Home » Ford Everest Wildtrak ปรับลุคเน้นลุย คุยกันด้วยเอกลักษณ์ที่คุ้นเคย

Ford Everest Wildtrak ปรับลุคเน้นลุย คุยกันด้วยเอกลักษณ์ที่คุ้นเคย

by Admin clubza.tv
Ford Everest Wildtrak

Wildtrak จัดเป็นหนึ่งในทริมยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Ford Ranger ด้วยแนวทางการตกแต่งที่บึกบึนสไตล์สายลุย ตกแต่งด้วยทริมสีที่มีเอกลักษณ์ พร้อมจัดออพชั่นมาให้แบบเต็มคาราเบล โดยที่ผ่านมานั้น ยังไม่มีการจับเอารุ่นย่อย หรือสไตล์การตกแต่งในรูปแบบ Wildtrak มาประจำการในรถอเนกประสงค์อย่าง Ford Everest ซึ่งโดยปกติแล้ว จะแบ่งทริมให้เลือกหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Trend, Sport, Titanium และ Platinum

Ford Everest Wildtrak ทำตลาดครั้งแรกในนิวซีแลนด์

แม้ว่าแต่ละรุ่นย่อยของ Ford Everest จะมีแนวทางที่ชัดเจนในตัวเอง ทั้งในเรื่องความเป็นสปอร์ต หรือแม้แต่ภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรา แต่ยังไม่มีรุ่นย่อยไหนที่เน้นความเป็นอเนกประสงค์พันธุ์ลุย (จ๋า) อย่าง Wildtrak จนกระทั่งวันนี้ ! เมื่อทาง Ford New Zealand ได้เปิดตัว Ford Everest Wildtrak เป็นครั้งแรกในโลก โดยยึดเอากลิ่นอายและธีมที่ถอดแบบมาจาก Ford Ranger Wildtrak เพื่อเน้นการใช้งานในรูปแบบที่สมบุกสมบันมากยิ่งขึ้น โดยทางค่ายวางตำแหน่งของ Ford Everest Wildtrak ไว้เทียบเท่ารุ่นย่อย Titanium เมื่อเทียบกับรุ่นที่ทำตลาดในประเทศไทย (ใน New Zealand ไม่มีการทำตลาดในทริมย่อนี้ โดยทางค่ายระบุว่า อยู่ในระดับที่ต่ำกว่ารุ่น Platinum ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงที่เน้นความหรูหราเป็นหลัก)

จัดเต็มโลโก้ Wildtrak บ่งบอกเอกลักษณ์รอบคัน

ล้ออัลลอย 20 นิ้ว ดีไซน์เฉพาะ

Ford Everest Wildtrak มาพร้อมตัวถังสีเหลือง Luxe Yellow จับคู่กับการตกแต่งด้วยสีเทาเข้ม Bolder Grey ซึ่งในส่วนของชิ้นกันชน รวมถึงกระจังหน้า เป็นพาร์ที่ออกแบบมาสำหรับ Ford Everest Wildtrak โดยเฉพาะ ในด้านข้างเติมประฌยชน์ใช้สอยด้วยราวหลังคาอลูมิเนียม, บันไดเหล็ก จับคู่กับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ซึ่งมาพร้อมดีไซน์ที่แตกต่างจากทริมการตกแต่งอื่นๆ ที่ขาดไม่ได้คือ การตกแต่งด้วยโลโก้ Wildtrak ที่บริเวณฝากระโปรง, ประตูบานหน้า รวมถึงฝาท้าย

ภายในยังคงใช้หน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 8 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารของ Ford Everest Wildtrak ได่รับการตกแต่งด้วยหนังกลับ Miko Suede เล่นสีตัดกับด้ายพร้อมการปักโลโก้ Wildtrak ในสี  Cyber Orange โดยเบาะนั่งฝั่งผู้ขับขี่ มากับฟังค์ชั่นปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมด้วยระบบปรับอุณหภูมิ ส่วนบริเวณคอนโซลเป็นที่อยู่ของหน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตัล 8 นิ้ว (จอ 12.3 นิ้ว มีเฉพาะในรุ่น Platinum) พร้อมจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 12 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย ทำงานร่วมกับชุดเครื่องเสียงที่มาพร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง รวมถึงมีระบบ Wireless Charge

ถ้าทำตลาดได้สวย ในอนาคตอาจกระจายกลุ่มลูกค้าไปยังออสเตรเลียด้วย

Ford Everest Wildtrak ที่ทำตลาดในประเทศนิวซีแลนด์ จะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 พิกัด 3.0 ลิตร ให้กำลัง 250 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 600 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด จับคู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time ซึ่งจะประเมินสถานการณ์เพื่อที่จะกระจายกำลังขับเคลื่อนในแต่ละล้ออย่างเหมาะสม โดย Ford Everest Wildtrak จะเริ่มการทำตลาดในนิวซีแลนด์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป ซึ่งในอนาคต…หากไปได้สวย Ford Everest Wildtrak อาจมีการขยับไปบุกตลาดฝั่งออสเตรเลียด้วย


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy