ปัญหาอาชญากรรมลับๆ หรือภัยเงียบทั่วโลก ยังคงมีออกมาในภาพข่าวอย่างต่อเนื่องไม่เว้นแต่ละวัน เช่น ปัญหาการตระเวณขโมยแคตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ (ที่นักเล่นบ้านเรา…ชอบตัดและแจกให้กับพ่อค้าหัวใสแต่โคตรโกงแบบฟรีๆ) ของขบวนการในสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุด The United States Department of Justice หรือ กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ มีการจับกุม ขยายผล และแถลงข่าวออกมาว่า อาชญากรรมการขโมยแคตาไลติกฯ ที่ถูกขโมยโดยกลุ่มขบวนการนี้ ครอบคลุมถึง 5 รัฐ และมีมูลค่าสูงถึง 545 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 20,000 ล้านบาท !!!
แคตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ ของดี มีมูลค่า แต่หลายคนมักมองข้างความสำคัญ
คณะลูกขุนใหญ่ของรัฐบาลกลางในเขตตะวันออกของแคลิฟอร์เนีย ออกคำฟ้องร่วม 40 ข้อหา เช่น การสมรู้ร่วมคิดในการขนส่งแคตาไลติกฯ ที่ถูกขโมย, สมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน ต่อผู้ก่ออาชญากรรม 9 คน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งในแซคราเมนโต ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนกลาง “รับซื้อของโจร” จากผู้ที่ขโมยแคตาไลติกฯ เพื่อส่งต่อไปยัง บริษัทรับซื้อ DG Auto ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เพื่อแปรรูป สกัด คัดแยกแร่ธาตุต่างๆ ที่อยู่ภายในแคตาไลติกฯ และทำเงินได้มากกว่า 38 ล้านดอลลาร์ จากกระบวนการนี้ ซึ่งทั้งหมดนั้น ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า สมรู้ร่วมคิดในการขโมยแคตาไลติกฯ เพื่อมาสกัดแร่ที่อยู่ภายใน ซึ่งเมื่อคิดรวมแล้ว มีมูลค่ามากถึง 545 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปีที่ผ่านมา มีการแจ้งว่าแคตาไลติกฯ ถูกขโมยมากถึง 1,600 ชิ้น ต่อเดือน ในแคลิฟอเนีย ซึ่งคิดเป็น 37% ของการขโมยแคตาไลติกฯ ทั่วสหรัฐฯ นั้นเท่ากับว่า ใน 1 เดือน มีสถิติการขโมยแคตาไลติกฯ มากกว่า 4,000 ชิ้น เลยทีเดียว
การขโมยแคตาไลติกฯ ยังคงเป็นอาชญากรรมสำคัญ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาลในสหรัฐฯ
นอกจากที่แคลิฟอเนียแล้ว…คณะลูกขุนใหญ่ของรัฐบาลกลาง ในเขตภาคเหนือของโอคลาโฮมา ยังยื่นฟ้อง 40 ข้อหา ต่อ 13 คนร้าย ที่สมรู้ร่วมคิดรับซื้อแคตาไลติกฯ ที่ถูกขโมยเพื่อฟอกเงิน ซึ่งเป็นกรณีที่คล้ายกับการกระทำของกลุ่มคนร้ายในแคลิฟอร์เนีย โดยผู้รับซื้อแคตาไลติกฯ ในขั้นสุดท้าย ยังคงเป็น DG Auto ซึ่งจากกระบวนการนี้ บุคคลหนึ่งที่ถูกฟ้อง สามารถทำเงินสูงสุดกว่า 45 ล้านดอลลาร์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่กลุ่มคนในขบวนการนี้ คิดสั้นก่ออาชญากรรมดังกล่าว
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้แคตาไลติกฯ ถูกขโมยอย่างต่อเนื่อง คงหนีไม่พ้นการที่แคตาไลติกฯ นั้น เป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุที่มีมูลค่าสูง เช่น แพลเลเดียม (1,900 ดอลลาร์ฯ หรือ 70,900 บาท ต่อออนซ์), แพลตตินั่ม (984 ดอลลาร์ฯ หรือ 36,700 บาท ต่อออนซ์) และโรเดียม (13,990 ดอลลาร์ฯ หรือ 522,000 บาท ต่อออนซ์) ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าทองคำมาก (ราคาทองคำ ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 1,660 ดอลลาร์ หรือประมาณ 62,000 บาท ต่อออนซ์) นั่นเท่ากับว่า ในแคตาไลติกฯ 1 ชิ้น ที่ถูกขโมย จะทำเงินได้กว่า 1,000 ดอลลาร์ฯ (กว่า 37,000 บาท)
ปิคอัพขนาดใหญ่ รวมถึงรถในรูปแบบไฮบริด มักตกเป็นเป้าหมายสำคัญของแก๊งขโมยแคตาไลติก
ที่สำคัญก็คือ แคตาไลติกฯ สามารถขโมยได้ง่าย โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ซึ่งเมื่อถูกขโมยมาแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ตามคืนเจ้าของได้ยาก เนื่องจากไม่มีการระบุ VIN No. หรือข้อมูลอื่นๆ ของตัวรถที่ถูกขโมยมา โดยรถที่มักจะถูกขโมยแคตาไลติกฯ มากที่สุด อยู่ในกลุ่มรถปิคอัพ เนื่องจากตัวรถมีแคตาไลติกฯ ขนาดใหญ่ สามารถทำราคาได้ดี ส่วนอีกหลุ่มหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือ รถไฮบริด เนื่องจากแคตาไลติกฯ ของรถเหล่านั้น จะมีสภาพที่สมบูรณ์มากกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเพียวๆ…มาถึงตรงนี้แล้ว ยังมีใครอยากถอดแคตฯ ให้ร้านท่อที่รับ “กินหมู” แบบฟรีๆ อีกไหม ?
ขอขอบคุณ United States Department Of Justice
