หลังจากที่พยามยามรักษาเอกลักษณืด้วยการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนๆ มาอย่างยาวนาน ในที่สุดสปอร์ตระดับไอคอนิคของแบรนด์ Porsche อย่างตระกูล 911 ก็เตรียมเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ ที่เน้นความเร้าใจแบบไม่ต้องการพึ่งพาเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะใช้มอเตอรืไฟฟ้ามาเป็นตัวช่วยเพิ่มสมรรถนะให้สูงขึ้น ตามแบบฉบับของสปอร์ตยุคใหม่ที่เราได้เห็นแบรนด์ต่างๆ ก้าวสู่ยุคเปลี่ยนผ่านมาแล้วมากมาย
สำหรับการเปิดตัว Porsche 911 ขุมพลัง Hybrid (รุ่นแรกที่ทำออกมาในรูปแบบโปรดักชั่น) จะมีขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ โดยหากย้อนไปเมื่อช่วงกว่า 2 ปีก่อน เราได้เห็น Porsche 911 Hybrid ในรูปแบบคอนเซ็ปท์คาร์มาแล้ว ซึ่งในเวลานั้น เชื่อว่าหลายคนยังคงไม่คิดว่า Porsche จะเอาจริงเอาจังกับโปรเจ็คท์นี้ แต่ด้วยการพัฒนาและเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องกว่า 3.1 ล้านไมล์ หรือเกือบๆ 5 ล้าน กม. ทั้งบนถนน, ทะเลทราย รวมถึงในสนามแข่ง (Nurburgring เจ้าเก่า) ในที่สุด…ทางค่ายก็มีข้อมูลพอที่จะมั่นใจแล้วว่า Porsche 911 Hybrid นั้น พร้อมแล้วที่จะออกมาในรูปแบบโปรดักชั่นให้สาวกของ Porsche ได้สัมผัสกับยุคใหม่ที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
Porsche 911 Hybrid
ถือว่าเป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเมื่อเทียบเวลาการขับขี่ต่อรอบในสนาม Nurburgring นั้น Porsche 911 Hybrid สามารถทำเวลาได้อยู่ที่ 7:16.9 นาที ซึ่งถือว่าเร็วกว่า Porsche 911 Carrera S (992) เจนเนอเรชั่นปัจจุบัน ที่ทำเวลาต่อรอบเอาไว้ที่ 7:25.6 นาที ที่ทำไว้เมื่อปี 2020 อยู่ถึง 8.7 วินาที ในระยะทาง 20.8 กม. ซึ่งจากภาพที่ออกมานั้น ตัวถังของ Porsche 911 Hybrid ยังคงถูกปกคลุมป้าย Badge ที่บ่งบอกรุ่น แต่หากเทียบดีไซน์ในภาพรวมแล้ว รถที่เห็นในภาพที่ปล่อยออกมา คาดว่าจะอยู่ในระดับเดียวกับ Porsche 911 Carrera S
การติดตั้งเครื่องยนต์ในรูปแบบไฮบริดให้กับรถในตระกูล 911 ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 61 ปี ตั้งแต่สปอร์ตระดับไอคอนิคของค่าย Porsche ผู้นี้ถือกำเนิด ซึ่งความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ยังไม่มีรายละเอียดในส่วนของระบบไฮบริดที่จะถูกนำมาใช้ออกมา (แต่คาดว่าจะมาในรูปแบบ HEV มากกว่า PHEV ด้วยตัวเลขเวลาต่อรอบที่ออกมา ยังถือว่าทำเวลาต่อรอบได้ดีมากกว่าที่จะเป็นรถในรูปแบบไฮบริด ซึ่งมีน้ำหนักเยอะ จนอาจทำให้ประสิทธิภาพในการเข้าโค้งด้อยลง) แต่ภายใต้การทดสอบอย่างเข้มข้น ทั้งในสภาพอากาศที่เย็นจัด, การทดสอบในสนามแข่งระดับโลก รวมถึงการทดสอบในสภาพอากาศสุดระอุแถบทะเลทรายที่ดูไบในขั้นตอนสุดท้าย จะช่วยส่งให้ Porsche 911 เป็นซูเปอร์สปอร์ตที่ให้ไดนามิคในการขับขี่ได้อย่างเหนือชั้นยิ่งขึ้น…แน่นอนว่า ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ เราคงได้รู้กัน !