BYD Seal รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ของค่าย ที่เปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งในครั้งนี้ Rever Automotive นำเข้ามาจำหน่ายใน 3 รุ่นย่อย 3 ระดับพละกำลัง ประกอบไปด้วย รุ่นเริ่มต้น Dynamic ขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ขนาดพอเหมาะ, Premium ขับเคลื่อนล้อหลังกำลังสูง กับสเป็คแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และปิดท้ายด้วยรุ่นท็อปคลาส AWD Performance ที่จัดเต็มด้วยระบบขับเคลื่อนจากมอเตอร์คู่ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ โดยเคลมสมรรถนะอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ไว้ภายใน 3.8 วินาที
อย่างที่เกริ่นไปว่า BYD Seal ทั้งในรุ่น Dynamic, Premium และ AWD Performance มีรายละเอียดของระบบขับเคลื่อนและสเป็คแบตเตอรี่ที่แตกต่างกันออกไป ในครั้งนี้ #ทีมขับซ่า จึงนำรายละเอียดดังกล่าว มาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น เริ่มตั้งแต่เรื่องของระดับพละกำลัง ที่จะมีเพียงรุ่น AWD Performance เท่านั้น ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อทั้งสี่ โดยใช้การผสมผสานระหว่างมอเตอร์ขับเคลื่อนในรูปแบบ AC Asynchronous กำลัง 215 แรงม้า และแรงบิด 310 นิวตัน-เมตร ที่ล้อคู่หน้า กับมอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous กำลัง 308 แรงม้า และแรงบิด 360 นิวตัน-เมตร ที่ล้อคู่หลัง โดยมอเตอร์ชุดหลังนี้ จะใช้ร่วมกับ BYD Seal รุ่น Premium เช่นเดียวกับชุดแพค BYD Blade Battery ขนาด 82.5 kWh ส่วนในรุ่น Dynamic ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น จะใช้มอเตอร์ที่ล้อคู่หลัง ซึ่งมาพร้อมกำลัง 201 แรงม้า กับแรงบิด 310 นิวตัน-เมตร อันเป็นตัวเลขที่สาวก BYD คุ้นเคยทั้งใน BYD Atto 3 และ BYD Dolphin Extended Range
TEST DRIVE…BYD SEAL กรุงเทพฯ – เขาใหญ่ ไปเกือบไม่ได้ แถมกลับไม่ถึง !!! น้องแมวน้ำคงโอด “พาฉันมาเชือด…เพื่อ ?”
BYD Seal AWD Performance มีให้เลือก 4 สี คือ ขาว, ดำ, เทา และฟ้า
BYD Seal Premium มีให้เลือก 3 สี คือ ขาว, ดำ และ เทา
BYD Seal Dynamic มีให้เลือก 2 สี คือ ขาว และ ดำ
เปรียบเทียบสเป็คมอเตอร์และสมรรถนะ BYD Seal
รายละเอียด | AWD Performance | Premium | Dynamic |
| ระบบขับเคลื่อน | AWD | RWD | RWD |
| มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหน้า | AC Asynchronous | – | – |
| กำลังมอเตอร์ล้อหน้า | 215 / 310 | – | – |
| มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลัง | Permanent Magnet Synchronous | Permanent Magnet Synchronous | Permanent Magnet Synchronous |
| กำลังมอเตอร์ล้อหลัง | 308 / 360 | 308 / 360 | 201 / 310 |
| กำลังรวม | 523 / 670 | 308 / 360 | 201 / 310 |
| ล้อ – ยาง | 225/50 R18 | 235/45 R19 | 235/45 R19 |
| น้ำหนักตัวรถ | 2,185 | 2,055 กก. | 1,922 กก. |
| เคลมอัตราเร่ง 0-100 กม. | 3.8 วินาที | 5.9 วินาที | 7.5 วินาที |
ด้วยวัตถุประสงค์การออกแบบ รวมถึงการวางตำแหน่งราคาของ BYD Seal ที่มีความแตกต่างกัน ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลไม่น้อย คือ เรื่องความจุของแบตเตอรี่ที่ใช้ โดยในรุ่น AWD Performance และรุ่น Premium มาพร้อมชุดแพค BYD Blade Battery ขนาด 82.5 kWh สามารถรองรับการเดินทางต่อชาร์จ 580 กม. และ 650 กม. (NEDC) ตามลำดับ ส่วนในรุ่น Dynamic ที่เน้นให้ผู้ที่ต้องการสัมผัสความเป็นพรีเมี่ยมซีดานพลังงานไฟฟ้า สามารถเข้าถึงได้ง่าย ทางค่ายจึงเลือกจับคู่มอเตอร์ที่มีกำลังย่อมลงมา กับแบตเตอรี่แพคที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป โดยมาในขนาด 61.4 kWh รองรับการเดินทางต่อชาร์จ 510 กม. (NEDC) แต่แม้ว่าแบตเตอรี่จะมีขนาดต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ BYD แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ คือ การอัพประสิทธิภาพในการชาร์จเร็ว DC Quick Charge สำหรับรุ่นที่มีความจุแบตเตอรี่ใหญ่กว่า ด้วยการรับกำลังไฟได้สูงถึง 150 kW แต่สำหรับรุ่น Dynamic นั้น จะรองรับอยู่ที่ 110 kW ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ส่งผลให้การใช้เวลาในการชาร์จจาก 10-80% อยู่ในช่วงที่ใกล้เคียงกัน ที่ประมาณ 30-32 นาที
สำหรับการขับขี่ที่เน้นระยะทางต่อชาร์จเป็นหลัก BYD Seal รุ่น Premium ถือว่าตอบโจทย์ได้ไกลที่สุด
เปรียบเทียบแบตเตอรี่และระยะการเดินทางต่อชาร์จ BYD Seal
รายละเอียด | AWD Performance | Premium | Dynamic |
| ความจุแบตเตอรี่ | 82.5 kWh | 82.5 kWh | 61.4 kWh |
| ระยะการเดินทางต่อชาร์จ | 580 (NEDC) | 650 (NEDC) | 510 (NEDC) |
| ระยะการเดินทางต่อชาร์จ | 520 (WLTP) | 570 (WLTP) | 460 (WLTP) |
| รองรับการชาร์จ AC | 7 kW | 7 kW | 7 kW |
| เวลาการชาร์จ 0-100% | 12.0 ชม. | 12.0 ชม. | 9.0 ชม. |
| รองรับการชาร์จ DC | 150 kW | 150 kW | 110 kW |
| เวลาการชาร์จ 10-80% | 32 | 32 | 30 |
3.8 วิ. ที่ทำได้จริง และวิ่งควอเตอร์ไมล์เห็นเลข 12.3 วิ.
ความน่าสนใจของแบรนด์ BYD ในทุกๆ รุ่นที่มีการทำตลาด คือ การเคลมตัวเลขอัตราเร่งที่ใกล้เคียงความเป็นจริง ซึ่งสำหรับ BYD Seal ก็เช่นกัน จากการทดสอบด้วยเครื่องมือ VBox Sport โดย #ทีมขับซ่า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่ทำตัวเลขออกมาได้อย่างน่าประทับใจในความ”ตรงปก” โดยสำหรับรุ่น AWD Performance อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่เคลมเอาไว้ในระดับ 3.8 วินาที สามารถทำได้จริงที่ 3.85 วินาที และสร้างแรง G สูงสุดในช่วงออกตัวได้ถึง 0.87 ส่วนการทำความเร็วในระยะควอเตอรืไมล์นั้น สามารถเร่งจากจุดหยุดนิ่งผ่านเส้น 402 ม. ได้ในเวลาเพียง 12.32 วินาที ด้วยความเร็วเข้าเส้น 177.0 กม./ชม. ก่อนจะทะยานสู่ความเร็วสูงสุด ซึ่งถูกล็อคเอาไว้ที่ 191.4 กม./ชม.
เปรียบเทียบอัตราเร่ง BYD Seal
รายละเอียด | AWD Performance | Premium | Dynamic |
| 0 – 40 กม./ชม. | 1.29 | 2.25 | 2.24 |
| 0 – 60 กม./ชม. | 1.96 | 3.21 | 3.70 |
| 0 – 80 กม./ชม. | 2.76 | 4.47 | 5.49 |
| 0 -100 กม./ชม. | 3.85 | 6.03 | 7.84 |
| 0 – 120 กม./ชม. | 5.28 | 8.13 | 10.89 |
| 0 – 140 กม./ชม. | 7.13 | 10.54 | 14.97 |
| 0 – 160 กม./ชม. | 9.51 | 13.66 | 19.94 |
| 0 – 180 กม./ชม. | 12.70 | 17.48 | 26.53 |
| 60 – 80 กม./ชม. | 0.82 | 1.25 | 1.78 |
| 80 – 120 กม./ชม. | 2.52 | 3.60 | 5.41 |
| 100 – 120 กม./ชม. | 1.43 | 2.01 | 3.02 |
| ควอเตอร์ไมล์ | 12.32 วิ. @ 177.0 กม/ชม. | 14.46 วิ. @ 164.3 กม/ชม. | 16.04 วิ. @ 144.3 กม/ชม. |
| ความเร็วสูงสุด | 191.4 กม/ชม. | 188.9 กม/ชม. | 183.7 กม/ชม. |
ด้วยสเป็คช่วงล่างเดียวกัน แต่น้ำหนักต่างกันถึง 133 กก. ส่งผลให้ทั้งคู่ มีคาแร็กเตอร์และความเฉียบคมที่ต่างกันอย่างชัดเจน
สำหรับ BYD Seal รุ่น Premium และ Dynamic ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง แต่มีกำลังมอเตอร์ในระดับที่ต่างกัน ทั้งคู่ยังทำตัวเลขได้ใกล้เคียงกับที่เคลมเอาไว้ โดยในรุ่น Premium นั้น ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.03 วินาที (ตัวเลขที่เคลม คือ 5.9 วินาที) และทำเวลาควอเตอร์ไมล์ 14.46 วินาที ที่ความเร็วเข้าเส้น 164.3 กม/ชม. ปิดท้ายด้วยรุ่น Dynamic ที่ดูอาจจะทำตัวเลขออกมาค่อนข้างห่างไกล (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรถที่ใช้มอเตอร์สเป็คเดียวกัน) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยแวดล้อมในการทดสอบ ซึ่งโดยปกติแล้ว #ทีมขับซ่า จะใช้ผู้ทดสอบในรถเพียง 1 คน แต่ในการทดสอบรุ่น Dynamic มีผู้ร่วมโดยสารเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ท่าน (+ น้ำหนักประมาณ 120 กก.) ทำให้ตัวเลขออกมาคลาดเคลื่อนไปเล้กน้อย แต่อย่างไรแล้ว…ถือว่าอยู่ในคอนดิชั่นที่ยอมรับได้
