ภายใต้แรงกดดันจากทุกภาคส่วนในรอบปีที่ผ่านมา อาจจะถึงเวลาแล้ว ที่แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ระดับบิ๊กเนมอย่าง Toyota ต้องหันมาจริงจังกับการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการนำพลังงานไฮโดรเจนในรูปแบบต่างๆ มาใช้ เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความเป็นกลางทาคาร์บอนในปี 2050 ซึ่งล่าสุดมีความเคลื่อนไหวออกมาว่า Toyota เตรียมยกระดับการพัฒนารถ EV ของตัวเอง
สำหรับแผนการอันแรกในการสร้างรถ EV ของ Toyota ถือว่ามาแบบพลิกเกม โดยข้อมูลที่ทางค่ายให้มาก็คือ พร้อมที่จะพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 ไมล์ หรือประมาณ 965 กม. ต่อชาร์จ ภายในปี 2026 โดยรถ EV ที่แพลนไว้ว่าจะเปิดตัวในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นรถในเครื่องหมายการค้า Lexus ซึ่งจะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเจนเนอเรชั่นต่อไป ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ ขั้นตอนต่อไป ที่ทางค่ายให้ข้อมูลมาว่า ในอีก 2 ปีให้หลัง Toyota พร้อมที่จะขยับคุณภาพของรถ EV ภายใต้เครื่องหมายการค้าสามห่วง ให้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 900 ไมล์ หรือประมาณ 1,440 กม. ต่อชาร์จ ภายในปี 2028 อีกด้วย !!!
สำหรับเป้าหมายการผลิตรถ EV ที่สามารถวิ่งได้ไกลแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนของ Toyota กำหนดเอาไว้ในระหว่างปี 2026-2027 ซึ่งจะเป็นการพัฒนาแบตเตอรี่แบบ Bipolar Lithium Iron Phosphate หรือแบตเตอรี่แบบ 2 ขั้ว ซึ่งมีคุณสมบัติที่สำคัญ คือ นอกจากจะให้ปฏิกริยาในการสร้างพลังงานในระดับสูง ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มระยะทางการวิ่งต่อชาร์จได้อีกราว 10% แล้ว ยังช่วpลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ได้มากถึง 40% เมื่อเทียบกับการผลิตในรูปแบบเดิม โดยแบตเตอรี่ในรูปแบบ Bipolar Lithium Iron Phosphate นี้ จะเริ่มเข้าสู่สายการผลิตในช่วงปี 2027-2028 เป็นต้นไป
ด้วยเทคโนโลยีที่ว่ามา บวกกับแพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า e-TNGA ที่มีอยู่แล้ว ทำให้ Toyota ตั้งเป้าการผลิตรถ EV ของตัวเองไว้ถึง 1.7 ล้านคัน ภายในปี 2030 โดยในช่วงปี 2027 เป็นต้นไป ความเคลื่อนไหวในวงการแบตเตอรี่ของ Toyota อาจเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง โดยจะมีการนำแบตเตอรี่ในรูปแบบ Solid-State ยุคแรกเริ่มมาใช้ ซึ่งจุดเด่นของแบตเตอรี่ชนิดนี้ คือ ช่วยเพิ่มระยะการเดินทางได้อีก 20% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ในรูปแบบลิเธียมไอออน และหากพัฒนาสู่ขั้นต่อไปจนกลายเป็น Advanced Solid-State แบตเตอรี่ชนิดนี้ จะสามารถเพิ่มระยะทางการวิ่งได้ถึง 50% ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ต่อชาร์จของรถ EV จากแบรนด์ Toyota จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 900 ไมล์ หรือราว 1,448 กม. เลยทีเดียว
นอกจากการพัฒนาแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแล้ว เป้าหมายอย่างหนึ่งของ Toyota คือ Giga Casting Technologies เพื่อลดความซับซ้อนในการผลิต (ได้แรงบันดาลใจมาจากเทคโนโลยี Giga Press ของ Tesla) ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อความเร็วในการผลิตรถยนต์แล้ว ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยพัฒนาตัวรถให้มีแอโร่ไดนามิคส์ที่ดีมากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ว่า จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำกว่า 0.20 ในปีด 2-3 ปีข้างหน้า
ทั้งหมดทั้งมวล เป็นแผนการที่ถูกวางโดยผู้บริหารระดับสูงของ Toyota ในศูนย์ Higashi-Fuji Technical Center เพื่อเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ซึ่งหากมองจากแนวคิดที่ถูกนำเสนอแล้ว ชัดเจนว่า Toyota มีแพลนจะนำเสนอรถ EV รุ่นต่อไป ภายในปี 2026 และเราคงต้องรอดูกันต่อไปว่า ถ้าทำได้อย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ Toyota จะกลับมาสร้างปรากฏการณ์ในวงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้อย่างเร้าใจขนาดไหน ?