์ของการโดยสารอยู่ที่เบาะแถวกลางที่มาในรูปแบบ Captain Seat ซึ่งมีที่รองน่อง รวมถึงเท้าแขนแบบปรับได้ พร้อมทั้งยังสามารถปรับตำแหน่งในการนั่งหน้า – หลัง, ซ้าย – ขวา ได้อย่างอิสระ ส่วนที่นั่งแถวที่ 3 นั้น ออกแบบให้พร้อมสำหรับการใช้งานมากขึ้น เน้นความหนาของตัวเบาะ เพื่อความสบายในการเดินทาง และสามารถพับเก็บได้หากต้องการเพิ่มพื้นที่สำหรับสัมภาระ โดยอีกหนึ่งจุดเด่นของชุดเบาะใน Honda Step WGN ก็คือ การใช้วัสดุที่เรียกว่า Fabtech ซึ่งไม่อมน้ำ รวมถึงน้ำมัน ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
ด้านฟังค์ชั่นการขับขี่และการใช้งานของ Honda Step WGN มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว ทำงานร่วมกับหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 11.4 นิ้ว การจัดวางปุ่ม รวมถึงสวิตช์สั่งการต่างๆ ถือว่าออกแบบมาอย่างเรียบง่าย โดยมีช่องใส่ของสำหรับเพิ่มอรรถประโยชน์ยามใช้งานได้มากขึ้น ระบบปรับอากาศมาในรูปแบบอัตโนมัติ พร้อมดีไซน์ช่องแอร์แบบรังผุ้ง แบบที่คุ้นเคยใน Honda Civic เจนเนอเรชั่นที่ 11 นอกจากนี้สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ยังพร้อมสัมผัสความบันเทิงแบบเต็มอิ่มผ่านหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว โดยออพชั่นพิเศษเฉพาะตัวสำหรับ Honda Step WGN ในรุ่น Air ก็คือ การตกแต่งด้วยสีสันในโทนอบอุ่น ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก “ห้องนั่งเล่น” แต่สำหรับในรุ่น Spada นั้น จะเน้นในโทนสีเข้ม ให้ความรู้สึกเคร่งขรึม ดูหรูหรา ภูมิฐาน สิ่งที่น่าสนใจในการการออกแบบของ Honda Step WGN ก็คือ การใช้เส้นขอบกระจกที่เหลือพื้นที่มากพอที่จะทำให้ผู้โดยสารสามารถมองสิ่งรอบข้างได้อย่างชัดเจน เพื่อลดอาการเมารถ นอกจากนี้ในทั้ง 2 รุ่นย่อย ยังจะเต็มระบบความปลอดภัยด้วย Honda Sensing
Honda Step WGN Air
Honda Step WGN Spada
แม้จะยังไม่มีการเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแพลตฟอร์มและเครื่องยนต์ของ Honda Step WGN เจนเนอเรชั่นที่ 6 แต่แน่นอนว่ามินิแวนผู้นี้ จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนใน 2 เวอร์ชั่น ทั้งรูปแบบไฮบริด e:HEV และรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบ็นซิน โดยในรุ่นที่เป็น e:HEV จะมาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ทั้ง EV Mode, Hybrid Mode และ Power Mode ซึ่งสำหรับผู้ที่สนใจ รอสัมผัสตัวจริงได้ในงาน Tokyo Auto Salon 2022 วันที่ 14-16 มกราคมนี้
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก CarScoop, Motor 1
