เป็นกระแสในโลกโซเชียลมาพักใหญ่ ล่าสุดค่ายปิคอัพจอมโหดเมืองมะกันก็ได้ฤกษ์ปล่อย EV SUV หรือรถอเนกประสงค์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน โดยการกลับมาครั้งนี้ของ GMC Hummer EV SUV เรียกได้ว่าจัดเต็มสมรรถนะและเทคโนโลยีจนแทบจะพลิกโฉมจาก Hummer H2 ในยุคเดิมๆ ผู้มาพร้อมความเรียบง่าย ที่เราเคยรู้จัก จะมีก็เพียงในส่วนของภาพลักษณ์ที่ยังคงกลิ่นอายความแข็งแกร่ง บึกบึนเอาไว้แบบเต็มพิกัด
GMC Hummer EV SUV ใช้พื้นฐาน GM Ultium platform เช่นเดียวกับรุ่นที่มาในรูปแบบ Pick Up โดยหน้าที่การขับเคลื่อนนั้น เป็นของมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว (โดยจะมีรุ่น 2 มอเตอร์ ที่ราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่า ตามออกมาในอนาคต) ฟีลลิ่งการตอบสนองของเวอร์ชั่นที่เป็น SUV นั้น จะเน้นความนุ่มนวล และการใช้งานที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยจะลดพละกำลังสูงสุดลงเหลือเพียง 830 แรงม้า (จากในรุ่นปิคอัพ 1,000 แรงม้า) แต่ยังคงรักษากำลังในการฉุดลากไว้ในระดับที่สูงถึง 15,592 นิวตัน-เมตร !!!
เห็นตัวเลขแรงบิดของ GMC Hummer EV SUV แล้ว อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะนั่นคือ แรงบิดรวมจากมอเตอร์ทั้ง 3 ตัว ซึ่งโดยปกติแล้ว ในการทำงานร่วมกันก็จะมีช่วงคาบเกี่ยวของพละกำลังมาเกี่ยวข้องด้วย และอีกประการหนึ่งคือ เป็นการวัดแรงบิดลงล้อ ที่ต้องผ่านกระบวนการในการใช้อัตราทดที่ต้องทำให้รอบของมอเตอร์ขับเคลื่อนกับล้อที่หมุนนั้นสัมพันธ์กัน หากวัดที่เครื่องยนต์เหมือนปกติ แรงบิดของ GMC Hummer EV SUV ควรจะอยู่ที่ 1,356 นิวตัน-เมตร (ค่อยดูมีความเป็นไปได้สักหน่อย) ซึ่งแรงบิดในระดับนี้ แน่นอนว่าเพียงพอสำหรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยความเร็วสูง การปีนไต่ หรือฉุดลากสิ่งของที่มีน้ำหนักมากๆ ได้แบบสบายๆ
GMC Hummer EV SUV มาพร้อมห้องโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เช่นเดียวกับเวอร์ชั่นปิคอัพ โดยในส่วนพื้นที่ด้านหลังมีการออกแบบใหม่ เพื่อให้สามารถบรรทุกสัมภาระได้อย่างจุใจมากขึ้น พร้อมฟังค์ชั่นการขับเคลื่อนแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นระบบการเลี้ยวด้วยล้อทั้ง 4 ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวในที่แคบ (Crab Walk Mode), มีการปรับปรุงระบบควบคุมความเร็วที่เรียกว่า Super Cruise, ระบบ Freedom launch mode ที่พร้อมปล่อยพลังเต็มให้กับทั้ง 3 มอเตอร์ ซึ่งส่งให้ GMC Hummer EV SUV ทะยานจากจุดหยุดนิ่งถึงที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.5+ วินาที (นิดๆ) อีกทั้งยังมีมุมองศาในการปีนไต่ที่คล่องตัว ซึ่งอาจไม่นับรวมมุมเลี้ยว U-Turn ที่กว้างถึง 10.7 ม.
นอกจากรุ่นปกติ ยังมีรุ่นพิเศษ Edition 1 ที่มาพร้อมล้อ 22 นิ้ว เช่นเดียวกับในรุ่นปิคอัพ ซึ่งสำหรับ GMC Hummer EV SUV ยังมี Extreme Off-Road package เป็นอีกหนึ่งทางเลือก มาพร้อมล้อขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 35 นิ้ว ซึ่งจะช่วยเติมสมรรถนะสำหรับการขับขี่ในเส้นทางออฟโร๊ดมาเป็นทางเลือก นอกจากนี้ยังมีระบบล็อคเพลาขับเคลื่อนในด้านหน้าและหลัง, กล้องมองภาพใต้ท้องเพื่อการหลบหลีกทุกอุปสรรค รวมทั้งระบบป้องกันการลื่นไถล ซึ่งหากยังไม่พอ…ทางค่ายยังเตรียมของแต่งกว่า 200 รายการ ไว้เป็นออพชั่นเสริมให้ได้เลือกซื้อในทันทีที่เปิดตัว
ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน GM Ultium platform ออกแบบมาสำหรับแบตเตอรี่ที่รองรับการชาร์จ 800 โวลต์ แต่ในอนาคตจะมีรุ่นที่นำแบตเตอรี่ 400 โวลต์ มาใช้ในรุ่นเริ่มต้น (ซึ่งให้ระยะทางต่อการชาร์จที่ 250 ไมล์ หรือ 400 กม.) และ 300 ไมล์ หรือ 480 กม. สำหรับรุ่นปกติ (โดยการเพิ่ม Extreme Off-Road package อาจทำให้ระยะทางในการวิ่งลดลงเหลือ 280 ไมล์ หรือ 448 กม.) ซึ่งกว่าที่ GMC Hummer EV SUV จะออกขายในปี 2024 ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ รายละเอียดเหล่านี้ อาจได้รับการปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดย GMC Hummer EV SUV เปิดตัวในราคาเริ่มต้น 105,595 เหรียญสหรัฐฯ (3.3 ล้านบาท) สำหรับรุ่นสแตนดาร์ด และ 110,595 เหรียญสหรัฐฯ (3.46 ล้านบาท) สำหรับรุ่นที่มาพร้อม Extreme Off-Road package
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Motor 1, Carscoop