BMW X7 รถอนกประสงค์เรือธงแห่งบาวาเรีย ได้ฤกษ์ปรับโฉมหลังจากที่ทำตลาดมาถึง 5 ปี โดยในการ LCI ครั้งนี้ มีจุดที่น่าสนใจในหลายๆ ส่วน ตั้งแต่เรื่องของภาพลักษณ์ที่มีความดุดัน ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งนี่ถือเป็นดีไซน์ใหม่ที่ชี้ถึงอนาคตในความเป็น BMW ก่อนที่ซีดานเรือธงของค่ายอย่าง BMW Series 7 และ BMW i7 จะเปิดตัวในอีกไม่กี่วันให้หลัง ซึ่งนอกจากการปรับดีไซน์ที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนแล้ว BMW X7 2023 ยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการณ์ใหม่ iDrive 8 ที่ช่วยเติมเต็มประสิทธิภาพในการใช้งานในรถ SAV สุดหรูผู้นี้ได้อีกขั้น
BMW X7 M60i
BMW X7 xDrive 40i
ดีไซน์ใหม่ของ BMW X7 2023 มาพร้อมการแยกส่วนของชุดไฟออกจากกันอย่างชัดเจน โดยแถบไฟที่วางอยู่ในแนวใต้กระโปรง หรือตำแหน่งเดิมของชุดไฟหน้า ได้รับการปรับให้เป็นที่อยู่ของไฟ LED Daylight พร้อมไฟเลี้ยวเพียวเท่านั้น ส่วนไฟหน้าถูกย้ายตำแหน่งลงมาอยู่บริเวณช่องที่มุมกันชน ให้ความรู้สึกเรียบง่าย แต่ดูล้ำสมัยแตกต่างจากในรุ่นก่อนอย่างชัดเจน โดยในส่วนของกระจังหน้าสำหรับรุ่นท็อปในรหัส X7 M60i จะมาในรูปแบบเรืองแสงเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่สำหรับ BMW X7 xDrive 40i จะเป็นกระจังหน้าปกติ ซึ่งสามารถเลือกแบบเรืองแสงเป็นออพชั่นเพิ่มเติมได้เช่นกัน ส่วนในด้านท้ายของ BMW X7 2023 มีการปรับลายละเอียดเล็กน้อยด้วยชุดไฟท้ายที่ออกแบบในสไตล์มินิมอล คาดด้วยแถบโครเมี่ยมแบบ Black Chrome ซึ่งให้มุมมองที่หูหรา ผสานความดุดันได้อย่างลงตัว
สำหรับ BMW X7 xDrive 40i มาพร้อมทริมารตกแต่งเพิ่มเติมในแบบฉบับของ M Sport โดยสิ่งที่จะเพิ่มเข้ามาก็คือ กันชนหน้า – หลัง ดีไซน์เฉพาะที่มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น โดยมากับชุดสเกิร์ตด้านข้างที่ออกแบบมาให้รับกันอย่างลงตัว ก่อนเติมรายละเอียดด้วยคิ้วคาดด้านข้าง, ปลายท่อไอเสีย รวมถึงชุดล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 21 นิ้ว ส่วนในรุ่นท็อปอย่าง BMW X7 M60i มาพร้อมความล้ำขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกระจกมองข้างที่ดีไซน์มาให้ลู่ลมมากยิ่งขึ้น, ช่องรับลมขนาดใหญ่ในด้านหน้า, กระจังหน้าพร้อม M Badge รวมถึงปลายท่อไอเสียแบบสปอร์ต โดยชุดล้อที่ให้มาเป็นขนาด 22 นิ้ว ซึ่งหากยังรู้สึกสปอร์ตไม่พอ ทางค่ายยังจัดเวอร์ชั่นสปอร์ตกว่าด้วยออพชั่น M Sport Professional Package ที่มาพร้อมแถบตกแต่งเพิ่มเติม, คาลิเปอร์ขนาดใหญ่สีน้ำเงินหรือดำ รวมไปถึงยังสามารถเลือกแปะป้าย BMW M 50 Years ที่ฝากระโปรงหน้า – หลัง รวมถึงที่ดุมล้อทั้ง 4 เพื่อบ่งบอกถึงตำนานอันยิ่งใหญ่ของ M Car ที่ครองใจสาวก Bimmer มาแล้วกว่า 5 ทศวรรษ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดในการกลับมาของ BMW X7 โฉม LCI ในปี 2023 ก็คือ แผงหน้าปัดและคอนโซล จากเดิมที่เคยเป็นแบบ Traditional แยกส่วนระหว่างจอแสดงการขับขี่และหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว ดูให้ความรู้สึกอนุรักษ์นิยมมากไป การกลับมาครั้งนี้จึงจัดเต็มด้วยชุดหน้าจอแบบโค้งทำมุมเฉียงไปทางฝั่งผู้ขับขี่เล็กน้อยและออกแบบให้ยาวต่อกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นการจับคู่ของชุดห้าจอคลัสเตอร์ขนาด 12.3 นิ้ว และจออินโฟเทนเม้นท์แบบสัมผัสขนาด 14.9 นิ้ว ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่การใช้ระบบปฏิบัติการณ์ iDrive 8 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของค่าย BMW ในส่วนของระบบขับเคลื่อนแม้จะเป็นชุดเกียร์จาก ZF 8 สปีด เช่นเดิม แต่ลูกเล่นในการควบคุม จากเดิมที่เคยเป็นคันเกียร์จอยสติ๊กที่มีขนาดใหญ่ ถูกปรับลดขนาดลงมาให้กะทัดรัดในรูปแบบปุ้มที่วางอยู่ข้างชุดคอนโทรล iDrive
ด้วยความเป็นรถในรูปแบบ 7 ที่นั่ง หากโดยสารกันจนเต็มคัน อาจทำให้สมรรถนะของตัวรถ BMW X7 ถูกลดทอนลงไปบ้าง ซึ่งทางค่ายเข้าในตรงจุดนี้ดี การกลับมาของ BMW X7 โฉม LCI ในครั้งนี้จึงมีการปรับระดับของพละกำลังมาให้ด้วย โดยในรุ่นเริ่มต้น BMW X7 xDrive 40i มีการปรับแรงม้าจากเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เทอรโบ เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนถึง 40 ตัว (380 แรงม้า) พร้อมอัพแรงบิดเพิ่มขึ้นอีก 71 นิวตัน-เมตร (เป็น 519 นิวตัน-เมตร) โดยหากทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ 48 โวลต์ แบบ Mild Hybrid จะช่วยเติมแรงบิดในช่วงสั้นๆ ได้ถึง 540 นิวตัน-เมตร โดยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.6 วินาที
แตกหากความเร้าใจในเลเวลนั้น…ยังไม่เพียงพอ ทางค่ายใบพัดฟ้าขาวยังมีทางเลือกด้วย BMW X7 M60i ที่มาพร้อมขุมพลัง V8 พิกัด 4.4 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่พกพอมอเตอร์ช่วยออกตัวแบบ 48 โวลต์ มาด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อรวมกับท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ถูกติดตั้งมาให้จากโรงงานแล้ว จะส่งให้ BMW X7 M60i ทำกำลังได้มากถึง 523 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 750 นิวตัน-เมตร ซึ่งร่นเวลาในการเร่งสู่ความเร็วเดียวกันเหลือเพียง 4.5 วินาที เท่านั้น (เท่ากับรุ่นเดิมในรหัส M50i) แต่อีกประการหนึ่งที่จะช่วยให้ BMW X7 โฉม LCI ดูกระฉับกระเฉงมากขึ้นก็คือ ฟังค์ชั่น Sprint ที่จะทำหน้าที่ลดเกียร์ให้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด (เท่าที่จะสัมพันธ์กับความเร็ว) พร้อมกับปรับเซ็ตช่วงล่าง รวมถึงระดับการตอบสนองให้อยู่ในเลเวลสูงสุด เพื่อให้ตัวรถพร้อมที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วย Power Band สูงสุดที่มีให้ใช้
ในส่วนของช่วงล่าง BMW X7 โฉม LCI ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมระบบกันสะเทือนในรูปแบบ Air Suspension โดยความแตกต่างจะอยู่ที่ในรุ่น X7 M60i จะมีการเพิ่มระบบ Active Roll Stabilization พร้อมระบบการช่วยเลี้ยวด้วยล้อหลังเพิ่มเข้ามา (หากต้องการออพชั่นเหล่านี้ในรุ่น X7 xDrive 40i สามารถเลือกเพิ่มเติมได้เช่นกัน) แต่หากบวกไปบวกมาจนเพลิน อาจจะทำให้ราคาของ BMW X7 xDrive 40i (77,850 เหรียญฯ หรือประมาณ 2.6 ล้านบาท) ขยับเข้าไปใกล้ BMW X7 M60i ที่ราคา 103,100 เหรียญฯ (ประมาณ 3.46 ล้านบาท) ก็เป็นได้
