Home » เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดประสบการณ์สุดเร้าใจสไตล์ AMG ส่งตรงจาก Affalterbach กับกิจกรรมระดับโลก “AMG Experience On Track” ครั้งแรกในประเทศไทย

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดประสบการณ์สุดเร้าใจสไตล์ AMG ส่งตรงจาก Affalterbach กับกิจกรรมระดับโลก “AMG Experience On Track” ครั้งแรกในประเทศไทย

by Admin clubza.tv
AMG Experience On Track

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) สานต่อดีเอ็นเอของแบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูง “Mercedes-AMG” ส่งมอบประสบการณ์ระดับโลกครั้งแรกในประเทศไทยและเป็นตลาดที่ 2 ของโลกต่อจากสหรัฐอเมริกาที่จัดกิจกรรม “AMG Experience On Track” ชวนลูกค้าและสื่อมวลชนชาวไทยสัมผัสกับนิยามความแรงของสุดยอดยนตรกรรมในตระกูล AMG ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “The World’s Fastest Family” ทั้งหมด 8 รุ่นนำโดยเอสยูวีพี่ใหญ่อย่าง “Mercedes-AMG G 63” สปอร์ตโรดสเตอร์ในตำนาน “Mercedes- AMG SL 43” รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในตระกูล AMG “Mercedes-AMG EQE 534MATIC+” รวมถึงยนตรกรรมอีกหลายรุ่น ได้แก่ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe,Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe และ Mercedes-AMG GLE 53 4MATIC+พร้อมฝึกทักษะการขับขี่ขั้นสูงร่วมกับผู้ฝึกสอนดีกรีนักแข่งระดับโลก บนสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

กิจกรรมระดับโลก “AMG Experience On Track”

ประเดิมปีแรกของกิจกรรม “AMG Experience On Track” ด้วยเซอร์ไพรส์สุดพิเศษอย่างการปรากฏตัวของ “เบิร์น ชไนเดอร์” (Bernd Schneider) นักแข่งชาวเยอรมันที่ถือเป็นตำนานของรายการการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก “DeutscheTourenwagen Masters” (DTM) ด้วยการกวาดแชมป์ถึง 5 สมัย โดยเบิร์น ชไนเดอร์เข้าร่วมกิจกรรมในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Mercedes-AMG รับบทบาทเป็นหนึ่งในผู้ฝึกสอนที่ช่วยแนะนำเทคนิคต่างๆ ให้กับลูกค้าและสื่อมวลชน ตลอดทุกเซสชั่นของกิจกรรมบนสนามแข่งกิจกรรม “AMG Experience On Track” ประกอบไปด้วยสถานีการทดสอบการขับขี่ทั้งหมด 4 สถานี เพื่อฝึกทักษะในด้านต่างๆ ให้กับผู้ร่วมกิจกรรม รวมถึง สร้างความคุ้นเคยกับสุดยอดยนตรกรรมจาก Mercedes-AMG และเรียนรู้เทคนิคการขับขี่บนสนามแข่ง ก่อนที่จะลงขับขี่จริงแบบเต็มสนามโดยมีรายละเอียดของสถานีต่างๆ ดังนี้

กิจกรรมระดับโลก “AMG Experience On Track”

สถานีที่ 1 “High Speed Break and Swerve”

การทดสอบระบบเบรกและระบบความปลอดภัยของตัวรถรวมถึงการทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ท้าทายต่อผู้ขับขี่
เพื่อทำให้ผู้ขับขี่คุ้นชินกับระยะเบรกของรถและระบบความปลอดภัยที่เข้ามาช่วยเหลือผู้ขับขี่ในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ โดยแบ่งการทดสอบเป็น 2 ส่วนคือการทดสอบเบรกทางตรงและการทดสอบเบรกแบบหักหลบสิ่งกีดขวางด้วยพิกัดความเร็ว 80 และ 100 กม./ชม. ตามลำดับซึ่งผู้ขับขี่จะต้องอาศัยทักษะการขับขี่และความเร็วในการตอบสนองต่อสัญญาณไฟที่ปรากฏอยู่บนเสาสถานี เพื่อเบรกฉุกเฉินพร้อมหักหลบไปยังทิศทางที่กำหนดไว้สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในสถานีนี้ ได้แก่ Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe,Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+และ Mercedes-AMG GLE 53 4MATIC+

สถานีที่ 2 “Motokhana”

ด่านสุดหินที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางมากมายที่บังคับให้ผู้ขับขี่ต้องสร้างความสมดุลระหว่างความเร็ว ความคล่องตัวและความปลอดภัยในการขับขี่โดยมีหัวใจสำคัญคือการควบคุมการทรงตัวของรถ การบังคับทิศทางของพวงมาลัยการกะระยะและจังหวะเบรก รวมถึงการเติมคันเร่งในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อฝ่าฟันทุกสิ่งกีดขวางไปได้อย่างปลอดภัยในระยะเวลาที่สั้นที่สุดโดยมีความพิเศษคือทุกคนจะได้รับชมไลน์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบจาก “เบิร์น ชไนเดอร์”ก่อนที่จะเริ่มทดสอบ สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในสถานีนี้ คือ Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC

 สถานีที่ 3 “Corner Theory” หนึ่งสิ่งที่ท้าทายที่สุดในสนามแข่งคือการเข้าโค้ง

ทุกคนจะได้เรียนรู้ทฤษฎีการเข้าโค้งและสร้างความคุ้นเคยกับเส้นทางคดเคี้ยวในช่วงครึ่งหลังของสนามช้างฯซึ่งมีรูปแบบของโค้งที่หลากหลายและให้ความรู้สึกท้าทายในรูปแบบที่ต่างกันโดยมีเป้าหมายในการขับขี่ผ่านโค้งต่างๆ อย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุดซึ่งผู้ฝีกสอนจะคอยแนะนำขั้นตอนทั้งหมด ตั้งแต่จังหวะการเบรกก่อนเข้าโค้งการลดรัศมีของโค้ง วิธีการมองจุดตัดยอดโค้งจนไปถึงการหาทางออกและจังหวะการออกรถเมื่อพ้นโค้งโดยทุกเทคนิคสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งการขับขี่บนสนามแข่งและการขับขี่บนถนนในชีวิตประจำวัน สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในสถานีนี้ คือ Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+

 สถานีที่ 4 “Drag Race / Brake to the Point”

สถานีที่ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสถึงสมรรถนะอันทรงพลังของรถตระกูล Mercedes-AMGด้วยการจำลองการแข่งทางตรงในระยะสั้น
โดยนอกจากการเร่งความเร็วแบบเต็มสูบตั้งแต่จังหวะการออกตัวเพื่อทิ้งห่างคู่แข่งเมื่อใกล้ถึงจุดที่กำหนดผู้ขับขี่จะต้องกะระยะเบรกให้รถหยุดนิ่งในตำแหน่งที่ถูกต้องเพื่อชนะการแข่งขันในแต่ละรอบ สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในสถานีนี้ ได้แก่ Mercedes-AMG G 63, Mercedes-AMGSL 43, Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+, Mercedes-AMG GLC 43 4MATICCoupe และ Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC

และเมื่อฝึกทักษะจนครบหลักสูตรทั้ง 4 สถานีทุกคนจะได้ลงสนามจริงเพื่อขับขี่แบบเต็มสนามในรอบ Lead & Followซึ่งจะมีผู้ฝึกสอนเป็นผู้ขับนำและขับขี่ตาม Racing Line ที่ถูกต้องโดยจะมีการแบ่งกลุ่มการขับขี่เป็นกลุ่มๆ ด้วยรถที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกันและในแต่ละรอบผู้ขับขี่จะได้สับเปลี่ยนกันขับยนตรกรรมหลากหลายรุ่นสัมผัสความแรงทุกรูปแบบในทุกพิกัดตัวถังของรถในตระกูล Mercedes-AMGรวมถึงการลองโหมดการขับขี่ในโหมด Sport และ Sport+ ที่มีอยู่ในรถยนต์ Mercedes-AMGทุกรุ่น

 

 

ปิดท้ายด้วยการมอบประกาศนียบัตรที่ได้รับการรับรองจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยและมอบของรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแบรนด์ Mercedes-AMGให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันที่สามารถทำเวลาได้ดีที่สุดจากการทดสอบการขับขี่ในกิจกรรม “AMG Experience On Track”

 


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy