Home » จบสวยไหม…เมื่อ Rocket Drone ต้องบินไล่ตามตัวแข่ง Formula 1 ของแชมป์โลกแห่ง Red Bull ใน Silverstone !!!

จบสวยไหม…เมื่อ Rocket Drone ต้องบินไล่ตามตัวแข่ง Formula 1 ของแชมป์โลกแห่ง Red Bull ใน Silverstone !!!

by Admin clubza.tv
เมื่อ Rocket Drone ต้องบินไล่ตามตัวแข่ง Formula 1

ในขณะที่หลายคนกำลังตื่นเต้นกับการกลับมาของมอเตอร์สปอร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Formula 1 ฤดูกาล 2024 ทางฝั่งทีมแชมป์โลกอย่าง Red Bull Racing ก็ได้ฤกษ์ “ปล่อยของเล่น” ออกมายั่วน้ำลายแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตอีกครั้ง โดยในครั้งนี้เป็นคิวของ Red Bull  Rocket Drone ที่จะบินเก็บภาพความประทับใจที่ความเร็วในระดับ 350 กม./ชม. ในสนามแข่งชั้นนำของโลกอย่าง Silverstone ประเทศอังกฤษ

Red Bull  Rocket Drone โดรนซิ่งที่บินพร้อมบันทึกภาพได้เร็วที่สุดในโลก

สำหรับภารกิจท้าความเร็วของ Red Bull Rocket Drone อยู่ภายใต้การสนับสนุนจากพันธมิตรอย่าง Dutch Drone Gods (DDG) ทุ่มทุนสร้างโดรนติดกล้องที่สามารถทำความเร็วได้สูงที่สุดในโลก เพื่อบินตามรถแข่ง Formula 1 ของทีม Red Bull Racing ในสนาม Silverstone Circuit ซึ่งโดยปกติแล้ว โดรนทั่วๆ ไป จะสามารถทำความเร็วได้ไม่เกิน 60 กม./ชม. แต่แน่นอนว่า ข้อจำกัดดังกล่าว ใช้ไม่ได้กับ Red Bull Rocket Drone ที่ได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพสูงกว่านั้นหลายเท่าตัว เพื่อให้สามารถบินได้เร็วพอที่จะไล่ตามถ่ายตัวแข่ง RB20 ของ Max Verstappen แชมป์โลก Formula 1 สามสมัยซ้อน ได้สำเร็จ

ความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม. มันช่าง…วาร์ป ซะเหลือเกิน !

แน่นอนว่า…เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว Red Bull Rocket Drone จะต้องสามารถบินด้วยความเร็วที่สูงถึง 350 กม./ชม. ซึ่งการจะพัฒนาให้โดรนสามารถทำความเร็วได้สูงขนาดนั้น จะต้องมีหลายๆ องประกอบควบคู่กัน อย่างแรกเลยก็คือ การออกแบบรูปทรงของ Red Bull Rocket Drone จะมาในดีไซน์ที่คล้ายกับกระสวยอวกาศ อันเป็นที่มาของชื่อ Rocket Drone ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากทีมงานของ Red Bull Racing ในการออกแบบตัวโดรนให้มีแอโร่ไดนามิคส์ที่ดีที่สุด โดยแม้ว่าด้วยความเร็วในระดับ 350 กม./ชม. จะไม่สามารถส่งให้ Red Bull Rocket Drone เป็นโครนที่บินได้เร็วที่สุดในโลก แต่หากเป็นเรื่องการถ่ายทำแล้วล่ะก็…นี่ถือเป็น โดรนถ่ายทำที่มีความเร็วสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว

ด้วยข้อจำกัดด้านพลังงาน ทำให้หากจัดเต็ม…จะสามารถบินต่อเนื่องได้เพียง 3 นาที เท่านั้น

ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวของ Red Bull Rocket Drone คงหนีไม่พ้นเรื่องการใช้พลังงานที่ถือว่าสูงมากๆ ซึ่งหากต้องการถ่ายการวิ่งของตัวแข่ง Formula 1 ในรอบสนาม Silverstone Circuit ให้จบในเทคเดียว ตัวโดรนจะต้องชะลอความเร็วแบบเดียวกับที่รถต้องเบรกในขณะเข้าโค้ง โดยหากใช้สำหรับการถ่ายทำด้วยความเร็วในระดับสูงสุดที่ 350 กม./ชม. Red Bull Rocket Drone จะสามารถใช้งานได้เพียง 3 นาที เท่านั้น

Max Verstappen กับ Shaggy FPV นักบินของเขา

Checo Perez รวมถึง David Coulthard ถูกใจสิ้งนี้

นอกจากความท้าทายที่เกิดขึ้นกับตัวอุปกรณ์แล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องมีความแม่นยำไม่แพ้กัน คงหนีไม่พ้นทักษะในการควบคุมของนักบินโดรน Ralph Hogenbirk (นักเล่นโดรนระดับโลก รู้จักกันดีในชื่อ Shaggy FPV) ซึ่งต้องควบคุมทั้งทิศทางการบินของโดรน รวมถึงต้องแพนกล้องในทิศทางการเคลื่อนที่ของรถแข่ง Formula 1 ซึ่งขับโดยแชมป์โลก Max Verstappen โดยเขาจะต้องบังคับโดรนเพื่อหลบหลีกทั้งป้ายสัญญาณ, สะพาน รวมถึงบังคับเพื่อให้สู้กับกระแสลมที่เกิดจากแอโร่ไดนามิคส์ของตัวรถ


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy