หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ค่าย Toyota ออกมาประกาศว่าพร้อมจะเล่นใหญ่ พัฒนาแบตเตอรี่แบบ Bipolar LFP รวมถึงแบตเตอรี่แบบ Solid State สำหรับการใช้งานในรูปแบบโปรดักชั่นภายในปี 2030 ล่าสุด Toyota ออกมาย้ำความมั่นใจอีกครั้งว่า ได้รับงบสนับสนุนมหาศาลถึง 853 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 30,000 ล้านบาท จากรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับรถ EV ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในอนาคต
ตามรายงานจาก Nikkei หลังจากที่ค่าย Toyota ประกาศแผนการพัฒนารถ EV ครั้งใหญ่ ล่าสุดก็มีการนำเสนอความเคลื่อนไหวที่สำคัญ โดยเป็นการที่ฝั่งรัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมทุ่มงบสนับสนุนโปรเจ็คท์ดังกล่าว เพื่อให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศญี่ปุ่น กลับมาคึกคักอีกครั้ง จากการเพิ่มผลผลิตภายในประเทศ เช่น การขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับลดยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้งวางแผนลดการพึ่งพาชิ้นส่วนประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากประเทศจีน
สำหรับการช่วยเหลืองบประมาณ 853 ล้านเหรียญสหรัฐ (120,000 เยน ดังกล่าว) นอกจากะเป็นเงินที่มาจากฝั่งรัฐบาลแล้ว ยังมาจากการระดมทุนจากบรรดาซัพพลายเออร์ชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น เช่น Panasonic (ถือหุ้นน้อยกว่า 10% ในการเป็นซัพพลายเออร์ให้กับ Tesla ซึ่งเมื่อเทียบกับแบรนด์ในประเทศจีนอย่าง CALT และ BYD ยังถือว่าอยู่ในอัตราส่วนที่ต่ำกว่ามาก) โดยเงินสนันสนุนดังกล่าว Toyota จำนำมาเป็นทุนในการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเจนเนอเรชั่นต่อไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมาในรูปแบบลิเธียมไอออนแบบ 2 ขั้ว (Bipolar Lithium Iron Phosphate) ที่ให้ประสิทธิภาพในการใช้งานมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมในปัจจุบัน 20% แต่มีราคาต่ำลงกว่าเดิมถึง 40% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ที่ใช้อยู่ใน Toyota bZ4X
ณ ปัจจุบัน Toyota วางแนวโน้มว่าจะนำแบตเตอรี่รูปแบบใหม่มาใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของตัวเองภภายในปี 2026-2027 โดยวางเป้าหมายเอาไว้ว่า จะสามารถรองรับการเดินทางได้ถึง 965 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง นอกจากนี้ Toyota ยังวางแผนไว้ว่า จะนำเงินที่ได้จากการสนับสนุนส่วนหนึ่งไปใช้ในการพัฒนาแบตเตอรี่แบบ Solid State ซึ่งเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ในรูปแบบ Bipolar LFP แล้ว จะมีระยะการเดินทางที่เพิ่มขึ้นอีก 20% (มากกว่า 1,150 กม. ต่อชาร์จ) โดยคาดว่าแบตเตอรี่ชนิดนี้ จะพร้อมใช้ภายในปี 2028
นอกจากแบตเตอรี่รูปแบบใหม่แล้ว สิ่งหนึ่งที่ Toyota กำลังพยายามพัฒนาควบคู่กันไป คงหนีไม่พ้นเทคโนโลยีการผลิตตัวถังรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Giga Cast ซึ่งนอกจากจากจะช่วยลดต้นทุนในการผลิตแล้ว เทคโนโลยีนี้ ยังพร้อมให้ประสิทธิภาพอันโดดเด่นในเรื่องแอโร่ไดนามิคส์ โดย Toyota วางแผยว่าจะเปิดตัวรถ EV อีก 10 รุ่น ภายในปี 2026 โดยยังคงไม่ละทิ้งจุดยืนขังตัวเองที่จะพัฒนารถในรูปแบบ FCEV รวมถึง HICEV ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงานหลักควบคู่กันไปด้วย
Toyota เล่นใหญ่ ผุดโปรเจ็คท์สร้างรถ EV ที่วิ่งได้ไกลกว่า 1,400 กม. ต่อชาร์จ !!!
