นับเป็นหนึ่งในปิคอัพที่หลายคนต่างจับตามอง สำหรับการกลับมาของ Ford Ranger Raptor เจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่เรียกได้ว่า เป็นการพลิกโฉมวงการปิคอัพสมรรถนะสูงไปอย่างก้าวกระโดด หลังจากที่เมื่อ 5 ปีก่อน ทางค่ายได้เผยโฉม Ford Ranger Raptor เจนเนอเรชั่นแรกในประเทศไทย
แม้ว่า Ford Ranger Raptor ทั้ง 2 เจนเนอเรชั่น
จะได้ชื่อว่าเป็นปิคอัพสมรรถนะสูงเช่นเดียวกัน แต่หากเทียบกับเวอร์ชั่นปัจจุบันแล้ว ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังถือว่ามีความแตกต่างกันอยู่ไม่น้อง ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานโครงสร้างแพลทฟอร์ม T6.2 ที่ได้รับการขยายฐานล้อให้ยาวและกว้างขึ้นอีก 50 มม. เพื่อให้ Ford Ranger Raptor มีสมรรถนะการทรงตัวและการยึดเกาะที่ดีมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีขนาดมิติของตัวถังที่ไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก โดยสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ในการกลับมาของ Ford Ranger Raptor เจนเนอเรชั่นที่ 2 คงหนีไม่พ้นขุมพลัง ที่จากเดืมเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo ที่ให้กำลังในระดับ 213 แรงม้า กับแรงบิด 500 นิวตัน-เมตร แต่สำหรับรุ่นที่ทำตลาด ณ ปัจจุบัน ถูกเปลี่ยนรูปแบบของเครื่องยนต์เป็นบล็อคเบ็นซิน V6 3.0 ลิตร Bi-Turbo ซึ่งช่วยให้พละกำลังของกระบะสมรรถนะสูงผู้นี้ ก้าวกระโดดไปอยู่ในระดับ 397 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 583 นิวตัน-เมตร โดยยังคงจับคู่กับชุดส่งกำลังในรูปแบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เช่นเดิม
ในความเดิมที่ว่านั้น…มีความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะโหมดการขับขี่ที่ Ford Ranger Raptor เจนเนอเรชั่นที่ 2 ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถที่สูงขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งส่งผลให้ฟีลลิ่งการขับขี่สำหรับ Ford Ranger Raptor ทั้ง 2 เจนเนอเรชั่น เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยความเปลี่ยนแปลงและฟีลลิ่งที่สัมผัสได้นั้น หากเทียบกับงบประมาณ 1,869,000 บาท (เพิ่มขึ้นมาจากเจนเนอเรชั่นก่อนเพียง 140,000 บาท) ถือเป็นการเติมงบที่ “คุ้มค่าอย่างปฏิเสธไม่ได้” ซึ่งหากท่านไหนที่สนใจรายละเอียดในเชิงลึก สามารถติดตามได้จากคลิปด้านบนที่ #ทีมขับซ่า ได้จัดรีวิว Ford Ranger Raptor เจนเนอเรชั่นที่ 2 ไว้ให้แบบเต็มอิ่ม !
รีวิว Ford Next Gen Ranger สเปคข่มเพื่อนเห็นๆ ลองขับจริงจะเด่นสมคำร่ำลือหรือไม่ ?