ระบบการขับเคลื่อนในรูปแบบ e-Power กำลังเป็นไฮไลท์ของการพัฒนาของทางค่าย Nissan ซึ่งในประเทศไทย ก็มีการทำตลาดด้วย Nissan Kicks e-Power ที่ขึ้นชิ่อในเรื่องสมรรถนะ อัตราการตอบสนองที่ดีเยี่ยม เมื่อเทียบกับรถที่ใช้เครื่องยนต์เพียวๆ หรือรถที่มาพร้อมระบบไฮบริดทั่วๆ ไป จากการตอบสนองของชุดมอเตอร์ที่มีกำลังสูง ซึ่งรับหน้าที่ขับเคลื่อนแบบ 100% โดยเครื่องยนต์ที่ติดตั้งมานั้น ทำหน้าที่แค่ปั่นไฟเพื่อจ่ายให้กับชุดมอเตอร์ โดยขุมพร้อมในรูปแบบ e-Power ยังให้อัตราสิ้นเปลืองที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ได้อย่างลงตัว รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ครบครัน และที่ขาดไม่ได้คือ คันเร่งอัจฉริยะ One Pedal ที่ช่วยยกระดับการขับขี่ให้สะดวก และตอบรับกับไลฟ์สไตล์การเดินทาง โดยเฉพาะในสภาพการจราตจรที่แออัดได้ง่ายมากขึ้น
Nissan Sylphy e-Power
นอกจาก Nissan Kicks e-Power แลัว ในตลาดโลกยังมีรถรุ่นอื่นๆ ที่ใช้ระบบขับเคลื่อน e-Power แบบเดียวกันนี้ ไม่ว่าจะเป็น Nissan Note e-Power หรือ Nissan Serena e-Power ที่จำหน่ายอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรุ่นล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัวเลยก็คือ Nissan Sylphy รถยนต์ไซส์ Compact Car ที่จะมาพร้อมการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนอย่าง e-Power เช่นเดียวกัน โดยคาดว่า Nissan Sylphy e-Power จะเปิดตัวในประเทศจีนเร็วๆ นี้ ตามแผนที่ทางค่ายเตรียมจะเปิดตัวรถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ e-Power ถึง 6 รุ่น ที่ประเทศจีน ภายในปี 2025
อย่างที่เกริ่นไปในข้างต้น การทำงานของระบบ e-Power นั้น จะอาศัยการขับเคลื่อนจากมอเตอร์ล้วนๆ เครื่องยนต์ที่ติดตั้งมาให้ จะมีหน้าที่แค่การช่วยปั่นไฟเพื่อจ่ายให้กับแบตเตอรี่ในบางจังหวะ ในโหลดที่ต่ำ เนื่องจากไม่ได้มีระบบส่งกำลังเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นแค่การหมุนของรอบเครื่องยนต์ปั่นเจนเนอเรเตอร์ เพื่อจ่ายให้กับชุดมอเตอรื หรือเก็บกักไว้ในแบตเตอรี่เท่านั้น ซึ่งด้วยโหลดการทำงานที่ต่ำ ย่อมส่งผลให้เครื่องยนต์มีอัตราสิ้นเปลือง รวมถึงการสึกหรอ และค่าดูแลรักษาที่ต่ำในระดับที่เทียบเท่ากับรถในรูปแบบ Eco Car เลยทีเดียว
แม้จะยังไม่มีการเผยรายละเอียดของระบบ e-Power ที่จะนำมาใช้ใน Nissan Sylphy e-Power แต่คาดว่าระบบที่จะนำมาใช้ล่าสุดนี้ จะมีแรงบิดสูงสุดถึง 300 นิวตัน-เมตร และจะมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่กว่า 25 กม./ลิตร ซึ่งหากดูจากสเป็คแล้ว ถือว่าเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่มีรายละเอียดที่น่าสนใจ แต่ก็น่าเสียดายที่ในบ้านเรายกเลิกการทำตลาดของ Nissan Sylphy ไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งหากกลับมาได้จริง และสามารถทำแผนโปรโมทได้อย่างน่าสนใจ ก็อาจจะช่วยให้ Nissan Sylphy e-Power กลับมาติดตลาดสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ได้ไม่ยาก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Carscoop
