MG แม้ว่าจะเป็นแบรนด์รถที่ค่อนข้างใหม่สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนบ้านเรา แต่อันที่จริงแล้ว แบรนด์รถยนต์ในชื่อ Morris Garage หรือ MG นั้น ถือว่าเป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน โดยในปี 2024 จะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ของแบรนด์ ซึ่งด้วยโอกาสครบรอบศตวรรษนี้เอง ทำให้ทาง MG เตรียมจะปล่อยรถในรูปแบบสปอร์ตโปรดักชั่น เพื่อสะท้อนให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกลิ่นอายความเป็น MG ในอดีต และพร้อมที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
MG Cyberster การกลับมาอีกครั้งของสปอร์ตโร๊ดสเตอร์ที่เคยได้รับความนิยมในอดีต
แน่นอนว่าหากเกริ่นมาขนาดนี้ ณ เวลานี้ ก็คงไม่มีรถรุ่นใดที่จะเหมาะสมกับช่วงเวลากดังกล่าวไปกว่าว่าที่ สปอร์ตพลังไฟฟ้า 100% อย่าง MG Cyberster ที่มีการเผยโฉมรถต้นแบบเป็นครั้งแรกในงาน Shanghai Auto Show 2021 เมื่อช่วงกลางปีก่อน ซึ่งก็ได้การตอบรับที่ดีด้วยยอดจองกว่า 5,000 คัน ณ เวลานั้น อันเป็นใบเบิกทางสู่รุ่นการผลิตจริงของ MG Cyberster เช่นเดียวกับในประเทศไทยที่ทาง MG ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่า เตรียมจะทำตลาด Sport EV เวอร์ชั่นผลิตจริงภายในปี 2566 โดยนำเสนอผ่านแคมเปญ แคมเปญ MG Cyberster Prestige Reservation ให้ผู้ที่จองสิทธิ์ ได้มีส่วนร่วมในการเสมอแนวความคิดในการออกแบบ พร้อมมอบส่วนลดให้กับผู้ที่จองสิทธิ์ด้วยมูลค่าถึง 10 เท่า ของเงินจอง นับว่าเป็นแคมเปญที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยยอดจองสิทธิ์ MG Cyberster ในประเทศไทยถึง 666 คัน ในเวลาเพียง 10 วัน ซึ่งหนึ่งในความน่าสนใจของ MG Cyberster ก็คือ การคาดหมายว่า Sport EV ผู้นี้ จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต ที่มีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ในแนวทางการทำตลาดที่ชัดเจนที่ MG ยึดถือมาตลอดในการทำตลาดประเทศไทย
หากมองย้อนกลับไปในอดีต ในยุคที่ MG เฟืองฟูจากการทำตลาดรถในสไตล์สปอร์ต เราจะพบว่า MG นั้น เป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถสปอร์ตที่วางระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่ง ณ ปัจจุบัน แบรนด์ MG เดินหน้าอย่างเต็มสูบในการพัฒนารถยนต์พลัังงานไฟฟ้า นั่นจึงเป็นเหตุผลทีมาของจุดกำเนิดในความเป็น MG Cyberster ที่เชื่อว่าจะกลายมาเป็นคู่แข่งที่สำคัญของรถยนต์ในสไตล์โร๊ดสเตอร์ที่มียอดจำหน่ายสะสมสูงที่สุดในโลกอย่าง Mazda MX-5 รวมถึงคู่แข่งโดยตรงในอนาคตอย่าง Toyota GR Sports EV อันเป็นรุ่นที่สืบทอดตำนานของสปอร์ตขนาดกะทัดรัดอย่าง Toyota MR-2 ในทางเดียวกัน MG Cyberster ก็พร้อมจะมาเป็นตัวตายตัวแทนของ MG F สปอร์ตโร๊ดสเตอร์รุ่นสุดท้ายของแบรนด์ ที่ออกมาทำตลาดในช่วงยุคมิลเลนเนียม
แม้ว่าจะเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่ออนาคต ด้วยเทคโนโลยี รวมถึงเทคนิคการออกแบบขั้นสูง แต่แน่นอนว่า MG Cyberster จะรักษากลิ่นอายของความเป็นสปอร์ตจากแบรนด์ MG ในสไตล์คลาสสิครวมเข้าไว้อย่างลงตัว โดยรถ Sports EV รุ่นนี้ จะม่ีสมรรถนะที่โดดเด่น ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กม. ต่อการชาร์จ ที่สำคัญคือ จะเป็นสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าที่วางระดับราคาในตำแหน่งที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ภายใต้นโยบายการทำตลาดของ SAIC Motor จากประเทศจีน ที่เทคโอเวอร์แบรนด์มาทำตลาดเมื่อ 16 ปีก่อน ซึ่งในปี 2024 อันเป็นปีที่ครบรอบ 100 ปี ของแบรนด์ MG หมายมั่นปั้นมือว่าจะทำยอดจำหน่ายได้ครบ 1 ล้านคัน ใน 100 ประเทศ ทั่วโลก
