Microlino รถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดเล้กสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ ผู้มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่มีขนาดกะทัดรัด เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก จับคู่กับรูปแบบการเปิดเข้าสู่ห้องโดยสารในสไตล์ที่เรียกว่า Isetta เช่นเดียวกับที่ค่าย BMW เคยทำมาในอดีต ประกาศให้ลูกค้าได้เลือกสเป็คที่ต้องการ ก่อนเตรียมขึ้นไลน์การผลิต หลังจากที่เปิดให้ลูกค้าได้จับจองจนมียอดสะสมรวมกว่า 30,000 คัน
Microlino Pioneer Series พร้อมขึ้นไลน์การผลิต และจะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงปลายปีนี้
สำหรับการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากค่าย Microlino จะเริ่มขึ้นไลน์การผลิตล็อตแรกด้วย Pioneer Series จำนวนทั้งสิ้น 999 คัน โดยจุดเด่นของรถ EV แบรนด์ Microlino คงหนีไม่พ้นเรื่องความคล่องตัวที่ไม่แตกต่างจากการใช้งานมอเตอร์ไซน์มากนัก แต่สามารถคุ้มแดด คุ้มฝน สำหรับ 2 คน ภายในห้องโดยสาร ตัวรถ Microlino สร้างขึ้นบนพื้นฐานโครงสร้างชิ้นเดียวแบบ Unibody ถูกจัดอยู่ในคลาส L7e ในยุโรป (รถสี่ล้อในรูปแบบยานพาหนะขนาดเล็ก) และมีน้ำหนักเพียง 535 กก. อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับสัมภาระมากถึง 230 ลิตร ซึ่งถือว่าตอบโจทย์อย่างยิ่ง สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
โครงสร้าง Unibody กับแบตเเตอรี่ขนาดเล็ก ทำให้ Microlino มีน้ำหนักเพียง 535 กก.
การออกแบบที่เน้นเรื่องน้ำหนักที่เบาของ Microlino ส่งผลให้ขนาดและน้ำหนักของแบตเตอรี่นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงไปด้วย โดยจะมีชุดแพคแบตเตอรี่มาให้เลือก 3 ขนาด คือ 6, 10.5 และ 14 kWh โดยชิ้นส่วนต่างๆ ที่นำมาประกอบเป็น Microlino กว่า 90% เป็นชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศอิตาลี ซึ่งถือเป็นประเทศสำคัญของอุตสาหกรรมในยุโรป โดยโรงงานผลิต Microlino จะตั้งอยู่ในเมืองตูริน (เมืองเดียวกับสโมสรฟุตบอล Juventus และ Torino) เป้าหมายการผลิตอยู่ที่ 1,500 คัน ต่อปี (ในระยะแรก…และสามารถขยายเป็น 10,000 คัน ต่อปี หากมีความต้องการมากขึ้น)
แม้ว่า Microlino จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีขนาดกะทัดรัด แต่ก็มาพร้อมสมรรถนะในระดับที่เพียงพอสำหรับการใช้งาน โดยมาพร้อมชุดมอเตอรรืขับเคลื่อนที่ให้กำลัง 16.7 แรงม้า สำหรับการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ (พีคสุดที่ทำได้คือ 25.5 แรงม้า) ซึ่งสามารถทำความเร็วในการเดินทางได้ถึง 90 กม./ชม. อาจจะดูเป็นความเร็วที่ไม่สูงนัก สำหรับการใช้งานในไฮเวย์ แต่สำหรับการขับขี่ในเมืองแล้ว…ถือว่าตอบโจทย์ได้อย่างน่าพอใจ นอกจากนี้ Microlino ยังมาพร้อมทางเลือกสเป็คแบตเตอรี่ที่มีีความจุสูงสุด รองรับการเดินทางได้ถึง 230 กม. ต่อการชาร์จ ซึ่งสำหรับคนที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก วันละไม่เกิน 40-50 กม. ต่อวัน นั่นหมายความว่า จะสามารถใช้งานได้เกือบๆ 1 สัปดาห์ ต่อชาร์จ เลยทีเดียว
ราคาจำหน่ายของ Microlino ในสวิสเซอร์แลนด์ ถูกตั้งไว้ที่ราคาเริ่มต้น 14,990 ฟรังสวิส (ประมาณ 5.27 แสนบาท) ส่วนในยุโรปจะขายที่ราคา 12,500 ยูโร หรือประมาณ 4.56 แสนบาท (โดยส่วนใหญ่แล้ว…ราคาขายสินทั่วไป รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์จากสวิสเซอร์แลนด์ จะขายในประเทศในราคาขายที่สูงกว่าในยุโรป ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปกใจที่ราคาขาย Microlino ในประเทศจะสูงกว่า) สำหรับการส่งมอบในสวิสเซอร์แลนด์ คาดว่าจะจะมีขึ้นก่อนช่วงปลายปี ส่วนในยุโรป เช่น อิตาลี เยอรมนี จะอยู่ที่ภายในสิ้นปี 2565
