Nissan ถือเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นอีกหนึ่งค่ายที่ดูจะจริงจังกับการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car โดยออกมาประกาศว่า เตรียมจะเปืดตัวรถ EV ถึง 15 รุ่น ภายในปี 2030 ซึ่งเชื่อว่า…อย่างน้อยในรถยนต์พลังไฟฟ้าออกมาในอนาคตนั้น จะมีรุ่นที่อยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้า Nismo ( Nissan Motorsport International) หรือเป็นรถสมรรถนะสูงที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แทนที่การโมดิฟายเครื่องยนต์สันดาปอันเป็นสิ่งที่สร้างชื่อให้กับแรนด์ Nismo มาอย่างยาวนาน
ข้อเท็จจริงดังกล่าวได้รับการยืนยันโดย Guillaume Cartier ประธาน Nissan ฝั่งยุโรป ที่ออกมาแถลงการก่อนที่จะเริ่มการแข่งขัน Formula E รายการ Monaca GrandPrix เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ทาง Nissan กำลังอยุ่ในรระหว่างการพิจารณาว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car รุ่นไหน จะเหมาะกับการนำมาอัพเกรดเพื่อให้เป็นรถ่นสมรรถนะสูง หรือ Nismo เวอร์ชั่นในท้ายที่สุด โดย ณ ปัจจุบัน ค่าย Nissan มีรถ EV ที่ทำตลาดอยู่ 2 รุ่นหลัก นั่นคือ Nissan Leaf และ Nissan Ariya ส่วนในอนาคตอันใกล้นี้ ทางค่ายเตรียมจะเปิดตัวรถ EV ขนาดเล็กอีก 1 รุ่น ซึ่งก็คือ Nissan Micra (March ในบ้านเรา) ภายในปี 2024
Nismo ถือเป็นเครื่องหมายการค้าระดับตำนานของแบรนด์ Nissan ซึ่งเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความเร้าใจและสร้างแรงดึงดูดให้กับสาวกของแบรนด์ โดยเฉพาะหากพูดถึงในเรื่องสมรรถนะ รถที่ได้รับการอัพเกรดจากแบรนด์ Nismo ล้วนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นที่สุดแห่งการขับขี่โดยเฉพาะในวงการมอเตอร์สปอร์ตด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น…จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ หากแบรนด์ Nissan จะปลุกตำนานที่เคยมีอยู่ให้คืนชีพอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง สิ่งหนึ่งที่เราคาดหวังได้จากการกลับมาของแบรนด์ Nismo ก็คือ นี่จะไม่ใช่แค่การแต่งหน้าทาปาก หรือคาดตัวถังด้วยสติ๊กเกอร์ แต่หากเป็นการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้กับตัวรถ ทั้งในด้านพละกำลัง รวมถึงประสิทธิภาพในการควบคุมอย่างที่เคยเป็นมา
ที่ผ่านๆ มา Nismo ถือว่ามีผลงานในวงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เห็นมาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น รถต้นแบบ Nissan Leaf Nismo RC ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์กำลัง 161 แรงม้า แบบแพ็คคู่ขับเคลื่อสี่ล้อ และสามารถทำอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึงที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.4 วินาที นอกจากนี้ยังมี Nissan Leaf Nismo เวอร์ชั่นถนนออกมาแล้วก่อนหน้า โดยสิ่งที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นมาจากเวอร์ชั่นปกติก็คือ การสั่งการของกล่อง ECU ที่สามารถปลดปล่อยพลังได้มากขึ้น รวมถึงการอัพเกรดระบบกันสะเทือน และการตอบสนองของชุดพวงมาลัย เพื่อให้สามาถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ และสนุกสนานกับการขับขี่ได้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้…ทาง Nissan ประกาศยุติการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาป เพื่อมุ่งเป้าไปสู่การพัฒนาระบบ EV Powertrain เต็มรูปแบบ โดยมีการตั้งโรงงานต้นแบบเพื่อผลิตแบตเตอรี่ Solid State และวางแพลนเอาไว้ว่า จะสามารถนำมาใช้งานได้จริงภายในปี 2028 ซึ่งหากความตั้งใจของแบรนด์ Nissan เป็นไปตามเป้า ไม่แน่ว่าในอนาคต เราอาจได้เป็นรถสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ Nismo EV ขับเคลื่อนด้วยแพคแบตเตอรี่แบบ Solid State ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าแบตเตอรี่ EV ที่มีอยู่ในปัจจุบันก็เป็นได้