Home » Kia EV6 vs. Hyundai Ioniq 5 กางสเป็คเช็คเลเวล ! แฝดต่างฝา เสื้อผ้าหน้าผมแบบไหน…ที่ใช่กว่า ?

Kia EV6 vs. Hyundai Ioniq 5 กางสเป็คเช็คเลเวล ! แฝดต่างฝา เสื้อผ้าหน้าผมแบบไหน…ที่ใช่กว่า ?

by Admin clubza.tv

เป็นที่ฮือฮาไปตั้งแต่เปืดตัว สำหรับครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้าอย่าง Kia EV6 GT ที่ทำทีเซอร์เปิดตัวออกมาอย่างเจ็บแสบ ด้วยการปราบซูเปอร์คาร์แบบไม่ไว้หน้า และสร้างปรากฏการสร้างยอดจากกว่า 21,000 คัน ในเวลาเพียว 24 ชม. (Kia EV6 ทุกรุ่นย่อย) ซึ่งเป็นต้องยอมรับในการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของแบรนด์รถจากประเทศเกาหลี ที่มาไกลเกินกว่าที่เราจินตนานการไปแล้วหลายขุม

Kia EV6 เส้นสายเน้นความโฉบเฉี่ยว เฉียบคม อารมณ์สปอร์ต

Hyundai Ioniq 5 ดีไซน์โมเดิร์นเรโทร ในกลิ่นอาย Hyundai Pony ในยุค 70

นอกจาก Kia EV6 แล้ว ครอสโอเวอร์ผู้นี้ ยังมีแฝดต่างฝาที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม E-GMP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เช่นเดียวกัน นั่นก็คือ Hyundai Ioniq 5 แม้ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ จะมีพื้นฐานที่ใกล้เคียงกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับมีสไตล์และคาแร็กเตอร์เฉพาะตัวที่สามารถสร้างความแตกต่าง ซึ่งในครั้งนี้…เราจะลงลึกในรายละเอียดให้ได้เห็นความเหมือนที่แตกต่างของรถครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่น ที่จะทำให้เห็นภาพและเลือกใช้ได้ตรงกับความต้องการของตัวเองได้มากขึ้น

Kia EV6

Hyundai Ioniq 5

ภาพลักษณ์และขนาดตัวถัง

Kia EV6 และ Hyundai Ioniq 5 เป็นแบบอย่างที่ดีของการแชร์แพลตฟอร์มร่วมกัน แม้ว่าจะมาในพื้นฐานและองค์ประกอบที่ใกล้เคียง แต่กลับรักษาเอกลักษณ์และความชัดเจนในตัวเองเอาไว้ ในระดับที่ว่า ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ ว่านี่คือ รถที่สร้างขึ้นจากพื้นฐานเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้จะชื่นชอบแนวทางในการพัฒนารูปแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบในแนวเรโทรโมเดิร์น ถ่ายทอดกลิ่นอายจาก Hyundai Pony ในยุค 70 ของ Hyundai Ioniq 5 หรือเส้นสายที่ดูขึงขัง ล้ำสมัย เน้นความโฉบเฉี่ยวของ Kia EV6 ความน่าสนใจคือ แม้ว่าจะใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน และ EV6 ดูจะมีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับมีระยะฐานล้อที่สั้นกว่า Hyundai Ioniq 5 อยู่ราว 100 มม. (2,895 มม.) โดยมีความยาวตัวถังอยู่ที่ 4,680 มม. (Hyundai Ioniq 5 ยาว 4,635 มม.) และเตี้ยวกว่า Hyundai Ioniq 5 ถึง 50 มม.

หนึ่งในหัวใจของความเป็นสปอร์ต คือ การเน้นให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางการควบคุม

มินิมอลแบบนี้ เห็นแล้วมัน…โครตคูล

ห้องโดยสาร

ภายนอกว่าต่างแล้ว ภายในนั้นยิ่งดูต่าง ซึ่งแปรผกผันกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าตัวถัง Kia EV6 จะดูล้ำยุค แต่หากเทียบการออกแบบภายในห้องโดยสาร กลับเป็นรอง Hyundai Ioniq 5 ในเรื่องความทันสมัย สื่อถึงความเป็นรถในสไตล์มินิมอลได้ชัดเจนกว่า โดยทั้งคู่มาพร้อมหน้าจอดิจิตัลดิสเพลย์ 2 จอ หลังพวงมาลัยเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ส่วนกลางคอนโซลใช้เพื่อสั่งการลูกเล่นต่างๆ พร้อมรองรับอุปกรณ์ความบันเทิง โดยอีกสิ่งที่ให้ความแตกต่างคือ รูปแบบในการจัดวาง Hyundai Ioniq 5 จัดวางในแนวตรง เพื่อความรู้สึกที่โปร่ง โล่ง แต่Kia EV6 วางทำมุมเล็กน้อย เพื่อให้ผู้ขับขี่เป็นเสมือนศูนย์กลางในการควบคุมและสั่งการ

นอกจากนี้แล้ว ยังมีรายละเอียดการจัดวางอุปกรณ์ที่ต่างกันเล็กน้อย เช่น Kia EV6 ออกแบบคอนโซลกลางในลักษณะคล้ายๆ อุโมงค์เกียรของรถในยุคดั้งเดิม (แม้ว่าการออกแบบพื้นรถของแพลตฟอร์มนี้จะเรียบ) ส่วน Hyundai Ioniq 5 ออกแบบมาในสไตล์เปิดโล่ง ทะลุพื้นห้องโดยสารในส่วนหน้าทั้ง 2 ฝั่ง มีปุ่มปรับเบาะแบบ One Touch ช่วยให้การขึ้น – ลง จากทั้ง 2 ฝั่ง ทำได้สะดวกมากขึ้น โดยรถทั้ง 2 คัน มีความโดดเด่นในเรื่องของพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระ แต่เป็น Hyundai Ioniq 5 ที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย โดยมีพื้นที่ 531 ลิตร ส่วน Kia EV6 มีพื้นที่เก็บสัมภาระ 520 ลิตร

E-GMP Platform ของดีจากแดนกิมจิ

แบตเตอรี่และมอเตอร์ขับเคลื่อน

แน่นอนว่าด้วยพื้นฐานที่ใช้ร่วมกัน ก็ย่อมที่จะใกล้เคียงกันเป็นธรรมดา โดยแบตเตอรี่ของ Kia EV6 และ Hyundai Ioniq 5 จะมีให้เลือกทั้งแบบ 58 และ 77.4 kWh (72.6 kWh ในบางตลาด โดยการปรับจำนวนโมดูล) มีทั้งรุ่นที่ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยมอเตอร์ 1 ตัว หรือรุ่นมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยพละกำลังของมอเตอร์ จะขึ้นอยู่กับความแรงในการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ ในรุ่นเริ่มต้นที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยว พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 58 kWh จะมาพร้อมมอเตอร์กำลัง 168 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่นที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 77.4 kWh จะใช้มอเตอร์กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 232 แรงม้า แรงบิด 604 นิวตัน-เมตร

โดยความแตกต่างระหว่างพละกำลังของ Kia EV6 และ Hyundai Ioniq 5 ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ แบตเตอรี่ 77.4 kWh ฝ่ายแรกให้กำลังขับเคลื่อน 225 แรงม้า ในขณะที่ Ionic 5 มีแรงม้าต่ำกว่าอยู่ 10 ตัว ส่วนในรุ่นมอเตอร์คู่ แบตเตอรี่เดียวกัน Kia EV6 ให้กำลัง 321 แรงม้า และ Hyundai Ioniq 5 มีกำลังเพียง 302 แรงม้า แต่ที่เด็ดสุดๆ คือ Kia จะมีรุ่นพิเศษที่ชื่อว่า EV6 GT ผู้มาพร้อมพละกำลังในระดับ 577 แรงม้า พร้อมแรงบิด 740 นิวตัน-เมตร มาเป็นทางเลือกสำหรับคนรักความเร็ว แต่ฝั่ง Hyundai ยังไม่มีวี่แววที่จะได้สัมผัส

สมรรถนะ

ด้านสมรรถนะ มีความแตกต่างกันตามเลเวล โดย Hyundai Ioniq 5 รุ่นมาตรฐาน แบตเล็ก กำลัง 168 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 8.5 วินาที ส่วนรุ่นที่มีขนาดแบตใหญ่กว่า และมีกำลัง 215 แรงม้า จะย่นเวลาลงมาเหลือเพียง 7.4 วิ. ส่วนรุ่นที่ขับเคลื่อสี่ล้อ สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.1 วินาที และจะลดลงเหลือ 5.2 วินาที เมื่อใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุสูงกว่า ซึ่งเมื่อเทียบกับ Kia EV6 ถือว่าตัวเลขมีความใหล้เคียงกันมาก (6.2 วินาที สำหรับรุ่นขับสี่แบตเล็ก และ 5.2 วินาที สำหรับรุ่นขับสี่แบตใหญ่) ต่างตรงที่รุ่นใหญ่อย่าง EV6 GT ที่ทิ้ง Ionic 5 ได้แบบไม่เห็นฝุ่น และเป็นรอง Porsche Taycan Turbo เพียงแค่ปลายจมูก

ชาร์จ 5 นาที วิ่งได้ไกล 100 กม. เร็วเหมือนเติมน้ำมัน !

ระยะทางและเวลาในการชาร์จ

แพลตฟอร์ม E-GMP ออกแบบให้ทั้ง Kia EV6 และ Hyundai Ioniq 5 มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าสูงถึง 800 โวลต์ ซึ่งปกติจะพบได้เฉพาะในรถ EV ระดับพรีเมี่ยม เช่น Porsche Taycan นั่นส่งให้ทั้ง 2 รุ่น รองรับการชาร์จได้กับสถานีชาร์จ 350 kW นั่นหมายความว่า คุณสามารถชาร์จไฟจาก 10 ให้ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 18 นาที โดยเมื่อเสียบชาร์จเพียง 5 นาที รถสามารถวิ่งได้ไกลถึง 100 กม. ซึ่งใช้เวลาพอๆ กับการเติมน้ำมัน

นอกจากนี้ยังสามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หรือคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป จากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ Hyundai Ioniq 5 จะมาพร้อมหลังคาแบบโซล่าร์เซล ซี่งใน Kia EV6 ไม่มีฟังค์ชั่นนี้ ในส่วนของอัตราสิ้นเปลือง สำหรับ Kia EV6 รุ่นแบตเตอรี่ 77.4 kWh ขับเคลื่อนสองล้อ สามารถวิ่งได้ไกล 505 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ส่วน Hyundai Ioniq 5 ในสเป็คเดียวกัน วิ่งได้ระยะทางราว 465 – 480 กม. เท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ พฤติกรรมการขับขี่

ราคาและช่วงเวลาในการจำหน่าย

Hyundai Ioniq 5 พร้อมจำหน่ายในยุโรปช่วงประมาณเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป แต่สำหรับ Kia EV6 จะพร้อมจำหน่ายในเดือนกันยายน โดยราคาเริ่มต้นของ EV6 จะอยู่ที่ 40,895 ปอนด์ (1.77 ล้านบาท) ส่วน Hyundai Ioniq “Project 45” ซึ่งเป็นรุ่นเปิดตลาด จะมีราคาอยู่ที่ 48,000 ปอนด์ (2.07 ล้านบาท) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่ยังไม่ใช่ราคาสุดท้าย ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า ทั้ง 2 รุ่น จะมีราคาที่แข่งขันได้กับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Mustang Mach-E ที่มีราคาอยู่ที่ 43,000 ปอนด์ (1.86 ล้านบาท) ซึ่งยังไม่รวมภาษี…มาถึงตรงนี้แล้ว คุณเลือกได้หรือยัง ว่าคันไหน…ที่ตรงใจกว่า ?

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Carscoop


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy