แม้ว่าทั่วโลกจะตื่นตัวและสรรสร้างผลงานในวงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย แต่สำหรับค่ายบิ๊กเนมจากแดนปลาดิบอย่าง Toyota และ Honda กลับดูนิ่งๆ จนกระทั่วล่าสุดในงาน Shainghai Auto Show 2021 ทั้ง 2 ค่ายต่างงัดหมัดเด็ดออกมาโชว์แบบเงียบๆ โดยทางฝั่ง Toyota มากับ Toyota bZ4Xส่วนค่าย Honda นั้น นำเสนอคอนเซ็ปท์ในชื่อ Honda SUV e prototype
Honda SUV e prototype
แค่การเปิดตัวรถคอนเซ็ปท์ EV ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่อีกไม่กี่วันให้หลัง ก็มีข่าวคราวแนวทางการพัฒนาของรถยนต์แบรนด์ Honda ออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการเปิดตัว CEO คนใหม่ Mr.Toshihiro Mibe โดยทางค่ายประกาศว่า เตรียมเบนเข็มสู่การพัฒนารถยนต์ในรูปแบบ EV อย่างเต็มที่ และจะยกเลิกการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน เมื่อผ่านปี 2040 (พ.ศ. 2583) หรือในอีก 19 ปีข้างหน้า คล้ายๆ กับค่ายอื่นๆ ที่มีการประกาศว่าเตรียมยกเลิกการพัฒนารถที่ใช้เครื่องยนต์ล้วนๆ ในอีกราว 10 ปีข้างหน้า (ในบางภูมิภาค) แต่การไม่ได้เจาะจงของ Honda ในครั้งนี้ อาจหมายความถึงสำหรับรถยนต์ทั่วโลก โดยนอกจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแล้ว พลังงานอีกรูปแบบหนึ่งที่ Honda ยังไม่ถอดใจ ก็คือ การพัฒนาพลังงานในรูปแบบ Fuel Cell ที่พร้อมทุ่มทุน กว่า 4.6 หมื่นล้านดอลล่าร์ฯ ในการพัฒนาช่วง 6 ปีข้างหน้า
แบตเตอรี่ Ultium จาก General Motors
ในความเป็นจริงแล้ว การพัฒนารถในรูปแบบ EV ดูจะเป็นทางเลือกที่จบง่ายกว่า หลังจากที่ Honda ประกาศจับมือกับพันธมิตรรายใหญ่อย่าง General Motors พร้อมเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ 2 รุ่นใหม่ ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ในชื่อ e:Architecture EV โดยพร้อมที่จะเปิดตัวและจำหน่ายในอเมริกาเหนือเป็นรุ่นปี 2024 ซึ่งรถ 2 รุ่น จากบริษัทในเครือฮอนด้า หนึ่งในนั้นจะใช้เครื่องหมายการค้าแบรนด์ Honda เอง ส่วนอีกรุ่นจะมาในชื่อแบรนด์ Acura ความน่าสนใจของรถทั้ง 2 รุ่นนี้ คือ จะใช้แบตเตอรี่ EV ที่เรียกว่า Ultium ซึ่งพัฒนาโดยทาง GM แม้ ณ เวลานี้ จะยังไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับระบบการจ่ายพลังงานงาน Ultium แต่เชื่อได้ว่า นี่อาจเป็นเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติที่มากกว่าแบตเตอรี่ EV ทั่วๆ ไป
โรงงานผลิตแบตเตอรี่ Ultium ที่ Spring Hill
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกมาว่า โรงงานผลิตของ GM ในเม็กซิโก Ramos Arizpe (โรงงานที่รับหน้าที่ผลิต Chevrolet Blazer และ Equinox) เตรียมจะผลิตรถให้กับ Honda และ Acura เป็นที่แรก โดยมีโรงงานที่ 2 ใน Spring Hill เทนเนสซี่ อาจจะรับหน้าที่การผลิตนี้ด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านั้น GM เพิ่งประกาศเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ Ultium แห่งที่ 2 ในสหรัฐฯ ที่ Spring Hill ซึ่งจากการคาดเดา ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า นอกจากการผลิตแบตเตอรี่ Ultium ให้กับรถในเครือแล้ว ก็ยังจะผลิตแบตเตอรี่ EV สำหรับ Honda รวมถึงรับหน้าที่ประกอบรถให้กับค่ายญี่ปุ่นด้วย ซึ่งการจับมือกับทาง GM ทำให้ความเป็นไปได้ในการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ Honda เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนในการพัฒนาได้ไม่น้อยอีกด้วย
ความเป็นไปได้ในการมาของรถ EV จากค่าย Honda ที่พัฒนาบนพื้นฐาน e:Architecture EV Platform อาจจะขายในภูมิภาคอเมริกาเหนือเป็นที่แรก ก่อนจะกระจายไปยังที่อื่นๆ ทั่วโลก แม้จะยังไม่มีรายละเอียดใดๆ แต่ทาง Honda ตั้งเป้าหมายว่า ต้องการจะขายรถยนต์ในรูปแบบ BEV หรือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน ในอัตราส่วน 40% ของยอดจำหน่ายรถในค่ายภายในปี 2030 และเพิ่มเป็น 80% ในอีก 5 ปี ต่อจากนั้น ก่อนที่ในปี 2040 จะตั้งเป้าหมายการขายรถในรูปแบบ EV 100% ทั้งในภูมิภาคอเมริกาเหนือและจีน ส่วนในญี่ปุ่น ตั้งเป้าส่วนแบ่งรถ EV ไว้เพียง 20% ในช่วงปี 2030 โดยอีก 80% ที่เหลือ จะเป็นรถในรูปแบบไฮบริด และขยายเป้าการจำหน่ายรถ EV เป็น 80% ในปี 2035 และ 100% ในปี 2040
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก InsideEV, Motor 1
