Ford ไม่ซุ่มอีกต่อไป หลังออกมาประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่า เตรียมจะเปิดตัวปิคอัพ Ranger รูปแบบปลั๊กอินไฮบริดภายในปี 2024 ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์เบ็นวิน เทอร์โบ จับคู่กับชุดมอเตอร์ และทำตลาดเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาในประเทศออสเตรเลีย โดยยังคงทิ้งปริศนาให้เดากันเล็กๆ ว่า Ford Ranger Plug-in Hybrid นั้น อาจจะเป็นรถที่ไม่ได้ผลิตในแพล้นท์เดียวกับรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล หรืออาจไม่ได้ผลิตในประเทศไทยนั่นเอง
ปีหน้าเจอกัน… Ford Ranger Plug-in Hybrid
ข้อมูลที่น่าสนใจที่ Ford ให้ไว้ในตอนที่เปิดตัว Ford Next Gen ก็คือ ด้วยพื้นฐานแพลตฟอร์ม T6 เวอร์ชั่นที่ 2 นอกจากตัวรถจะสามารถใช้งานกับเครื่องยนต์สันดาปแล้ว ยังสามารถนำไปใช้กับขุมพลังในรูปแบบอื่นๆ ทั้งระบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก รวมถึงกลายร่างเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน ซึ่ง ณ ปัจจุบัน คงถึงเวลาของการขยับขยายไปยังรูปแบบอื่นๆ เพื่อเพิ่มกลุ่มลูกค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยในอนาคต มีการคาดหมายกันว่า หลังจากที่ Ford Ranger Plug-in Hybrid เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย อาจจะมีการเปิดตัวรถอเนกประสงค์ Ford Everest ในรูปแบบเดียวกันเปิดตัวตามออกมา เพียงแค่ต้องรอลุ้นกันว่า…จะออกมาในเวลาใดเท่านั้น ?
ตามข้อมูลที่ Drive สื่อของประเทศออสเตรเลียนำเสนอ คือ Ford Ranger Plug-in Hybrid จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบ็นซิน 4 สูบ 2.3 ลิตร เทอร์โบ (เป็นบล็อคเดียวกับที่ใช้ใน Ranger สเป็คอเมริกา รวมถึงใน Volkswagen Amarok อยู่แล้ว) จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า (1 ตัว หรือมากกว่า) โดยพละกำลังที่ได้จากเครื่องยนต์เพียวๆ จะอยู่ที่ 297 แรงม้า พร้อมแรงบิด 452 นิวตัน-เมตร ซึ่งนอกจากเครื่องยนต์บล็อคนี้ จะถูกนำมาจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าใน Ford Ranger แล้ว ยังเชื่อว่า…นี่จะยังเป็นเครื่องยนต์บล็อคแรกของ Ford ที่จะนำมาใช้กับรถในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์
ภาพขณะวิ่งทดสอบในยุโรป
การกลับมาของขุมพลังเบ็นซิน 4 สูบ 2.3 ลิตร เทอร์โบ ในเวอร์ชั่นเสียบปลั๊กของ Ford ถือเป็นเครื่องยนต์เบ็นซินรุ่นที่ 2 ที่ทำตลาดในออสเตรเลีย (นับตั้งแต่ยุค 10 ปีก่อน ที่เคยทำตลาดด้วยเครื่อง 2.5 ลิตร NA) ต่อจากเครื่องยนต์บล็อค V6 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ใน Ford Ranger Raptor โดย ณ เวลานี้ นอกจากสเป็คของเครื่องยนต์แล้ว ยังไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับสเป็คของมอเตอร์และแบตเตอรี่ออกมา ซึ่งเราคงต้องรอติดตามกันอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องแพล้นที่ใช้ในการผลิต หากไม่ได้ใช้แพล้นท์ในประเทศไทย (ที่เน้นผลิตรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นหลัก) ก็มีความเป็นไปได้ว่า Ford Ranger Plug-in Hybrid อาจจะผลิตที่แพล้นท์ Silverton ในแอฟริกาใต้ก็เป็นได้สูง (ซึ่งหากผลิตที่แอฟริกา และนำเข้าไปทำตลาดในออสเตรเลีย จะต้องเสียภาษีนำเข้าอีก 5% เมื่อเทียบกับการนำเข้าจากประเทศไทย…ส่งผลต่อระดับราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย) โดยที่นั่นเป็นแพล้นหลักในการผลิต Ford Ranger สำหรับตลาดยุโรปและแอฟริกา รวมถึงเป็นโรงงานผลิต Ford Everest สำหรับตลาดในทวีป และที่สุคัญ ที่นี่ยังเป็นแพล้นประกอบ Volkswagen Amarok ที่ทำตลาดทั่วโลกอีกด้วย
