Home » Bentley ยัน…เลิกใช้เครื่องยนต์ W12 เตรียมหันมาเอาดีกับขุมพลัง Ultra Performance Hybrid

Bentley ยัน…เลิกใช้เครื่องยนต์ W12 เตรียมหันมาเอาดีกับขุมพลัง Ultra Performance Hybrid

by Admin clubza.tv

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เทคโนโลยีที่เคยคิดว่าดี…ก็คงต้องเปลี่ยนแปลง ! ลองจินตนาการภาพของรถแบรนด์หรูอย่าง Bentley สิ่งที่หลายคนนึกถึง คงหนีไม่พ้นภาพของสปอร์ตคันโต ที่มาพร้อมขุมพลังบล็อคใหญ่แบบ 12 สูบ มีแรงม้าให้ใช้มหาศาล ทะยานความเร็วได้อย่างนุ่มนวลประดุจโซฟาเคลื่อนที่ แต่ถึงอย่างไรแล้ว ด้วยแนวทางการพัฒนาที่เปลี่ยนไป สิ่งต่างๆ ที่เคยยึดถือในอดีต อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีหรือมีประสิทธิภาพสูงกว่า นั่นจึงทำให้วันนี้เอง ค่าย Bentley ประกาศแล้วออกมาแล้วว่า หลังจากนี้จะไม่มีขุมพลังรูปแบบ W12 ในรถรุ่นใหม่ๆ อีกแล้ว

Bentley Batur Convertible อาจกลายเป็นสปอร์ตขุมพลัง W12 รุ่นสุดท้ายของค่าย โดยจะผลิตเพียง 16 คัน เท่านั้น

ด้วยข้อมูลที่ออกมานั้นเอง ส่งให้ Bentley Batur Convertible กลายเป็นตัวแรงรุ่นสุดท้ายของค่ายที่ใช้เครื่องยนต์ในรูปแบบ W12 Twin Turbo พิกัด 6.0 ลิตร อันเป็นเครื่องหมายการค้าของแบรนด์มาอย่างยาวนาน โดยในรถหรูรุ่นต่อๆ ไป จะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ที่เรียกว่า Ultra Performance Hybrid มาใช้ ซึ่งเครื่องยนต์ในรูปแบบนี้ ถือเป็นการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกับวงการยานยนต์ยุคใหม่ๆ นั่นก็คือ การลดขนาดความจุของกระบอกสูบลง จาก 12 สูบ เหลือเพียง 8 สูบ แล้วแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่พ่วงอยู่กับชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ในรูปแบบ Plug In Hybrid

แรงม้าเกิน 740 ตัว กับแรงบิดทะลุ 1,000 นิวตัน-เมตร…ดูจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับขุมพลังในรูปแบบ V8 PHEV

แม้ว่าขุมพลัง Ultra Performance Hybrid จะลดจำนวนกระบอกสูบลงจากเดิมถึง 4 สูบ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่สูงขึ้น ส่งให้ขุมพลังบล็อคใหม่ของ Bentley นั้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการใช้ระบบช่วยขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการปล่อยกำลัง ซึ่งนอกจากเครื่องยนต์บล็อคใหม่ จะมีแรงม้าที่สูงขึ้นกว่าบล็อค V12 ที่ใช้อยู่เดิมแล้ว ด้วยคาแร็กเตอร์ของการใช้มอเตอร์เป็นหนึ่งในกำลังหลักของการขับเคลื่อน คือ ตัวรถจะสามารถให้การตอบสนองอย่างรวดเร็ว และมีแรงบิดสูงสุดกว่า 1,000 นิวตัน-เมตร ให้ใช้ในช่วงกว้าง ซึ่งนี่อาจส่งให้ Bentley รุ่นที่จะออกมาพร้อมขุมพลังบล็อคนี้ในอนาคต เป็นรถในเครื่องหมายการค้า B ติดปีก ที่กระฉับกระเฉงที่สุดเท่าที่เคยมี

แม้จะยังไม่ได้ระบุขนาดของแพคแบตเตอรี่ แต่คาดว่าขุมพลัง Ultra Performance Hybrid ของ Bentley จะรองรับการขับเคลื่อนด้วย EV Mode ได้ราว 80 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งนอกจากจะให้พละกำลังที่สูงมากขึ้นแล้ว นี่ยังจะเป็นเครื่องยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิง และปล่อยมลพิษน้อยลงอีกด้วย โดยขุมพลังบล็อค V8 PHEV ในชื่อ Ultra Performance Hybrid จะถูกนำมาประจำการใน Bentley Bentayga SUV, Continental Coupe และ Convertible รวมถึงรถในตระกูล Flying Spur ในอนาคต

Bentley W12 ขุมพลังระดับตำนานที่สร้างชื่อให้กับแบรนด์มากว่า 2 ทศวรรษ

ตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา ค่าย Bentley ได้ผลิตขุมพลังในรูปแบบ W12 ไปแล้วกว่า 105,000 เครื่อง ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาของการผลิต ตัวเครื่องยนต์ล้วนได้รับการอัพเกรดให้มีระดับพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น สูงสุดถึง 40% (และลดการใช้เชื้อเพลิงลงได้สูงสุด 25%) โดยในเวอร์ชั่นที่ประจำการอยู่ใน Bentley Batur Convertible ที่เพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ ให้กำลังสูงถึง 740 แรงม้า พร้อมกับอรงบิด 1,000 นิวตัน-เมตร ซึ่งเป็นระดับพละกำลังที่สูงกว่าเครื่องยนต์บล็อคเดียวกันใน Bentley Flying Spur Speed และ Continental GT Speed ถึง 89 ตัว

ส่วนความเคลื่อนไหวในการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของค่าย Bentley นั้น ดูจะไม่เป็นไปอย่างที่แพลนไว้ในตอนแรกเสียแล้ว เพราะจากเดิมที่ประกาศว่า จะทำตลาดเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในปี 2030 กลับถูกยืดระยะเวลาออกไปเป็นภายในปี 2033 นอกจากนี้…แพลนการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย ยังถูกเลื่อนออกไปเล็กน้อย และคาดว่าจะเปิดตัวได้อย่างเร็วที่สุดภายในปี 2027 โดยที่ผ่านมา Bentley ไม่ใช่แบรนด์หรุเพียงแบรนด์เดียวในเครือ Volkswagen Group ที่ประกาศเลิกใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่ก่อนหน้านี้เป็นทาง Audi ประกาศเลิกผลิต Audi R8 ที่ใช้เครื่องยนต์ในรูปแบบ V10 ไปเป็นที่เรียบร้อย เช่นเดียวกับทางฝั่งคู่แฝดอย่าง ที่เตรียมจะปิดตำนาน Lamboghini Huracan ขุมพลัง V10 มาใช้เครื่องยนต์ V8 Plug In Hybrid ในอนาคตอันใกล้


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy