ในช่วงเวลานี้…เชื่อว่าเป็นวันที่สาวกมอเตอร์ตปอร์ตของค่าย Toyota ดูจะได้เฮ เนื่องจากแผนก Gazoo Racing ได้ปล่อยไอเทมเด็ดตระกูล GR ในรูปแบบ Limited Edition ออกมาอย่างคับคั่ง นำทีมโดย Hot Hatch สุดร้อนแรงอย่าง Toyota GR Corolla รวมถึงสปอร์ตรุ่นใหญ่อย่าง Toyota GR Supra และแน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้ คงหนีไม่พ้นสปอร์ตในตำนานร้านส่งเต้าหู้อย่าง Toyota GR86 ที่พกพาความพิเศษมาอวดโฉมแบบไม่น้อยหน้ารุ่นพี่
เริ่มกันด้วยขับสี่ตระกูลแรง Toyota GR Corolla
แม้ว่าจะเพิ่งเปิดตัวเมื่อปีก่อน ใน 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Core Edition (เป็นรุ่นพื้นฐานที่ออพชั่นน้อยที่สุด), Morizo Edition (รุ่นพิเศษแต่ราคาสูงและมีจำนวนเพียง 200 คัน สำหรับตลาดอเมริกา) รวมถึง Circuit Edition (รุ่นยอดนิยม) ความน่าสนใจอยู่ที่ในรุ่นสุดท้าย แม้ว่าจะเปิดตัวไปเพียงปีเศษ แต่ล่าสุดมีการเปิดตัวเวอร์ชั่นปี 2024 ที่มีการอัพเกรดสเป็คให้ตัวรถมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ การเพิ่มสีตัวถีง Blue Flame แบบเดียวกับที่ใช้ใน Toyota GR86 พร้อมอัพเกรดชุดล้อเป็นของซิ่งจากแบรนด์ BBS ขนาด 18 นิ้ว (ซึ่งโดยปกติแล้ว จะเป็นล้อสแตนดาร์ดในรุ่น Morizo Edition) แผ่นหลังคาถูกลดน้ำหนักด้วยชิ้นส่วนคาร์บอน, เพิ่มเซ็ตหางหลังที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น พร้อมทั้งคาดลายที่สเกิร์ตข้าง เพื่อภาพลักษณ์ที่ดูดุดันมากขึ้นอีกด้วย โดย Toyota GR Corolla Circuit Edition เวอร์ชั่นปี 2024 จะผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 1,600 คัน เท่านั้น
คันที่ 2 ของรอบนี้ คือ สปอร์ตพี่ใหญ่ Toyota GR Supra
ในเจนเนอเรชั่นที่ 5 ซึ่งที่ผ่านมา มีออกรุ่นพิเศษมาแล้วไม่น้อยเช่นกัน (แต่ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จนแทบจะไม่มีรุ่นพิเศษหลุดเข้ามาในบ้านเรา) การกลับมาในครั้งนี้ เป็นเสมือนการฉลองครบรอบ 45 ปี ของ Supra มาพร้อมความโดดเด่นด้วยการใช้สีตัวถังที่เรียกว่า Mikan Blast (แปลว่า ส้ม ที่เป็นผลไม้า ในภาษีญี่ปุ่น) และเป็นสีที่คล้ายกับรุ่น Plasma Orange Edition ที่ทำตลาดในจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน ก่อนหน้านี้ (คาดว่าเป็นสีที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Fast & Furious แม้ว่าทาง Toyota จะไม่ได้กล่าวก็ตาม) ความพิเศษของ Toyota GR Supra รุ่นฉลองครบรอบ 45 ปี คันนี้ คือ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมคาดลายสีดำด้านข้างตัวถัง หางหลังออกแบบให้สามารถปรับองศาได้ โดยมาในโทนสีส้ม – ดำ ซึ่งรับกับสีตัวถังอย่างลงตัว สำหรับ Toyota GR Supra 45th Anniversary Edition มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 387 แรงม้า โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และทำออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 900 คัน ซึ่ครึ่งหนึ่งจะเป็นสีส้ม Mikan Orange และอีกครึ่งหนึ่งจะเป็นสีขาว Absolute Zero White
คันสุดท้าย…น้องเล็กในตระกูล Toyota GR86
แม้ว่าชื่อรุ่นจะอาจไม่ได้เหมือนกับตัวตึงในตำนานอย่าง Trueno และ Levin แต่ด้วยการเลือกใช้สีทูโทน ขาว – ดำ (แบบเดียวกับตัวละครในการ์ตูน Initial D) ในรุ่นพิเศษ Toyota GR86 Trueno Edition จะพาขาวิ่งทุกคนย้อนลำลึกถึงอดีตอันรุ่งเรืองของรถในตระกูลนี้ได้อย่างไร้รอยต่อ ตัวรถนอกจากจะมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วแล้ว ยังบ่งบอดตัวตนด้วยลวดลาย Trueno ที่กันชนหน้าและหลัง นอกจากนี้ในส่วนของชิ้นประตู รวมถึงฝากระโปรงหน้า ยังถูกคาดด้วยสติ๊กเกอร์สีดำด้าน เพื่อแสดงความเป็นรุ่นพิเศาที่ชวนให้นึกถึง AE86 ในอดีตอีกด้วย ซึ่งความน่าสนใจของ Toyota GR86 Trueno Edition ไม่ได้หยุดแค่ที่ภาพลักษณ์เหมือนกับรุ่นอื่นๆ แต่ตัวรถยังได้รับการอัพเกรดสมรรถนะด้วยชุดช่วงล่างจาก Sachs รวมถึงชุดเบรกจาก Brembo เพื่อให้ตัวรถสามารถควบคุมได้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งสำหรับผู้ที่ครอบครอง Toyota GR86 อยู่แล้ว ยังสามารถซื้อ Performance Package ชุดนี้ เพื่ออัพสมรรถนะให้กับรถตัวเองได้เช่นกัน
นอกจากแพคเกจที่ว่ามาแล้ว สำหรับ Toyota GR86 ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ยังจะได้รับการอัพเกรดระบบความปลอดภัย Active Safety เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเบรกฉุกฌฉินอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน, ไฟหน้าสูง – ต่ำ อัตโนมัติ โดย Toyota GR86 Trueno Edition จะผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 860 คัน
Toyota GR Prius Concept พร้อมเปิดตัวในเวทีโหด Le Mans 24 ชั่วโมง