Smart หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ในเครือ Daimler Group ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยขนาดและดีไซน์อันเป็นที่จดจำ ห่างหายไปจากวงการยานยนต์มานานหลายปี ก่อนที่ในท้ายที่สุดจะกลับมาอีกครั้งด้วย Smart #1 ยานยนต์สายเลือดใหม่ที่ใส่กลิ่นอายความเป็นรถยนต์แห่งอนาคตซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลกเข้าไป โดย Smart #1 มาในรูปแบบของรถครอสโอเวอร์ในพิกัด B-Segment (กว้าง x ยาว x สูง อยู่ที่ 1,820 x 4,270 x 1,640 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม.) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100%
Smart #1 ครอสโอเวอร์พลังไฟฟ้ารุ่นแรกจากค่าย Smart
Smart #1 ถือว่าเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car รุ่นแรกของค่าย หลังจากที่ Daimler Group ถูกซื้อหุ้นไป 50% โดย Geely นั่นส่งผลให้ Smart #1 เป็นรถ EV รุ่นแรก ที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์มแบบโมดูล่าร์ในชื่อ Geely SEA all-electric architecture ซึ่งด้วยแพลตฟอร์มนี้ ทำให้ Smart #1 สามารถวางชุดแพคแบตเตอรี่แบบ NCM (Nickel, Cobalt, Manganese) ได้ถึง 66 kWh และสามารถรองรับการเดินทางได้ไกลที่สุดถึง 440 กม. (WLTP) ซึ่งในอนาคต…อาจมีทางเลือกด้วยแพคแบตเตอรี่ในขนาดอื่นๆ ตามมา
มอเตอร์เดี่ยวกำลังสูง พร้อมรองรับการเดินทางกว่า 400 กม./ชาร์จ
Geely SEA all-electric architecture
Smart #1 มาพร้อมชุดมอเตอร๋เดี่ยวที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหลัง (แพลตฟอร์ม Geely SEA all-electric architecture รองรับการติดตั้งมอเตอร์ได้สูงสุด 3 ตัว) ให้กำลังขับเคลื่อน 264 แรงม้า พร้อมแรงบิด 343 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 180 กม./ชม. ในส่วนของการชาร์จแบตเตอรี่ 10-80% หากใช้ Quick Charge กำลังไฟ 150 kW จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ส่วนหากใช้เครื่องชาร์จไฟกระแสสลับที่มีความสามารถในการจ่ายไฟ 22 kWh จะใช้เวลาประมาณ 3 ชม. 30 นาที
แม้ Smart #1 จะเป็นรถที่มีขนาดกะทัดรัด แต่ทางผู้ผลิตเคลมว่า มีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง (เทียบเท่า Mercedes-Benz E-Class) ซึ่งด้วยการออกแบบพื้นรถ รวมถึงการใช้ดีไซน์ที่จัดวางอย่างเหมาะสม ทำให้ Smart #1 สามารถลดการเบียดบังพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารได้อย่างน่าสนใจ โดย Smart #1 มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 9.2 นิ้ว (พร้อม Head Up Display ขนาด 10 นิ้ว) จับคู่กับหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 12.8 นิ้ว นอกจากนี้ยังจัดเต็มด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น Adaptive Cruise Control, Blind Spot Monitor รวมถึงระบบปรับไฟสูง – ต่ำ อัตโนมัติ พร้อมรองรับการอัพเดทข้อมูลผ่านระบบ over-the-air
Smart #1 จะเริ่มทำตลาดอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ และจะพร้อมส่งมอบในช่วงต้นปี 2566 โดยจะเน้นที่การทำตลาดในยุโรปและเอเซียเป็นหลัก ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการออกมา
