Home » 10 รถไฮไลท์น่าโดนในงาน Shanghai Auto Show 2021 มีรุ่นไหนตรงใจบ้างหรือเปล่า ?

10 รถไฮไลท์น่าโดนในงาน Shanghai Auto Show 2021 มีรุ่นไหนตรงใจบ้างหรือเปล่า ?

by Admin clubza.tv

Shanghai Auto Show หนึ่งในงานแสดงรถยนต์และนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ที่ยิ่งใหญ่เป็นเบอร์ต้นๆ ของเอเซีย เปิดโอกาสให้คนที่สนใจได้ร่วมสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด แน่นอนว่าในปีนี้มีรถรุ่นใหม่ๆ มาร่วมอวดโฉมกันอย่างคับคั่ง โดยธีมหลักๆ ของงานคงหนีไม่พ้นการแสดงแสนยานุภาพของรถที่มาพร้อมการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า รวมถึงระบบขับขี่อัตโนมัติ และนี่คือ 10 รถไฮไลท์น่าโดนใจงาน Shanghai Auto Show 2021

Audi A6 e-Tron Sportback Concept

Audi A6 e-Tron Sportback Concept

-หนึ่งในผู้นำในวงการรถ EV ระดับโลก หลังจากที่ปล่อยให้เพื่อนร่วมชาติอย่าง Mercedes-Benz ปล่อยซีดานหรูพลังงานไฟฟ้าในตระกูล EQ ไปก่อนหน้า ครั้งนี้ Audi นำเสนอคอนเซ็ปท์ Audi A6 e-tron Sportback นับเป็นรถ EV รุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์ม Premium Platform Electric ที่พัฒนาร่วมกับ Porsche เน้นสมรรถนะสูงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังขับเคลื่อนรวมในระดับ 470 แรงม้า 800 นิวตัน-เมตร (0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 4 วิ.) ชาร์จด้วยไฟกระแสตรง 10 นาที วิ่งได้ 300 กม. และชาร์จจาก 5-80% ใช้เวลาเพียง 25 นาที ซึ่งด้วยแบตเตอรี่ขนาด 100 kWh ทำให้การชาร์จ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 700 กม.

BMW iX

BMW iX

-การเปิดตัวครั้งแรกในโลกของครอสโอเวอร์บิ๊กไซส์พลังไฟฟ้าล้วนอย่าง BMW iX ดูจะสอดคล้องกับแพลนที่จะนำมาขายที่จีนในช่วงปลายปี ความโดดเด่นอยู่ที่ดีไซน์ที่เน้นเส้นสายเรียบง่าย ซึ่งวางอยู่บนแพลตฟอร์ม BMW Scalable EV ที่ชื่อก็บอกชัดว่าสามารถปรับขนาดได้หลากหลาย โดยจะมีมาให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ xDrive 50 (กำลัง 500 แรงม้า และระยะการเดินทางต่อการชาร์จ 600 กม.) และ xDrive 40 (กำลัง 300 แรงม้า และระยะการเดินทางต่อการชาร์จ 400 กม.) แน่นอนว่านอกจากระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนแล้ว สิ่งที่เป็นความโดดเด่นของ BMW iX ก็คือ ระบบปฏิบัติการ BMW iDrive  8

Genesis Electrified G80

Genesis Electrified G80

Genesis แบรนด์หรูจากค่าย Hyundai ส่งซีดานไฟฟ้าตัวทีเด็ด Electrified G80 หวังตีตลาดหรูในเมืองจีน แหวกแนวโดยไม่สนกระแสความร้อนแรงของรถในรูปแบบอเนกประสงค์ โดยสิ่งที่เป็นความโดดเด่นของ Genesis Electrified G80 คือ การใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ All Wheel Drive โดยมีระบบ Disconnector Actuator System ที่จะคอยตัดต่อการส่งถ่ายกำลังระหว่าง 2 ล้อ และ 4 ล้อ โดยอัตโนมัติ ให้กำลัง 365 แรงม้า ซึ่งในการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 500 กม. (NEDC) รองรับการชาร์จเร็วด้วยไฟกระแสตรง 350 kW ซึ่งสามารถชาร์จได้จาก 10-80% ในเวลาเพียง 22 นาที

GM micro-convertible EV

GM micro-convertible EV

GM micro-convertible EV ใช้พื้นฐานจาก Wuling Hongguang MINI EV เป็นการร่วมมือระหว่าง 3 พันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น SAIC, General Motors และ Wuling ในการผลิตรถไฟฟ้าขนาดเล็กออกมา โดยเน้นเรื่องความเข้าถึงได้ง่าย และเน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก โดยหากเทียบสเปคกับรุ่นรถตู้ทรงกล่องที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน จะมีกำลังขับเคลื่อน 17 แรงม้า 85 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. ระยะทางต่อการชาร์จ คือ 170 กม. ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงว่า คอนเซ็ปท์ GM micro-convertible EV จะถูกนำเข้าสู่ตลาดในฐานะรถโปรดักชั่นในท้ายที่สุด

Honda SUV e prototype

Honda SUV e prototype

-แม้จะเป็นค่ายที่เคลื่อนไหวค่อนข้างช้าในวงการ EV (เช่นเดียวกับพี่โต) แต่การมาของ Honda SUV e prototype ก็แสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังในการสรรสร้างรถครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกที่พร้อมจำหน่ายทั่วโลกในไม่ช้า หลังจากที่ทางค่ายประกาศว่าจะขายในจีนช่วงปี 2565 โดยรถรุ่นนี้มาในพิกัดเทียบเท่า Honda HR-V แน่นอนว่า Honda SUV e คือ หนึ่งในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 10 รุ่น ที่ทาง Honda จะทำมาขายในประเทศจีน ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า แม้จะยังไม่มีรายละเอียดแน่ชัดเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนที่ใช้ แต่สิ่งที่รู้มาคือ Honda SUV e จะใช้แบตเตอรี่ Ultium จาก GM ที่ร่วมทุนพัฒนากันมาตั้งแต่ปีก่อน

Mercedes-Benz EQB

Mercedes-Benz EQB

-จะเรียกได้ว่าเป็นเวอร์ชั่นไฟฟ้าของ GLB ก็คงจะไม่ผิด เนื่องจาก Mercedes-Benz EQB ใช้พื้นฐานการพัฒนาที่ยกมาจาก SUV ขนาดเล็กของค่าย Mercedes-Benz มาเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนและปรับแต่งรายละเอียดใหม่ ให้ดูมีความทันสมัย เข้าสไตล์ความเป็นรถ EV มากขึ้น โดยชูไฮไลท์ด้านความอเนกประสงค์กับห้องโดยสารมนรูปแบบ 7 ที่นั่ง ด้านพละกำลังจะมีมาให้เลือก 2 รุ่นย่อย เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ และอาจจะมีรุ่น Mercedes-AMG EQB ที่มีกำลังสูงขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในจีน โดยคาดว่าจะขายในจีนและยุโรปภายในปีนี้

MG Cyberster EV

MG Cyberster EV

-เป็นกระแสในโลกโซเชียลมาพักใหญ่ สำหรับสปอร์ตสุดล้ำจากค่าย MG รุ่นนี้ออกแบบบนแพลตฟอร์ม EV ใหม่ โดย Advance Design Centre ที่ลอนดอน ใช้แรงบันดาลใจจากสปอร์ตโร๊ดสเตอร์ระดับตำนานอย่าง MGB ด้านสมรรถนะสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3 วินาที และสามารถวิ่งได้ไกล 800 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ด้วยแบตเตอรี่แบบโมดูลเลส อีกหนึ่งไฮไลท์อยู่ที่ภายในห้องโดยสารสไตล์ E-Sport เน้นจุดศูนย์ถ่วงต่ำ และผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางในการควบคุม โดยแบ่งพื้นที่ระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างชัดเจน รองรับระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 รวมถึงการเชื่อมต่อแบบ 5G

Toyota bZ4X Concept

Toyota bZ4X Concept

bZ (Beyond Zero) จะเรียกว่าเป็นรหัสใหม่ที่เอาไว้ใช้กับรถรูปแบบ EV ในค่าย ก็คงจะไม่ผิด โดย Toyota bZ4X Concept ดูจะเป็นรุ่นบุกเบิกของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากค่ายสามห่วงที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรอย่าง Subaru หลังจากที่ก่อนหน้านี้ หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร ก็ยังจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนารถ Hybrid เสียมากกว่า ในส่วนของรายละเอียด ยังไม่มีการเผยอะไรมากมาย แต่เท่าที่รู้ คือ จะใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA และการที่ได้ร่วมพัฒนากับค่ายดาวลูกไก่ นั่นอาจหมายความว่าจะมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาเป็นทางเลือก นอกจากนี้ทางค่าย Toyota ยังประกาศออกมาอีกว่า พร้อมเดินหน้าเต็มตัวด้วยรถ xEV อีก 15  รุ่น ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งใน 7 รุ่น จะมาในตระกูล Beyond Zero ซึ่งอาจหมายความว่า ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนๆ นั่นเอง

Volkswagen ID.6

Volkswagen ID.6

Volkswagen ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนในตระกูล ID นั้น ดูจะประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในต่างแดน ซึ่งหลังจากที่ออกรุ่นเน้นใช้งานอย่าง ID.4 เมื่อไม่นาน ทางค่ายก็มีแพลนปล่อยรุ่นอื่นๆ ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ซึ่งรวมไปถึง Volkswagen ID.6 ที่พร้อมแสดงจุดยืนว่า จีนยังเป็นตลาดที่สำคัญของแบรนด์ โดย ID.6 เป็นรถที่มาในรูปแบบ 7 ที่นั่ง ที่จะพัฒนาโดยใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Audi Q4 e-Tron (รวมถึงพี่น้องร่วมตระกูลอย่าง ID.3 และ ID.4) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายใน MEB EV Platform ของ Volkswagen นอกจากนี้ยังมีทางเลือกสเป็คมอเตอร์และแบตเตอรี่ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งรูปแบบขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ ซึ่งมีระยะทางต่อการชาร์จไกลที่สุดกว่า 580 กม.

Mitsubishi Airtrek

Mitsubishi Airtrek

-เป็นเสมือนแพลนการปัดฝุ่นชื่อ Airtrek กลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากที่ Mitsubishi หยุดทำตลาดไปตั้งแต่ช่วงยุค 2000 และกลายมาเป็น Outlander ที่เรารู้จัก การกลับมาของ Mitsubishi Airtrek ตั้งใจที่จะมาเป็นรถครอสโอเวอร์พลังไฟฟ้าล้วน (ไม่ใช่สายลุยจ๋า) โดยอาจจะใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Nissan Ariya ซึ่งคาดว่าจะให้กำลังในการขับเคลื่อน 389 แรงม้า และสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใกล้เคียง 5 วินาที และสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 450 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยมีการคาดการณ์กันว่า Mitsubishi Airtrek อาจเป็น SUV พลังงงานไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของค่ายก็เป็นได้ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ยังคงเป็นแค่ภาพทีเซอร์ กว่าจะมาให้เห็นตัวเป็นๆ คงต้องรอลุ้นกันพักใหญ่

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก driving

 


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy