Home » iDrive 8 โคตร Infotainment จาก BMW

iDrive 8 โคตร Infotainment จาก BMW

by Admin clubza.tv

Cr ภาพ www.cleantechnica.com

 

Cr ภาพ www.cleantechnica.com

จาก iDrive รุ่นแรกที่ออกมาปี 2001 ใน 7 Series(E65) ตอนนี้มาถึงเจน 8 แล้ว ปรับปรุงมาตลอดยี่สิบปี ใช้ง่าย เดาได้ ครบฟังค์ชั่น เพราะยังมี MERCEDES-BENZ กับ AUDI เพื่อนร่วมชาติ คอยเบียดแซงอยู่ ใครอยากรู้ว่า iDrive 8 เป็นไงรอเล่นใน BMW iX และ BMW i4 หรือถ้ารอรุ่นอื่นก็ย่อมได้ เพราะ BMW ต้องติดตั้งมาแน่นอน ที่ว่ามีการปรับปรุงมาตลอดก็จริงตามนั้น การตอบสนองการสั่งงานโดยเสียงที่เหมือนพูดกับคน การรู้จักหน้าเจ้าของและผู้ใช้ในเจน 8 พัฒนาไปไกลอีกขั้น ระดับ “My Modes” ระบบเครื่องกลแสนรู้ (ML : Machine Learning) ที่ครั้งนี้ผูกไว้กับ Cloud เต็มตัว พูลแชร์ข้อมูล V2V, V2X พร้อมทะลุ Autonomous car ระดับ 3 แล้ว

 

 BMW ID : การ “เผือก” แบบเหมาะเจาะ 

 

Cr-www.motor1.com/

 

`

Cr ภาพ www.cleantechnica.com

 พอนำ ML มาใช้มากขึ้น มันก็จะรู้จักเรียนรู้ จดจำ ตัดสินใจ เอาใจเรามากขึ้น ว่าเราใช้แบบไหนบ่อย ชอบแบบไหน พร้อมเสนอโน่นนี้ให้เลือก เพราะเข้าใจ รู้ใจผู้ใช้งาน(แต่ละคน)เรียบร้อยแล้ว กล่าวคืออาจจะเอาใจเข้าใจมากกว่าเมียคุณซะอีก(ปล้อนบอก) เช่น My Modes ที่ระบบมันจะรู้ว่าขณะนั้นใครใช้งานอยู่จาก ID, หน้า, เสียง แล้ว ML มันก็จะจัดการไปยังสิ่งที่เมโมรีฝาก Cloud ไว้ว่าผู้ใช้นั้นๆ ปรับแบบใด ชอบแบบใด น่าจะชอบแบบใดจากการ “เผือก” แบบเหมาะเจาะของมัน ข้อมูลมากมายที่เคยเก็บในระบบคอมพิวเตอร์รถจะไม่ต้องแบกโหลดอีกต่อไป เพราะคราวนี้ถูกแขวนบน Cloud  เป็นดิจิตอลอินโฟเทนเมนท์เต็มปากเต็มคำขึ้น 

V2V แม้กระทั่ง V2X

  เคยกล่าวถึง V2V, V2X ไปหลายปีแล้วตั้งแต่ยังไต่บันไดขั้นแรก ครั้นปี 2021 นี้ถูกนำมาใช้มากขึ้น กำลังไต่ระดับ AI ให้ทะลุระดับ 3 ขึ้นไป สู่ Autonomous car ที่ไร้คนขับมากขึ้นๆ ใน iDrive 8 นี้ BMW ได้ผูกระบบ V2V และ V2X พูลและแชร์ข้อมูลจากรถ 14 ล้านคัน รวบรวมข้อมูลการใช้ การขับขี่ การจราจร สภาพถนน ระบบนำทาง ข่าวสาร สิ่งอำนวยความสะดวก อุบัติเหตุ คำแนะนำ ฯลฯ  จากรายงานทางวิทยุที่โคตรเอ๊าท์ มาเป็นแบบดิจิตอลเรียลไทม์ ผ่าน Cloud ที่ว่านี้

การสั่งงาน iDrive Rotary ยังคงอยู่ – ทัชสกรีนเริ่มตกยุค??

Cr ภาพ www.cleantechnica.com

 การใช้งานของ iDrive ถูกยกย่องมาตลอดว่าง่ายในการเข้าใช้ทั้งเลื่อนทั้งหมุน ในเจน 8 ได้ใส่ความเป็นดิจิตอลมากขึ้น ทั้งการควบคุม การแสดงการรับรู้เมื่อถูกสั่งการ การควบคุมแบบสัมผัส ระบบทัชสกรีนดั้งเดิมเริ่มตกยุค !! เริ่มนำระบบ Touch-capacitive ที่แสดงให้เรารู้ว่ามันรับคำสั่งผ่านมือเราขณะสั่งการ ทั้งแบบกระดิก สั่น แสง เป็นเรื่อง Haptic feedback ที่อินโฟเทนเมนท์ยุคก่อนปี 2021 ยังไม่คำนึงถึง 

แข่งกันเข้าไปเรื่องจอยักษ์

  เคยกล่าวถึงโคตรจอ Hyper screen ของ MERCEDES-BEND, Transparent hood, virtual A/B Pillars ของค่าย LAND ROVER และ AUG-HUD ของ AUDI ไปแล้วว่าเจ๋งเพียงใด แน่นอนว่า BMW เรื่องจอ LCD แข่งความใหญ่ก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน ทัชสกรีน 12.3 นิ้วหน้าคนขับ และ 14.9 นิ้วโค้งไปกับแผงแดชบอร์ดกลาง(iDrive screen) ให้ความคมชัด สีสันสดใสสมจริงระดับ 200 ppi ส่วนเรื่องการแสดงผลบนกระจก(HUD)นั้นยังไม่เห็นว่ามีอะไรแตกต่างจากเดิมนัก

อะไร ที่ไหน อย่างไร 

Cr ภาพ www.cleantechnica.com

  การมีจอแสดงผล 3 จอ กลางแดชบอร์ด แผงหน้าปัดคนขับและ HUD นั้น เหมือนจะเอามาใส่ไว้เท่ๆทำตามๆกัน เราจะใช้มันจริงจังได้แค่ไหน BMW คิด ?? ผลลัพท์ออกมาเป็นระบบ “Act, Locate, Inform” ที่ปล้อนแปลเป็นไทยว่า “อะไร ที่ไหน อย่างไร” ยกตัวอย่างระบบนำทางจะเป็นดังนี้

  • Act อะไร : จะมีการเลี้ยวข้างหน้า ความเร็วไม่เกินเท่าใด ควรใช้เลนไหน แสดงบน HUD ให้คนขับทราบ
  • Locate : ที่ไหน เช่นโรงแรมม่านรูด ร้านขายปลอกอนามัย แสดงบนจอกลาง 
  • Inform : อย่างไร มีข้อมูลรายละเอียดที่ควรรู้หรือคุณอยากรู้ ให้ทั้งผู้โดยสารด้านหน้าและคนขับทราบ บนจอกลางและจอหน้าคนขับ (เช่นถ้าปล้อนใช้ App หาม่านรูดมันก็อาจจะบอกว่าเต็มค่ะ เสียใจด้วยนะคะ อิ๊ๆ… อันนี้พอขำๆนะคร๊าบ)  

  ** BMW ปรับปรุงการควบคุม ใช้งานผ่านพวงมาลัยโดยใช้หัวแม่งมือที่สะดวก ฉลาดขึ้น แทบไม่ต้องละมือมาล้วงปรับที่จอ ** 

“ ขับ ไม่วอกแวก ดู” (เหมาะสำหรับปล้อนมาก)

 การปรับปรุงที่ใส่ ** ไว้ข้างบนนั้นทำให้คนขับไม่ต้องพะวักพะวง เงอะงะตอนขับ เพราะการใช้งานด้วยหัวแม่งมือ อ่านผลตรงหน้านั้นมันทำงานสมบูรณ์แบบ กล่าวคือได้ครบทั้ง “ Drive, Focus, and Gallery” ซึ่งปล้อนแปลเป็นไทยอีกว่า “ ขับ ไม่วอกแวก ดู”  เพราะบนจอหน้าสามารถเลือกจากการเป็นมาตรวัดปกติ สู่การดูสถานะการณ์รอบด้าน บอกข้อมูลที่ควรทราบ แสดงผลคมชัด สามารถหดจอมาตรวัด ขยายการแสดงข้อมูลที่ต้องการ เช่นข้อมูลเส้นทาง ปรับระบบมัลติมีเดียให้เห็นชัดเจน เพื่อการสั่งงานต่างๆที่ต้องการ  สามารถเลือกให้จอแสดงผลเท่าที่จำเป็นได้โดยเลือก Calm mode ถ้ารู้สึกว่าอะไรๆมันมีมากเกิน รำคาญ เลอะเทอะ ปล่อยให้กูสงบ ขับเป็นสุขเป็นสุขบ้างเถอะ คราวนี้ก็จะมีเฉพาะค่าความเร็วที่ใช้ เลือกสีของระบบอินโฟเทนเมนท์ให้ออกมาในเฉดที่ต้องการได้  

เข้าใจภาษากายมากขึ้น 

Cr ภาพ www.cleantechnica.com

 ปรับปรุงให้ฉลาดขึ้น คาดเดาสิ่งที่เราสั่งโดยใช้ลีลาท่าทางมากขึ้น เข้าใจภาษากายมากขึ้น BMW ได้นำกลุ่มทดสอบไปศึกษาโดยป้อนโจทย์การกระทำของมนุษย์ ให้กลุ่มทดลองแสดงท่าทางโดยไม่ใช้เสียงออก นำท่างทางเหล่านั้นป้อนข้อมูลตั้งต้นให้ Machine learning ของรถ สำหรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri การอ่านและจดจำหน้าตาผู้ใช้ (เห็นบอกว่า) ถูกอัพเกรดมากมายเช่นกัน นัยว่าระบบ “Personal assistant” ปรับปรุงให้คนและรถต่างเดาใจกันได้มากขึ้น แม่นยำขึ้น เฟอะฟะลดลง  ใช้ง่ายทั้งคนขับและผู้โดยสาร ระบบ BMW ID ใช้ PIN Code สามารถปรับฟังค์ชั่นของระบบแบบของใครของมัน ตามความชอบส่วนตัว   PIN Code นี้จะติดตัวคุณไป เพื่อใช้ใน BMW คันอื่นทั้ง iDrive7 หรือ 8 เวลาคุณเอารถเข้าศูนย์ เข้าซ่อมแล้วเขาเบิกรถคันอื่นมาใช้แก้ขัด ไอ้รถคันนั้นก็จะปรับสิ่งที่คุณชอบจาก ML ที่ระบบมันเมโมรีไว้บน Cloud นั่นเอง 

ระบบยินดีต้อนรับสู่รถ(ของมึง !!)

  คล้ายคลึงกับที่ใช้ในรถบางรุ่น ที่มันรู้ว่าคนที่ถือกุญแจ ใช้มือถือที่ป้อนระหัสดิจิตอลคีย์ไว้ เข้ามาในระยะ 3 เมตรห่างจากรถ มันก็จะออกอาการ “Welcome” คุณราวโฮสเตรสส์สาวเยอรมัน ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟพื้น ไฟห้องโดยสาร ไฟที่เปิดประตูต่างขึ้นติดรับคุณ ครั้นเข้ามาในระยะ 1.5 เมตรประตูก็จะปลดล็อค กระจกมองข้างจะกางออก (ซึ่งไม่ต่างกับรถหรูทั่วไปในท้องตลาด) เปิดประตูเมื่อใดเบาะก็จะเลื่อนหลังให้คุณก้าวเข้าสะดวก ไฟคอนโซลกลางติดสว่าง ฮีตเตอร์เบาะและพวงมาลัยทำงาน ทุกสิ่งอย่างตรงนี้ “My Modes” จัดให้ราวคุณเป็นดยุ๊คบาวาเรียนกลับชาติมาเกิด !!  

   สีสันจอก็จะต่างกันไปตามโหมดการขับ ไล่จากประหยัดไปจนสปอร์ตสุดขั้ว จากฟ้าเป็นส้มแสด เปลี่ยนโหมดแต่ละครั้งจะมีเสียงบอก สรรพสิ่งพวกนี้คุณสามารถปรับแต่งเองให้ต่างจากที่โรงงานเซ๊ตมา 

ปรับปรุงระบบนำทาง 

Cr-www.motor1.com/

Cr ภาพ www.aroged.com

 จากที่เคยดีอยู่แล้วก็ปรับปรุงขึ้นไปอีก เที่ยงตรงแม่นยำขึ้น ใช้ ML เข้าช่วย เสริมกับข้อมูล V2V, V2X จาก Cloud ทำให้การคาดเวลาที่จะถึงจุดหมายแม่นขึ้น ไม่ได้พึ่งแค่ข้อมูลจากเน็ทเวิร์คการจราจรหรือ V2X ที่(เมืองนอก)ใช้กันแพร่หลาย แต่มีการนำข้อมูลที่พูลไว้จากรถด้วยกัน(V2V) มาแชร์ ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ฉลาดถึงขนาดคำนวณความน่าจะเป็นได้ โดยใช้ข้อมูลในอดีตและจาก Cloud ว่าสถานที่ที่จะไปนั้น “น่าจะ” รถจะติดมากน้อยแค่ไหน ควรเลือกเส้นทางใด เพื่อถึงจุดหมายเร็วสุดสั้นสุดโล่งสุด แยกเป็นช่วงเวลา วัน ได้ด้วย มันรู้รอบถึงสภาพภูมิอากาศ พยากรณ์สิ่งที่กำลังจะเผซิญ แจ้งเตือนเราได้ จากข้อมูล V2V ที่แชร์จากรถ 440 ล้านคันทั่วโลกที่ใช้ระบบนี้ สมมติว่าตอนนั้นปล้อนขับรถกลับลำพูนหน้าหนาว เซ็ตอุณหภูมิฮีตเตอร์เป่าลงขาและไข่ อุ่นเบาะ อุ่นพวงมาลัยไว้ที่ระดับหนึ่ง ก่อนที่เขาจะขับออกไปหาไข่ลวก เซเว่นอัพกินทุกเช้า หลังจากนั้นไม่ว่าปล้อนจะปรับอุณหภูมิเป็นเท่าใด  พอเช้าวันถัดๆไปมันก็จะปรับกลับมาที่อุณหภูมิของเช้าวันก่อนหน้า เป่าลมร้อนลงขาและไข่ของปล้อนอีกเหมือนเดิม !! (ระบบ V2X นี้ที่เมืองนอกสามารถเลือก หาที่จอดที่ว่าให้เราได้ด้วย ปล้อนจะนำทั้ง V2V, V2V มากล่าววันหลังที่ว่างจากการทำกับข้าวให้ลูก)   

 โอกาสสัมผัส เป็นเจ้าของไม่น่ายาก ขอเพียงรอให้เจ้า iX และ i4 เปิดตัว เมื่อนั้นคุณจะได้ลองเองว่า iDrive 8 และ My Modes ของ BMW ยุคล่าสุดนี้ เทียบกับ MERCEDES-BENZ และ AUDI ต่างกันอย่างไร คุณชอบแบบไหน … 

Cr-ภาพ-www.electrichunter.com

 

 


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy