สาเหตุหนึ่งที่รถ EV ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุคปัจจุบัน นอกจากเทคโนโลยีการขับขี่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ รวมถึงผู้โดยสารภายในรถได้แบบจัดเต็มแล้ว คงหนีไม่พ้นเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่โดยเฉลี่ย…อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1 บาท / กม. โดยทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่วิธีการและช่วงเวลาในการเลือกชาร์จ ซึ่งผู้ใช้สามารถวางแผนการชาร์จตามเงื่อนไขหรือข้อจำกัดที่มีอยู่ได้อย่างเหมาะสม
ผู้ใช้รถ EV หลายๆ คน อาจจะสะดวกกับการชาร์จรถ EV ตามสถานีบริการ ด้วยความสะดวก รวดเร็ว ที่เหนือกว่าการชาร์จที่บ้าน (รวมถึงผู้ที่พักอาศัยภายในคอนโด ซึ่งยากต่อการติดตั้งเครื่องชาร์จส่วนบุคคล) แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกชาร์จที่บ้าน เป็นวิธีการที่สามารถลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางสำหรับรถ EV ได้มากที่สุด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เลือกเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบ TOU หรือ Time of Use ที่จะคิดอัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลา ซึ่งการชาร์จในช่วงเวลา Off Peak นั้น (22.00 – 9.00 น. ของทุกวัน, วันเสาร์ – อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์) จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟต่อครั้งได้ราว 50% โดยเฉลี่ยแล้ว อัตราค่าไฟฟ้าในช่วง Off Peak จะอยู่ที่ประมาณ 2.6x บาท / หน่วย ส่วนค่าไฟสำหรับกการชาร์จในช่วง On Peak จะอยู่ที่ประมาณ 5.1x บาท / หน่วย
เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน ทางการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้จัดทำ ปฏิทินการใช้ไฟฟ้าแบบ Off Peak เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันกับผู้ใช้ไฟฟ้า เพื่อให้สามารถเลือกวันและช่วงเวลาในการชาร์จได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟสำหรับรถ EV รวมถึงการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ ภายในบ้านได้อย่างเหมาะสม (สำหรับบ้านที่ใช้มอเตอร์ TOU โดยไม่ได้แยกมิเตอร์สำหรับการชาร์จรถ EV โดยเฉพาะ) นอกจากนี้แล้ว ปฏิทินการใช้ไฟฟ้าแบบ Off Peak ดังกล่าว ยังช่วยให้ผู้ใช้รถ EV สามารถวางแผนการชาร์จรถอย่างเหมาะสม สำหรับสถานีบริการบางแห่ง เช่น PEA Volta หรือ EV Station Pluz ที่คิดอัตราค่าบริการตามช่วงเวลา TOU อีกด้วย
ขับรถ EV ต้องรู้ ! ค่า FT ปี 2567 ที่ปรับเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อ กม. แพงขึ้นขนาดไหน ?